คณะสงฆ์ทั้งแผ่นดินเปิดใจถาม.! คุณเป็นคนไทยหรือเปล่า? โดย เจ้าคุณเบอร์ลิน

เป็นคนไทยหรือเปล่า ? 

คณะสงฆ์ทั้งสังฆมณฑล

เปิดใจถาม ..

   " หน้าไหว้..หลัง.?. "

นายกทหารไทยชื่อ " บิ๊กตู่ "
กรณีตัดช่องน้อยตนเพื่อ
เอาตัวรอด แลกถวายคดีอาญา
แก่พระชรา ในวันเข้าพรรษา
ได้ใจชายชาติทหารจริงๆ

เนื้อหาสาระ ในโพสต์ครั้งนี้ดังนี้ครับ

" กฤษฎีกาตีความ เกี่ยวโยง DSI 
แปะคดีอาญารถโบราณแทนการ
ถวายเทียนพรรษา กับพระชราคราวปู่ 
หลังกฤษฎีกาตีความ ม.7 
แบบนายกรัฐมนตรีหมดทางยื้อ "

พระสงฆ์ไทยไม่ได้โง่ 

ไม่ได้กลัวใดๆ 

อย่างที่รัฐบาลคิด !

โพสต์นี้เจ้าคุณเบอร์ลิน และทีมงาน
จะขอมาแบบเน้นเนื้อๆ ตามสไตล์
นะครับ หัวข้อที่จั่วโพสต์ไว้ข้างต้นนั้น
ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตนของ
เจ้าคุณเบอร์ลิน ที่ถือเจตนาบริสุทธิ์
เป็นที่ตั้ง หวังดีต่อชาติบ้านเมือง
คนหนึ่ง ที่เรียกว่า..

นั่งไม่เปลี่ยนชื่อ เดินไม่เปลี่ยนแซ่ 

โพสต์แต่ละครั้ง จึงตรงไปตรงมาครับ
ไม่มีอ้อมทางให้เสียเวลาข้อจั่วหัวใน
ข้างต้น ผมต้องการถามตรงๆ กับ
คนไทยชื่อ คุณประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรีไทยที่ไม่ใช่นายทหาร
ที่ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นะครับ.!

นั้นก็คือ คนที่ผมหมายถึงนี้เป็นเพียง
แค่คนธรรมดาๆ คนที่ไม่ใช่นายทหาร
ที่มีศักดิ์ศรีของชายชาติทหาร
อันน่าภาคภูมิ..

ความหมายชัดเจนแล้วนะครับ

ในเบื้องต้น..
ผมก็อยากจะขอเตือนทุกๆ คน
ที่อยู่ใกล้หรือร่วมงานกับท่านนายก
ท่านนี้ด้วยถือว่าเป็นการเตือนด้วย
เจตนาดีเอาไว้สักหน่อยนะครับ
เตือนแบบคนนอกที่มองคุณประยุทธ์
ออกแบบ "ขาด" นี้แหละครับ

ตัวคุณประยุทธ์เอง..
ก็อาจได้ประโยชน์ด้วยหากรู้จัก
นำส่วนดีไปได้ รวมทั้งเตือนไปถึง
ท่านรองนายกที่ชื่อ บิ๊กป้อมด้วย
ก็เป็นบิ๊กป้อมคนเดียวกับที่แกเกลียด
เจ้าคุณเบอร์ลินจนเข้ากระดูก

ถึงขนาดข้ามน้ำข้ามทะเลไปถึง
เกาะอังกฤษ ก็ยังอุตส่าห์หอบ
ชื่อผมไปวางบนโต๊ะสนทนา
ให้จัดการนั้น ด้วยนะแหละ (รู้นะ).!

คือผมอยากจะบอกว่า ..
หากใคร ๆ ยังคิดว่าท่านนายกบิ๊กตู่
ท่านนี้ ยังเป็นทหารคนเดิมอยู่ละก็ 
ผมเตือนว่า .."ท่านคิดผิด" ครับ

บิ๊กป้อมก็เหอะ ..ไอ้ที่เขาบอกว่า
พี่ป้อมจะเอาอะไรก็เอาไป
จะทำอะไรก็ทำไปนั้นอย่าใจอ่อน
นะครับหากขืนวางใจไม่ระวัง
รอบคอบจงระวังบ่วงจะรัดคอตัวเอง
ในภายหลังนะครับ

ผมพูดแค่นี้ คนใกล้ชิดนายกท่านนี้
ก็คงทราบแล้วนะครับซึ่งผมก็ไม่ได้
ไปกล่าวหาท่านนายกว่า..

ดีชั่วผิดถูกอะไรหรอกนะครับ
ใครอย่าเพิ่งมาโกรธผมล่ะ
ผมยืนยันว่า นิสัยผมหวังดีต่อผู้คน
เสมอครับ เพียงเป็นการเตือน
ลักษณะว่าอย่าประมาท หรือวางใจ
ใครง่าย ๆ เท่านั้นแหละ.!

ส่วนความดีชั่วนั้น ก็แยกเป็นของใคร
ของมันกันเอาเอง บิ๊กป้อม ก็ยังไม่ต้อง
เชื่อผมก็ได้ แต่ขอให้เขียนติดข้างฝา
เพื่อเตือนสติไว้ว่า

จริงอย่างที่ผมว่าไว้หรือเปล่า 

ก็ไม่เสียหายอะไรนะครับ
ก็ไม่แน่นะครับ..
ไอ้เรื่องที่เจ้าคุณเบอร์ลินรู้มา
เพียงแค่อาทิตย์กว่าๆ ที่ผ่านมานั้น
บิ๊กป้อม อาจไม่รู้ก็ได้นะครับ

อย่าดูถูก..เจ้าคุณเบอร์ลิน
ว่ากระจอกนะครับ.!

    คำขอความร่วมมือ    

เมื่อทุกท่านได้อ่านโพสต์นี้แล้ว
ก็ขอได้โปรดพิจารณาแล้วก็
ช่วยนำไปเผยแพร่ในช่องทาง
ต่างๆ ให้มากที่สุด
"เพื่อเอาบุญร่วมกัน" นะครับ

เพราะการปกป้องพระศาสนานั้น
เป็นกุศลมหาศาล และเป็นหน้าที่
ของชาวพุทธทุกคน "ท่องในใจไว้" 
นะครับ ช่วยกันตีกันแผนชั่วคนพาล
ไว้ครับ เข้าตำราว่า "กันไว้ดีกว่าแก้"

ข่าวสะเทือนใจชาวพุทธ 

รับวันเข้าพรรษา ปี 2559 

คือรัฐบาลทหารไทยได้ตั้งข้อหา
แก่ประมุขสงฆ์ผู้อยู่ในวัยกว่า 92 ปี
ของไทย วันนี้ก็ต้องถือว่าเป็นวัน
แห่งเหตุการณ์ประวัติศาสตร์วันหนึ่ง
ของวงการพระพุทธศาสนาไทยเรา
เพราะวันนี้มีเหตุการณ์ที่

ใครได้ทราบแล้วผมคิดว่าทุกคน
ต่างก็รู้สึกหดหู่ใจแบบบอกไม่ถูก
กับข่าวร้ายนี้ ซึ่งมันเกิดขึ้นเพียง
คล้อยหลังวันเข้าพรรษามาแค่
2 วันเท่านั้นอนาถใจจริงๆ

วันนี้ 22 กรกฎาคม 2559
สื่อรายงานว่า DSI ได้จัดตั้งโต๊ะ
แถลงข่าวเอิกเริก เพื่อตั้งข้อหา
คดีอาญา เรื่องครอบครองรถโบราณ
แก่สมเด็จช่วง ผู้ปฎิบัติหน้าที่
สมเด็จพระสังฆราช แห่งวัดปากน้ำ
โดยมีรายละเอียด ตามที่ผมได้
แนบมาด้วยแล้วนี้นะครับ

สืบเนื่องจาก ฟ้าผ่ากลางวันที่
ทำเนียบ เมื่อกฤษฎีกาตีความ ม.7
ชนิดนายกบิ๊กตู่หมดทางออก

เพื่อเป็นการให้ชาวพุทธทุกท่าน
ได้ร่วมกันจดบันทึกไว้เป็น
ประวัติศาสตร์ ร่วมจารึกไว้ในวงการ
พระพุทธศาสนาโลก ไว้ให้ยาวนาน
ที่สุดเท่าที่จะนานได้

ทั้งเพื่อจะได้ให้อนุชนพุทธบุตร
รุ่นหลังๆ ได้จดจำไว้เตือนสติ
ในการออกมาปกป้องภัยที่จะเกิดขึ้น
กับพระพุทธศาสนาในอนาคตด้วย

โปรดอ่าน และบันทึกเรื่องราว
ดังต่อไปนี้ครับ.!

           สำคัญ 1           

ผมจะขอเรียบเรียงเหตุการณ์
ที่อยากจะให้ทุกท่านได้โปรด
ช่วยกันบันทึก..
ไว้ให้เป็นประวัติศาสตร์
ดังต่อไปนี้ครับ

มูลเหตุ DSI ตั้งข้อหา
สมเด็จช่วง เป็นเพราะนายก
บิ๊กตู่ ผวาคณะสงฆ์อาจแจ้ง
อาญา ม. 157 เป็นมายังไง ?

ก็เป็นที่ทราบกันมาโดยตลอด
ครับว่า ..

มีกลุ่มคนคัดค้านการสถาปนา
หลวงพ่อสมเด็จช่วง ขึ้นเป็น
สังฆราชซึ่งมีใครบ้าง สังคมก็
คงจะทราบกันแล้ว เพราะเปิดหน้า
กันมาเกือบหมดไปแล้วผมคงไม่
ต้องแจกแจงอะไรอีกแล้ว

เรื่องการสถาปนา

พระสังฆราชรูปที่ 20 นี้นั้น 

ถึงชั่วโมงนี้จะต้องสรุปว่า..

จุดหักเหที่สำคัญที่สุดที่ไหลมา
ถึง ณ วันนี้ ทั้งของฝ่ายสนับสนุน
และฝ่ายคัดค้าน ก็คือนับตั้งแต่
วันที่กฤษฎีกาได้ตีความ ม.7
พ.ร.บ. สงฆ์ เป็นต้นมาซึ่งออกมา
แบบชนิดที่ต้องเรียกว่า ..

ฟ้าผ่ากลางวันลงที่ทำเนียบ

ก็ว่าได้ เพราะฝ่ายคัดค้านที่มีคน
ของรัฐบาลเกือบทั้งหมดในคณะ
รัฐมนตรี ที่แทนที่จะยึด และยืนอยู่
ในกฏิกติกา และความถูกต้องของ
บ้านเมืองและจารีต

ด้านหน้าอาจคล้ายหวังดี
แต่ลับหลัง กลับทำตัวเป็น
ศิษย์เนรคุณร่วมเล่นเกมส์
สกปรกแอบช่วยและลุ้น
อยู่ข้างหลัง.!

ไปให้ท้ายกับฝ่ายกลุ่มอันธพาล
ที่ไม่ยึดกฎกติกา และออกมา
คัดค้านแบบไร้เหตุผลท่ามกลาง
ความกังขา ของคณะสงฆ์
และสังคมว่า..

รัฐบาลมีนโยบาย
ต่อคณะสงฆ์อย่างไรแน่ ?

การยื่นเรื่องเพื่อตีความ ม.7
หมวดตั้งสังฆราชตาม พ.ร.บ.สงฆ์
ในครั้งนี้ ของฝ่ายคัดค้านก็ยื่นทั้ง
ต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน และต่อ
คณะกรรมการกฤษฎีกาจึง..

เข้าข่าย
ส่อเจตนาว่าอาจไม่สุจริต?

ซึ่งว่าไปแล้ว ก็เป็นหน่วยงาน
ที่สังกัดรัฐบาลเดียวกันแต่ผ่ายื่น
ถึง 2 หน่วยงาน ที่จะต้องเรียกว่า..

" ยื่นแบบถูลู่ถูกังเพราะ
ลากไปยื่นที่นั่นที่นี่แบบมั่ว
ไปหมดทั้งผู้ยื่น และผู้รับ "

ทำเอาผู้คน ผู้รักความถูกต้อง
และเกรงกลัวบาปกรรม
จะตีความหมายอื่นไปไม่ได้
นอกจากว่า..

" พากันสงสัยในพฤติกรรม 
และมันแสดงถึงเจตนา
ไม่บริสุทธิ์ของรัฐบาล " 


สรุปผลในการตีความ คือ..

ผู้ตรวจการแผ่นดินตีความ
ไปอย่างหนึ่ง ?
คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความ
ไปอย่างหนึ่ง?

แตกต่างกันชนิดตรงข้าม
อย่างสิ้นเชิงจนเหมือนไม่ได้
สังกัดรัฐบาลเดียวกัน.!

นี้คือมูลเหตุ..
ที่คณะสงฆ์เริ่มไม่ไว้วางใจ
ต่อรัฐบาล และเริ่มหมดความอดทน
หลังจากที่ให้โอกาสมากว่า 2 ปี
ในการบริหารงาน โดยเฉพาะ
งานพระศาสนา !

นายกบิ๊กตู่ เกรงกลัว ม. 157 

ผลจากกฤษฎีกาตีความ ม.7

ต้องเข้าใจว่า..

เฉพาะการตีความของ 
" กฤษฎีกา " เท่านั้น ! 

ที่มีผลต่อ..
การปฎิบัติตามของนายกรัฐมนตรี
ส่วนการตีความ ของหน่วยงานอื่นๆ
ย่อมไม่มีผลใดๆ ทั้งสิ้นต่อรัฐบาล

เรื่องการนำเสนอรายชื่อพระมหาเถระ
ระดับสมเด็จพระราชาคณะที่มีอาวุโส
สูงสุดโดยสมณศักดิ์ ตามกฎหมาย
เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงสถาปนา
เป็นสมเด็จพระสังฆราชตามมติ มส.
นั้นก็ต้องบอกว่า ในสังคมชาวพุทธ
ไม่เฉพาะแต่พระสงฆ์เท่านั้นแต่หมาย
รวมถึงชาวพุทธทั่วโลกด้วย

ถึงวันนี้ต่างก็เชื่อ และสรุปกันไปแล้วว่า..

" รัฐบาลไทยชุดปัจจุบันมีเจตนายื้อ
การนำขึ้นทูลเกล้าฯ พยายามหาทาง
หลีกเลี่ยงในการนำชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ 
โดยไม่มีกฎหมายใดๆ มารองรับตามอ้าง "

ดังนั้น เมื่อกฤษฎีกาตีความออกมา 
และอธิบายข้อกฎหมายชัดเจนว่า ..

นายกรัฐมนตรีมีอำนาจหน้าที่

แค่ไหนอย่างไร ?

ดังนั้น คนที่ร้อนตัวที่เรียกว่านั่งไม่ติดที่
ที่สุดในประเทศ ก็คือนายกบิ๊กตู่นั้นเอง
ออกอาการหนัก ชนิดที่เรียกว่า..

หมดทางออกหมดทางยื้อ
มีทางเดียวคือจะต้องนำชื่อที่
มส. เสนอมาขึ้นทูลเกล้าฯ เท่านั้น.!!

ทางอื่นไม่มีกฎหมายใดๆ
มารองรับทั้งสิ้นฟังต่อนะครับ
แล้วจะรู้ว่า ..

ทำไม  DSI จึงถวาย

คดีอาญา แก่พระชรารูปหนึ่ง

แทนเทียนพรรษา ??

          สำคัญ 2         

สังคมถาม DSI ? การรีบแปะ
คดีความ " เรื่องรถโบราณ "
แก่สมเด็จช่วง เพราะต้องการ
หาทางออกให้นายกรัฐมนตรี 
ใช่หรือไม่ ?.

ตรงไปตรงมาก็คือ การที่ DSI
รีบสรุปคดีรถโบราณ ของสมเด็จช่วง
แบบรวดเร็วผิดปกติก็คือ ..

" เพื่อต้องการปลดบ่วงจาก 
การตีความ ม.7 พ.ร.บ. 
สงฆ์ 2505 (2535) นั้นเอง "

ข้อสงสัยของสังคมตรงนี้หาก
DSI ฉลาด ก็จงรีบแจงชะ
หรือจะปล่อยผ่านก็ตามใจ.!

ม.7 ทำไม ? 

มันเกี่ยวอะไรกันกับนายกรัฐมนตรี
เพราะเมื่อกฤษฎีกาได้ตีความ ม. 7
ออกมาชัดเจนว่า..

" อำนาจ และหน้าที่ของนายก
รัฐมนตรีนั้น ตามกฏหมายคณะสงฆ์
ฉบับนี้มีหน้าที่เพียงแค่จะต้องนำ
รายชื่อที่ มส. ลงมติและส่งมาถูกต้อง
แล้วนั้นจะต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ 
(จะต้อง)เพียงอย่างเดียวเท่านั้น !

จะเป็นอื่นจากนี้ ไม่ได้เด็ดขาด
ไม่ว่าจะกรณีใดๆ ทั้งสิ้นมิเช่นนั้น
ตัวนายกรัฐมนตรีเองก็จะต้องมี
ความผิดฐานะละเว้นฯ ตาม ม. 157
ชัดเจนนะครับ "

เมื่อเป็นเช่นนี้..
คนที่กินข้าวทุกคนที่ไม่ใช่กิน
เฉพาะแต่คนที่ทำเนียบเท่านั้น
ใครๆ เขาก็มองออกว่า..

การออกมาสรุปข้อกล่าวหา 
ต่อสมเด็จช่วง ของ DSI ในครั้งนี้ 
มันก็คือแผนหาทางให้ตัวท่าน
นายกรัฐมนตรีชื่อบิ๊กตู่ได้รอดพ้น 
ม.157 นั้นเอง !

พระสงฆ์ไทย ไม่โง่อย่างที่คุณคิด
หรอกนะครับ ขนาดเจ้าคุณเด็กๆ
อย่างเจ้าคุณเบอร์ลิน
ก็ยังมองออกเลย แต่ว่าก็ว่าเหอะ
เจ้าคุณเบอร์ลิน มองเกมนี้ออก
ตั้งแต่วันกฤษฎีกาตีความออกมา
แล้วว่า..

 

งานนี้ วงแตก !

แล้วผมยังว่าต่อไปว่า..

ระวังตัวนายกเองนะแหละ 
ดีไม่ดี ระวังจะก้าวล่วงพระราช
อำนาจเสียเอง.!

อันนี้ หนักกว่า ม.157 หลายเท่านะครับ
ไอ้ที่ว่าอะไรๆ ที่ว่าแน่ๆ ก็อย่านึกว่าชัวร์
ทั้งหมดนะครับ โบราณว่า

" เผื่อๆ ไว้บ้าง "

วันไหนลงหลังเสือเมื่อไรการเผื่อๆ
ไว้บ้างก็ดีนะครับ เดี๋ยวไอ้ที่ลงทุน
เก็บสะสมมาทั้งหมดเพื่อหวังจะได้
เสพสุขในช่วงปลายชีวิตนั้น

กรรมแรงอาจส่งผลเร็วเกินคาด
มันอาจจะไม่ทันได้ใช้นะครับทำ
ประมาทไป หวังดีต่อกันจึงเตือน
มาครับ เพราะคนพูดความจริง
มักอยู่ในสังคมไทยเรายากขึ้น
ทุกวันไปแล้ว หาคนพูดยากแล้ว
เตือนทุกคนนะแหละ เพราะนี้เป็น
สัจจธรรมครับ

สรุป

มีข่าวล่ามาเร็วจากคณะสงฆ์
และชาวพุทธเขาฝากผมมาดังนี้
คืออยากจะบอก กับทีมงานของ
ท่านนายกรัฐมนตรีที่ว่าเกมส์ปังแน่ๆ
แล้วนั้น..

หากต่อจากนี้ไป มีเวลาว่าง
มากนัก ที่วันๆ คนเขาเห็นแต่
มาสนใจทำแต่คดีพระนั้น

จากนี้ไป 
ก็ขอให้เตรียมหาทางออก
ให้นายก ไว้สักหน่อยนะครับว่า..

ทำอย่างไร ? 

ที่จะไม่ให้ท่านนายก
ต้องโดน ม.157 เสียเองเตรียม
ไว้ดีๆ นะครับงานนี้ พระสงฆ์ท่าน
ฝากผมมาบอกว่า..

" ฟ้องพระ ฟ้องสงฆ์ มามากแล้ว
หากจะโดนสงฆ์โดนพระฟ้องคืน
บ้างก็ให้ถือเสียว่า เป็นเกียรติแก่
วงศ์ตระกูลตน ก็แล้วกันนะครับ

แล้วต่อจากนี้ไปก็คงไม่ต้องมา
เรียกร้องให้ใครต่อใครให้มาปฏิบัติ
หรืออยู่ใต้กฎหมายให้เสียเวลา
หรอกนะครับคอยเรียกร้องกับ
ตัวเองนะแหละครับ.!! "

สุดท้ายหากข้อเท็จจริงไม่เป็น
ไปตามที่สื่อรายงานที่ DSI ได้ตั้ง
ข้อกล่าวหาแก่สมเด็จช่วง ละก็..

ผู้เกี่ยวข้อง ก็ให้ถือว่าพระท่าน
ให้พรวันเข้าพรรษาก็แล้วกันนะครับ
เพราะเห็นว่า มีคนเตรียมโยนขี้
ให้สื่อว่า "เต้าข่าว" ซะงั้น

แต่ถ้าหาก "สุมหัว" ไปตั้งข้อ
กล่าวหา โยนข้อหาอาญาบ้านเมือง
โดยไร้ยุติธรรม เหมือนไม่ใช่คนไทย
ให้กับพระชรารุ่นคุณทวดจริงละก็
ผมขอจบตรงนี้ว่า..

การคิดตัดช่องน้อยแต่พอตัว
เพื่อให้ตนรอดไปวันๆ เท่านั้น
ด้วยจิตอำมหิตโดยการคิดชั่ว
ถึงขนาดไปร่วมกันแปะคดีอาญา
ให้กับพระแก่ๆ รูปหนึ่ง

แบบไม่เกรงกลัวต่อบาปกรรมใดๆ
ทั้งสิ้นเพื่อให้ตนเองพ้นผิด ม. 157
นั้นคณะสงฆ์ทั้งสังฆมณฑล
และชาวพุทธไทย ก็ขอถามดังๆ ว่า..

คุณเป็นคนไทยหรือเปล่า ? 

วันเข้าพรรษาทำไม
เดินสวนทางสวรรค์ ? 

ขอถามคนธรรมดาที่ไม่มี
ยศถาบรรดาศักดิ์ใดๆ นะครับ
ไม่เกี่ยวคนเป็นชายชาติทหาร
ที่เขามีเกียรติ

เพราะชายชาติทหาร
ที่มีเกียรติในโลกนี้ เขาคง
ไม่ลดตัวลงมาคิดต่ำๆ 
ได้ขนาดนี้หรอก.!

ผมถามเฉพาะคนที่คิดชั่ว
และเกี่ยวข้อง ทุกระดับน่ะ
แหละครับ ส่วนคนอื่นที่ไม่เกี่ยว
ไม่เป็นอย่างที่ผมหมายถึงก็
เย็นกาย เย็นใจครับโพสต์นี้
ขอจบตรงที่ว่า..

" คดีนี้ ผมไม่รามือง่ายๆ นะครับ 
ไม่ได้ขู่ แต่พูดให้ฟังเฉยๆ 
ถึงคราวทีมของผม นำคดีอาญา
ไปถวาย สมเด็จอีแอบ บ้าง DSI 
ก็ให้เร่งทำบ้างก็แล้วกัน "

ไม่ว่ากันนะครับ หลวงป้า.??

โชคดีมีชัยทุกท่าน
เจ้าคุณเบอร์ลิน
Berlin,den 23.07.2016

ติดตามบทความใหม่ล่าสุดวันนี้!
 Click > สงฆ์มหานิกาย ต้องทนขมขื่นกับความอยุติธรรม 
แสนอำมหิตอีกนานแค่ไหน? โดยเจ้าคุณเบอร์ลิน

บทความแนะนำกรณีธรรมกาย

กรณีธรรมกาย : คำสอนคุณครูไม่ใหญ่

(หลวงพ่อธัมมชโย) เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย

เที่ยวไป เขียนไป

Aram Boy

เห็นมา เล่าไป

กรณีธรรมกาย : กาคาบข่าว

กรณีธรรมกาย : วัดพระธรรมกาย UNSEEN

กรณีธรรมกาย : วิชชา ธรรมกาย

กรณีธรรมกาย : White Knight

กรณีธรรมกาย #จูราสสิคสยาม

กรณีธรรมกาย : ความลับระดับ Top secret !

กรณีธรรมกาย : รวมข้อแท้จริง 

ทุกกรณีวัดพระธรรมกาย 

DHAMMAKAYA FACTSHEETS

กรณีธรรมกาย : #โรงละครสยาม

กรณีธรรมกาย : ความจริงวันนี้ วัดพระธรรมกาย 

กรณีธรรมกาย : แถลงการณ์คดีพิเศษ ! 

กรณีธรรมกาย : กรณีเกี่ยวข้องวัดพระธรรรมกาย 

กรณีธรรมกาย : Buddhism under crisis

กรณีธรรมกาย : รักพระพุทธศาสนา

กรณีธรรมกาย : รวมข้อแท้จริงทุกกรณี! 

กรณีธรรมกาย : เบื้องหลังการให้ร้ายวัดพระธรรมกาย

เพราะความลับไม่มีในอากาศ

>Talk--secret.blogspot.com