มหากาพย์ซากรถเก่า! เจ้าคุณเบอร์ลินปล่อยหมัดน็อคฉีกหน้ากากคนใจคด
ต่อเนื่องจากภาคที่ 1
คำชี้แจงเพื่อโปรดทราบ..
จริง ๆ แล้ว ผมได้เขียนภาคที่ 2 นี้
เสร็จในคราวเดียวกันกับการเขียน
ในภาคที่ 1 แล้วละครับ
แต่พอทีมงานที่ไทยมาตรวจ
และเห็นเนื้อหาที่ผมบรรเลง
แบบตรงๆ ลึกๆ ตามข้อมูลดิบ
ที่ได้รับมาซึ่งทีมงานพิจารณาดูแล้ว
เห็นว่าในตอนท้ายๆ คือที่แยกเป็น
ภาค 2 นั้นเข้าทำนองถึงขั้น
ยิ่งเขียน ยิ่งแรง!
เพราะนำผู้คนไปลอกคราบผู้ดีจอมปลอมหมด..
รวมทั้งสำนักนายก สำนักพุทธ
รวมทั้งแหล่งเพาะคนโฉดแบบโดน
กันทั่วหน้าดีกรีชักร้อน เริ่มเกินพิกัด
เกรงจะเสียงานใหญ่จึงเกิดอาการ
ตกใจสุดขีด ในความร้อนแรงของ
ข้อมูลและการพูดในสไตล์เจ้าคุณ
เบอร์ลิน ที่อยู่ในโพสต์ภาคที่ 2 นี้
ก็ไม่มีอะไรหรอกครับ
หากเป็นสุจริตชนเขาเย็นๆ สบายๆ
กันทั่วหน้าอยู่แล้ว ถึงเขียนไป
แค่ไหนก็ตาม
นอกจากพวกทุจริชนเท่านั้น และผม
ก็ยึดกลยุทธ "แทงตรง" เช่น "งักฮุย"
ที่เป็นนิสัยผม ที่บางครั้งก็ไม่อยาก
ไปอ้อมค้อมให้เสียเวลา
สุดท้าย หลังจากประเมินแล้ว
ทางทีมงาน จึงขอร้องให้ผมช่วยจัด
แบ่งออกเป็น 2 ภาค แล้วช่วยขัดเกลา
สำนวน และลดดีกรีลงมาหน่อย
แล้วค่อยปล่อยออกไป
เพื่องานพระศาสนา
ผมก็รีบรับมาปฎิบัติซิครับนี้คือ ที่ไปที่มาของการแบ่งออกเป็น
ภาค 1 และ ภาค 2 ตามลำดับครับ
ขอเชิญพิจารณาภาคที่ 2 ที่ผมคิดว่า
สำนวนนุ่มนวลที่สุดกันได้เลยครับผม
ฝากด้วยครับ
หากท่านใดเห็นว่า โพสต์นี้มีสาระ
มีน้ำ ก็ช่วยแชร์ไปบอกเพื่อนๆ ด้วย
เพื่อวิทยาทานครับแต่ถ้าเพื่อนคนไหน
ที่ดูแล้วมันอยากจะกินแต่น้ำๆ ผสมหญ้า
หรือของสกปรกอีกละก็แนะนำให้มัน
ไปอ่านโพสต์ ของพุทธอิสระโน้นนะครับ
อย่าให้มันมายุ่ง มาอวดภูมิเม้นต์มั่ว
มาเป็นขยะเขาตรงนี้เลยขอบคุณครับ
ภาคที่ 2
กรุณาอ่านโพสต์ภาคที่ 1 ก่อนนะครับเจ้าคุณเบอร์ลิน ขอถามว่า..
" พวกท่าน ที่พากันนั่งหน้าสลอน
แบบสีหน้าไร้ราศรี เหมือนคนจะ
หมดบุญ เหมือนซากศพกันอยู่นี่
ไอ้ที่พากันชูคอในสังคมสูงๆ
กันนี้นะ..
คุณมึงทั้งหลาย..
ได้เคยไปขอจดทะเบียนรถที่
ขับอยู่ทุกวันนี้ด้วยตัวเองซักคน
ไหมครับ ? ช่วยตอบมาที
ต่อให้ พล.อ.ไพบูลย์ ด้วยก็ได้
ซึ่งก็ให้คนอื่นไปยื่นทำให้ทั้งสิ้น "
ตรงนี้แหละ คือ คำตอบว่า..
ทำไม ?
หลวงพ่อสมเด็จฯ ช่วง
จึงต้องลงมือเซ็นชื่อลงไป !
มันแสนธรรมดาที่ร้อยทั้งร้อยใครก็ทำกัน..
ที่สำคัญอีกอย่าง
เอาชัดๆ ก็ได้ คือ ผมขอถามว่า..
พวกท่านเคยเห็นกันรึเปล่าว่า
ไอ้ราคาที่ไปโอนรถกันที่กรม
การขนส่งทางบก ที่ลงในเอกสาร
เก็บภาษีนั้นมันราคาเท่าไหร่ ?
ตรงนี้ผมรับรองว่า..
ราคาไม่ตรงกับที่ซื้อขาย
กันจริง ๆ สักคันหรอกครับ !
ใครมาอ่านตรงนี้..
จะแย้งมาก็เชิญก็เพราะเรื่องบ้องตื้น
ที่หลับหูหลับตา มุ่งแต่มาแปะคดีให้
พระแก่ๆ รูปหนึ่ง "แบบด้าน ๆ"
นี้นี่แหละผมจึงเคยเตือนว่า..
ระวัง!..แผ่นดิน
จะลุกเป็นไฟเอาง่ายๆ
เพราะผู้คนพลังเงียบทั้งหลายพวกเขาไม่ได้กินหญ้ากัน
พวกเขามองว่า..
" มันทำกันเกินไปแล้ว มึงไม่เกรงกลัว
บาปกรรมก็เรื่องของมึงมึงไม่เอา
หลวงพ่อกู ก็เรื่องของมึง !
แต่ยังมาหน้าด้าน เลวถึงขนาดที่จะ
ทำเรื่องถูกกฎหมาย ให้เป็นผิดกฎหมาย
ไปเสียอีกนั้นหากยังเป็นคนอยู่ ใครเขา
จะยอมได้นอกจากไม่ใช่คนเท่านั้น "
ขออย่าดูถูกศรัทธาผู้คนนะครับ
อย่าล่มหลงในอำนาจมากนัก
ย้ำครั้งที่เท่าไรจำไม่ได้แล้ว.!
ทำงานมั่ว
ไปมาก็มัดตัวเอง
นี้คือ DSI in Thailand.!
ขอให้มาจับ มาจำมาจดกับคำพูดของ เจ้าหน้าที่ DSI กันสักเรื่องนะครับ
เอาแค่เรื่องเดียวก็คงพอ เรื่องมันก็จาก
คำสัมภาษณ์คำแถลงของ นายกรวัชร
เองนั้นแหละ คือในคำสัมภาษณ์
จะเห็นว่า ..
" กรณีของสมเด็จฯ จะอยู่ในกลุ่ม 3
นำเข้าเป็นรายบุคคลอาจมีปริมาณ
ไม่มากนักพิจารณาแล้ว อาจจะ
ไม่เข้าข่ายกรณีพิเศษ..???
DSI พร้อมส่งมอบให้หน่วยงาน
ที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการ "
ชัดในความมั่วไหมครับ !
สรุปได้หรือยัง หรือจะรอให้ระบบมันพังกันไปหมดทั้งประเทศเสียก่อน
ดังนั้นจะเห็นว่า..
" กรณีรถโบราณ "
ที่มีคนเจตนาพยายาม..
" จะเสกให้เป็นรถหรูให้ได้ "
ของหลวงพ่อสมเด็จฯ ช่วง นั้น
มันก็แค่เป็นซากรถเก่าๆ เพียง
คันเดียวที่จอดนิ่งเฉยๆ ที่แทบ
ไร้ราคาก็ว่าได้
รถหรูมันต้องเริ่มระดับนี้
คือดังภาพที่ผมแนบมานี้
แหกตาดูซะ DSIแล้วหากเห็นว่า..
มีการแจ้งราคา การแจ้งโอนไม่ถูกต้อง
ก็ทำไม DSI ไม่ส่งสำนวนเหล่านี้ไปให้
กรมการขนส่งทางบกพิจารณาว่า ..
" กรณีนี้มีมาตรฐานการแจ้งโอน
หรือคิดภาษีกันอย่างไรละครับ "
มากั๊กมายื้อหาพระแสงอยู่ทำไม ?
สรุป
ผมสงสารแฟนคลับเพจผู้ปฎิบัติธรรมของผมที่อาจ
ตามเล่ห์ของคนโกงไม่ค่อยทัน
เพราะใจคิดชั่วไม่เป็น
ดังนั้น ผมจึงขอสรุปแบบบ้านๆ
โดยเอาสามัญสำนึกทางบวก
เกี่ยวกับกรณีคดีรถโบราณมา
ย้ำอีกครั้ง ดังนี้นะครับ
แต่อย่างไรก็ตาม
เรื่องนี้ ในแนวทางการต่อสู้ทาง
ข้อกฎหมาย ผมขอพูดง่ายๆ ที่คนดีๆ
เขาเข้าใจได้ทั่วไป ดังนี้..
ข้อที่ 1
รถที่หลวงพ่อสมเด็จ ฯ ช่วงรับการถวายมานั้น ยังไงมันก็เป็น
" รถรุ่นเก่า "
ที่เป็นที่ทราบกันดีทั่วไปว่ารถอย่างนี้
เป็นรถที่ผลิตมากว่า 30-40 ปีแล้ว
ไม่ได้มีราคาค่างวดอะไรเลย
และเขาไม่ได้เรียกรถหรูด้วย แต่ก็มีคน
บางจำพวก ที่ต้องการซากรถดังว่านี้
ด้วยการชอบส่วนตัวที่..
" ไม่ใช่หลวงพ่อสมเด็จฯ"
ได้นำมาทำซ่อมแซม พ่นสีใหม่
แสวงหาอุปกรณ์เก่าๆ มาประกอบให้
เหมือนหรือคล้ายของเดิมซึ่งบุคคล
เหล่านี้ทั้งเดิม และปัจจุบัน เขาก็ยัง
คงเรียกขานกันทั่วคือ
รถแบบนี้ว่า " รถโบราณ "
ไม่ใช่ " รถหรู " ดังที่ DSI เรียก!
ผมสามารถแนะนำ เพื่อเปิดปัญญา
ให้ผู้เกี่ยวข้อง ระวังทนายเขาจะเอา
เรื่องนี้มาย้อนนะครับได้แบบง่ายที่สุด
คือ รถเหล่านี้สามารถสอบถาม
ความเป็นมา หรือตรวจสอบกันได้ที่
"ราชยานยนต์สมาคม " ครับ
ให้ระวังทนายเขาจะเอาตรงนี้
มายันหน้าเอานะครับ ส่วนราคารถนั้น
ก็ขึ้นอยู่กับความพอใจว่า ใครจะซื้อขาย
กันอย่างไรซึ่งส่วนมากก็ซื้อมาเก็บไว้
อาจมีการนำมาวิ่งโชว์บ้างในบางโอกาส
" แต่คันของท่านสมเด็จฯ นั้นมันมีการ
นำมาถวาย และเมื่อได้มาแล้ว ก็ไม่ได้นำ
ไปวิ่งที่ใหน คงจอดนิ่งอยู่ในพิพิธภัณฑ์
เปิดที่วัด และมีรถลักษณะนี้ ปรากฎอยู่
ในพิพิธภัณฑ์ที่วัดนั้นเอง ! "
ข้อที่ 2
การได้มา ก็มีหลวงพี่แป๊ะ (ตามข่าว)ได้เป็นคนจัดการนำมาถวาย และ
ดำเนินการนำเอกสาร มาให้..
หลวงพ่อสมเด็จฯ ช่วง ท่านลงนาม
เพื่อมอบอำนาจในการไปจัดการ
เรื่องโอนรถดังกล่าวเท่านั้น
(ขอให้อ่านย้ำ!)
ถามว่าถึงตรงนี้..
แล้วมันจะมีอะไรพิศดาร
หรือผิดฉกรรจ์ อะไรหรือครับ.?
ข้อที่ 3
" การมอบอำนาจ "นั้นก็แจ้งให้ทราบว่า..
" ต้องมอบให้บุคคลอื่น "
ไปทำแทน ขนาดคนที่เป็น..
" เจ้าของรถทั่วไป "
ส่วนมากเขายังไม่มีใครไปทำเองกันเลย!
แล้วพระสงฆ์องฆะเจ้า ใครเขาจะครอง
สังฆาฎิขึ้นไปที่หน่วยราชการเพื่อทำฃ
เรื่องแบบนี้ละครับ ?
บุคคลที่ซื้อหรือรับมอบโอนชื่อใน
ทะเบียนรถต่อกรมการขนส่งทางบก
ทั่วไปเขาก็ใช้วิธีการมอบฉันทะ
ให้ไปทำแทนทั้งสิ้น!
ซึ่งยืนยันอีกครั้งว่า..
" แม้แต่บุคคลธรรมดาทั่วไปไม่ว่า
ฆราวาสในระดับไหนจะเป็น
พลเรือน ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ
ก็มีการมอบอำนาจเช่นนี้กันทั้งสิ้น "
ผู้เกี่ยวข้องสามารถสอบถาม
หรือตรวจสอบหลักฐานเอกสารใน
ลักษณะนี้ ได้ที่ ..
" กรมการขนส่งทางบก "
ในปัจจุบันครับตรงนี้ หาก DSI ชะล่าใจ
ไม่ไปหามายันต่อสังคม หรือประกอบไว้
ผมคิดว่า ทนายวัดปากน้ำ เขาก็คงไม่โง่
หรอกนะครับ ระวังให้ดีๆ ก็แล้วกัน
ข้อที่ 4
อันการมอบอำนาจโดยทั่วไปแล้วทุกคนก็มี เจตนาสุจริต ทุกคนกันว่า ..
" ให้ไปดำเนินการโอนชื่อบุคคล
เพื่อมาเป็น ผู้ครอบครอง โดยชอบ
ด้วยกฎหมาย ไม่ใช่มอบอำนาจให้
เพื่อไป แจ้งความเท็จ ต่อเจ้าพนักงาน "
โลกนี้.. จะมีคนบ้าที่ไหน
ที่จะมอบอำนาจ..
ให้ใครไปแจ้งความเท็จครับ !
แค่นี้.. คิดออกไหมครับท่าน DSIไม่ว่าการได้รับมา หรือราคาของรถ
ซึ่งผู้รับมอบอำนาจต้องนำไปกรอก
ข้อความตามความเป็นจริง และต้อง
ผ่านการตรวจสอบราคาที่กรมการ
ขนส่งทางบก
ซึ่งมีการกำหนดราคากลางรถไว้ตาม
จำนวนปีที่รถนั้นผลิตออกมาจำหน่าย
ตรงนี้ถ้าแจ้งราคาต่ำไป ทางกรมการ
ขนส่งทางบกก็คงจะไม่ยินยอม
และรับจดทะเบียนให้อย่างแน่นอน
ที่สำคัญรถลักษณะนี้
คันที่มีการกล่าวหากัน
ก็มิได้มีเพียงคันเดียว
ในประเทศไทยอย่างแน่นอน !
DSI ก็สามารถตรวจสอบเพื่อเปรียบเทียบได้ที่กรมการขนส่งฯ
และหากราคาจะเป็นอย่างไร
หลวงพ่อสมเด็จฯ ช่วง ท่านก็มิได้
ลงนามมอบอำนาจในเอกสารเฉพาะ
ชื่อไปโดยมีเจตนาให้บุคคลใด
ไปกระทำผิดกฎหมาย
ข้อที่ 5
การลงชื่อมอบอำนาจหรือมอบฉันทะ !
เพื่อให้ไปโอนชื่อผู้ครอบครอง
ทางทะเบียนรถยนต์นี้
โดยปกติโดยทั่วไป ซึ่งใครๆ ก็ทราบคือ
จะให้ผู้มอบอำนาจหรือมอบฉันทะลงชื่อ
ในช่องผู้มอบอำนาจเท่านั้น..
มิได้มีการกรอกเอกสาร
ในที่อื่นๆ แต่อย่างใดทั้งสิ้น!
ซึ่งเจตนาก็..คือไปเป็นผู้มีชื่อครอบครองรถเท่านั้น
ซึ่งปกติก็จะเรียกกันโดยทั่วไปว่า
" การลงชื่อโอนลอย " นั้นเอง
เรื่องอย่างนี้ สามารถตรวจสอบหรือ
สอบถามได้จากผู้ประกอบธุรกิจด้านนี้
หรือจากกรมการขนส่งทางบกก็ได้ครับ
ซึ่งหากมองตามรูปการณ์นี้ย่อมยืนยัน
ได้ว่า..
" หลวงพ่อสมเด็จฯ ช่วง ท่านมิได้มี
เจตนา ..หรือ .. รู้เห็นเป็นใจ
ให้ไปแจ้งความเท็จ
ในราคารถที่มีการโอนใดๆ เลย "
เพราะกรมการขนส่ง เค้ามีมาตรฐาน
การกำหนดราคารถแต่ละปี แต่ละรุ่น
อยู่แล้วทุกยี่ห้อของรถทุกชนิดเป็น
มาตรฐานอยู่แล้ว
คือ ถ้าต่ำไปหรือไม่เหมาะสมเขาไม่
จดทะเบียนให้อยู่แล้ว สามารถจะอ้าง
เจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียนรถยนต์ให้มา
เป็นพยาน และค้นดูตัวอย่างรถคันอื่นๆ
มาเปรียบเทียบได้เลย
จะเอาตัวอย่าง เรื่องราคารถใหม่ที่มี
การโอนในปีปัจจุบันนี้ก็ได้ ทุกยี่ห้อ
รถราคาแพงๆ นี่แหละ แต่สำหรับคัน
ของท่านสมเด็จฯ ช่วง นั้นขอย้ำอีกครั้ง
ว่ามันแค่เป็นซากรถเก่า ที่ช่างเขาเอา
มาแต่งใหม่เท่านั้น
มันไม่ใช่รถหรูใดๆ เลย !
เค้าเรียกกันว่า รถโบราณตะแบงเป็น รถหรู ได้ไง?
ผมจะบอกให้..
" ลำพังหากคดีได้ไปถึงศาลจริงๆ
แค่อธิบายรถหรู รถโบราณให้ศาลฟัง
จำกัดความแค่ 2 คำนี้หืดก็ขึ้นคอ
แล้วครับ..
ส่วนราคา หรือใครจะชอบหรือไม่ชอบ
หรือซื้อกันในราคาเท่าไหร่นั้นมันอยู่ที่
ความพอใจ ไม่มีมาตรฐานเหมือน
รถที่ผลิตใหม่หรอกครับ "
ชัดๆ ก็เหมือนพวกราคาพลอย หยก
หรือตลาดของเก่า ของขลังทั่วไป
นะแหละครับ ในตลาดแบบนี้คนขาย
บอก 200,000
คนซื้อต่อลองราคา 20,000
ได้ก็มี การค้าในตลาดแบบนี้เค้าจะ
ไม่ว่ากัน เพราะราคาของพวกนี้มัน
อยู่ที่ความชอบ ความพอใจ
ทั้งสองฝ่ายครับ
ขอถามกลับไปยัง พล.อ.ไพบูลย์
ว่าคำว่าเตือน
" อย่าใช้วิธีการนอกระบบนั้น
ขอให้ท่านไพบูลย์ กรุณาช่วยหันปาก
ไปทางทิศแก๊งค์ป่วนเมือง และไปเตือน
กลุ่มของท่านเถอะครับ นั่นแหละ
จึงจะตรงทิศตรงคนครับ.! "
ผมขอปิดท้ายโพสต์
ด้วยอารมณ์แบบหน่ายๆ
พวกแก๊งค์บ้าไม่จบสักทีว่า..
อธิบายจนเหนื่อยขนาดนี้ผมก็อยากจะรู้ว่า DSI จะเอาอะไร
มาแย้งกับสังคม หรือกับศาลได้
แล้วใครก็ได้ครับ ขอให้ช่วยผมหน่อย
ซึ่งถือว่าเอาบุญด้วยกันให้ช่วยกรุณา
โดยช่วยแชร์
หรือกอปปี้โพสต์ครั้งนี้
ของผม แล้วนำส่งไปยังท่าน
พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา
ที่กระทรวงยุติธรรม
และท่านอธิบดีกรม DSI ให้ผมด้วย
เมื่อท่านทั้ง 2 อ่านแล้ว ผมก็หวัง
เพียงแค่ให้ท่านรู้ตัวว่า..
"เรื่องตื้น ๆ แค่นี้
ชาวบ้านชาวเมืองเขารู้กันทั่ว
มานานแล้วลุงเอ้ย "
จบด้วยการแจ้งข่าวว่า..
"ผม และทีมงาน ขอฝากคำลอยๆ
ไปตามสายลมเย็นๆ ว่าไว้โอกาสเหมาะๆ
คงเร็วๆ นี้แหละครับ ผมและทีมงาน
คงได้ฤกษ์ลากใส้ไอ้พวกแก๊งค์ ..
"หญิงสาวกนางจิญจมาณวิกา"
กันเสียที ถึงวันนั้นจริงๆ ก็คงถึง..
บทอวสานของ
แก๊งค์ชุบทอง ของหลวงป้า
กันสักทีแล้วละครับ !
เพราะเกมนรกครั้งนี้ มีตัวละครแบบเหลือเชื่อสุดๆ โดยลำดับชัดๆ ได้ดังนี้..
" ตัดตอนไปที่..เหนือ อธิบดี
ก็ยังมี รมว.ผู้เป็นหลานอสูร
เหนือ รมว.หลานอสูรก็ดันมี..
กลุ่มศิษย์สาวก
ของนางจิญจมาณวิกา
(สตรี) อีกชั้น
ที่มีศรัทธาจริตอย่างแรงเป็น
มิจฉาทิฎฐิ
มองเห็นหัวแต่พระสงฆ์
ฝ่ายธรรมยุตเท่านั้นท่องแต่ว่า
พระป่า พระธรรมยุต
เพียงเท่านั้น ! "
จากนั้น แผนชั่วจึงเริ่มเดินเครื่อง
คือสมคบร่วมกับ..
กลุ่มศิษย์เทวทัต(บุรุษ)
ร่วมกันวางแผนเนียน
ใช้พระชนพระกันเอง (ชั่วสุดๆ)
เพราะไปคัดพระมหานิกาย
แบบตรงสเป๊กชั่วและ
"เพี้ยนโคตรสุดโต่ง"
ออกไปรบกับพระมหานิกาย
นิกายเดียวกับตนเองเสียด้วย
สุดท้ายก็ไหลไปที่การ..ยัดเยียด
"คดีอาญา" ให้กับ "ประมุขสงฆ์ "
ที่สังกัดฝ่ายมหานิกายที่อยู่ในวัย
เกือบ 100 ปี โดยแผนชั่วช้าคือกะ
" เอาถึงตายในตะราง "
แบบคาผ้าเหลืองไปเลย !
สังคมรู้กันไหมครับ ?
ผมจะแย้มให้.." แม้แต่ไอ้คนที่ หน้าซื่อๆ
ที่ทำเชื่องๆ วันๆ ไปทำท่าไปดูแล
การศึกษาชาติ (หน้า ) ดูเหมือน
ไร้พิษสงใดๆ แต่ข้างหลังสุดแสบ "
เพราะดันเป็นคนแอบส่งกองกำลังไป
อารักขา "พระเพี้ยน" เสียเอง
เป็นไปตามแผน ..
ใช้พระชนพระ
ใช้พระมหานิกายชนกันเอง!
จากนั้น..พระธรรมยุต ผู้เป็นอาจารย์ตน
พระลูกชายตน ก็จะได้เสียบ
ตำแหน่งสังฆราช ได้สะดวกต่อไป!
ให้มันได้ยังงี้ซิครับ ไอ้สังคมสัปะรังเค
สังคมหน้าไหว้หลังหลอก
แสนจอมปลอมเอ้ย !!!!
หมดคำพูดเลย.. ผมพอได้รู้รายละเอียด
ของแผนชั่วพวกมันในโลกนี้ ถามว่ามัน
ยังมีกลุ่มคนคิดชั่วกว่านี้กันอีกไหมครับ
ผมนั่งนึกแล้ว มันแสนรันทดและเกิด
อาการหดหู่แบบสุดๆ บอกไม่ถูกเลยครับ
โปรดอย่า..
กระพริบตานะครับ !
มวยยก 5 เริ่มแล้วไม่มียก 6 นะครับ
โปรดคิดตามโดยพลัน
จบภาค 2 (ภาคสุดท้าย) ครับผม.!
ส่วนคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกายของผม
ณ วันนี้ ถึงขนาดผม และทีมงาน
อุตส่าห์เขียนแจงอย่างละเอียดมา
ให้ฟังในทุกแง่มุมแบบนี้แล้ว
หากยังนอนเงียบอยู่แต่ในกุฎิ
ต่างพากันถือว่า "ธุระไม่ใช่" มัวแต่
มาคิดเรื่องลาภ เรื่องยศ เรื่องเลื่อนขึ้น
เลื่อนลง เรื่องฉันเช้าฉันเพลไม่พากัน
ออกมาช่วยกันปกป้องภัยพระศาสนา
ภัยคณะสงฆ์กันสักทีอีกละก็ ?
ระวังเถอะ สักวันผมนี้แหละ จะเป็นคน
ชี้เป้าให้ไอ้พุทธอิสระมันนำม๊อบ
นำคดีไปเยี่ยมถึงกุฎิเข้าสักวัน
ไปอ่านโพสต์ล่าสุดของมันซิครับ
ขนาดหลวงพ่อสมเด็จฯ ช่วง
มันยังทั้งสับทั้งโขก สร้างเรื่องปั้นน้ำ
ใส่ร้ายสารพัด เป็นรายชั่วโมงก็ว่าได้
ขนาดสมเด็จญาณ ท่านสิ้นไปแล้ว
มันก็ยังยกมาอ้างได้ว่า ..
"พูดอะไร..
ที่ได้ยินเพียงสองคนกับมัน"
หลอกสังคมไปวันๆ คนก็ยังไปเชื่อมัน
กันอีก หรือหลวงพ่อสมเด็จฯ ช่วง
ไปอยู่เนปาล กว่า 60 ปีก่อน มันเกิด
หรือจะพูดได้หรือยังก็ไม่รู้ ?
มันก็สร้างว่า หนีสีกา ไปโน้น
ไอ้ชั่วเอ้ย..(มันเหลืออดครับ ขออภัย)
ต่อไปผมว่ามันคงหลอกว่า ..
เด็กวัดมัน แมวหมา กาไก่
ก็เป็นอรหันต์ทั้งสำนักมันละมั้ง ?
พวกพระฝ่ายมหานิกายทั้งหลายจงพาตื่นกันได้แล้วนะครับ
ก่อนที่อะไรๆ มันจะสายเกินแก้
จะทำอะไร ก็ทำชะทีครับ
ที่มันไม่ผิดวินัย ไม่ผิดกฎหมาย
เพื่อพระศาสนาเรา !
จะมาปล่อยให้หลวงพ่อเราโดนพวกคนพาลมันหาเรื่องเท็จ
มาสร้างเป็นเรื่องจริง มากระหน่ำ
ทุกวี่ทุกวัน อยู่ได้อย่างไรครับ
บรรดาลูกหลวงพ่อทั้งหลาย
เอ้ย.. ตื่นมาอยู่กับความจริงกัน
ซะทีเถอะครับ !
ผมขอให้พวกท่านถามว่าในใจตนว่า..
" ระหว่างสงฆ์มหานิกาย
กับสงฆ์ธรรมยุตผู้คนใน
สังคมไทย ที่พิการจิตที่ยึด
แค่ภาพลักษณ์ภายนอก
เขาได้วางสถานะเท่ากัน
หรือแตกต่างกันแค่ไหน
แค่ดูการตั้งสังฆราชครั้งนี้ก็ได้ "
นั้นแหละ คือ คำตอบครับ !
ข่าวล่าสุด! ก่อนจบโพสต์
ขอปิดหัวด้วย..
เมื่อครู่วันนี้ ได้รับข่าวจากเมืองไทย
ว่า พระสงฆ์ทั่วไทย ตลอดจนชาวพุทธ
จะพากันนัดสวดมนต์ครั้งใหญ่พร้อมกัน
ทั่วประเทศ แว่วๆ ว่าเป็นการสวดมนต์
"ระดับตำนาน" ซะด้วย
ส่วนในต่างประเทศ !
ก็คึกคักไม่เบา อเมริกายิ่งคึก
นัดกันวันไหน ?
โชคดีมีชัยทุกท่านครับ
เจ้าคุณเบอร์ลิน
Berlin,den 25.07.2016
ย้อนติดตามบทความตอนที่ 1
CLICK > สงฆ์มหานิกาย ต้องทนขมขื่นกับ
ความอยุติธรรม แสนอำมหิตอีกนานแค่ไหน?
โดย เจ้าคุณเบอร์ลิน
บทความแนะนำกรณีธรรมกาย
เพราะความลับไม่มีในอากาศ
มหากาพย์ซากรถเก่า! เจ้าคุณเบอร์ลินปล่อยหมัดน็อคฉีกหน้ากากคนใจคด
Reviewed by สารธรรม
on
21:44
Rating:

สาธุกับเรื่องจริงแสนจริงเจ้าค่ะ
ตอบลบสาธุกับเรื่องจริงแสนจริงเจ้าค่ะ
ตอบลบสาธุครับท่าน
ตอบลบจับแพะชนแกะ
ตอบลบหาก dsi โง่ขนาดที่ต้องให้พระมาให้ความรู้เรื่องการโอน เรื่องรถเก่ากันขนาดนี้ อย่าอยู่กินตำแหน่งเลยครับ
ตอบลบเห็นกันชัดๆ ว่าเป็นแผนยัดความมัวหมองให้กับพระคราวปู่
ต่อไปชีวิตคงปราศจากความแจ่มใสไปชั่วลูก ชั่วหลานกันล่ะ DS อายเอ๋ย
แฉอาเฮี้ยยยยเบอร์ลิ้นมั้ง
ตอบลบhttps://www.youtube.com/watch?v=TbKT4ejUzZc