Watchdog..หมาเฝ้าบ้านหน้าเก่าเห่ากัดจนเกินสมควร.?
Watchdog หรือ หมาเฝ้าบ้าน
คือคำอธิบายหนึ่งในบทบาทหน้าที่ของสื่อมวลชนในการทำความจริงให้ปรากฏก่อนที่ภัย หรือความอยุติธรรมจะมาถึงประชาชน เหมือนหมาที่คอยเห่าเตือน ระแวดระวังภัยให้เจ้าของบ้าน แต่สิ่งที่เป็นปัญหากับสื่อมวลชนหรือหมาเฝ้าบ้านผู้ตรวจสอบก็คือเมื่อคนในบ้านรู้สึกว่าหมาเฝ้าบ้านเริ่มเห่าและไล่กัดจนมั่วเกินสมควรจนกระทั่งมองเห็นคนในบ้านเป็นศัตรู หรือนำคำว่าเสรีภาพของสื่อมาเป็นโอกาสกล่าวหาใส่ร้ายคนอื่นอย่างถูกกฎหมาย.!
ที่ผ่านมาเราได้เห็นบทบาทการทำหน้าที่ของสื่ออย่างชัดเจนพิสูจน์ว่าคำกล้าวข้างต้นไม่เกินความจริงจากกรณีของวัดพระธรรมกาย และน่าจะเป็นกรณีศึกษาของประชาชนผู้เสพสื่อ และคนที่กำลังทำหน้าที่สื่อสารมวลชนทุกรูปแบบ
วิเคราะห์สื่อโดยสื่อ
ผ่านรายการ Wake up news & Overview
นี่คือตัวอย่างการใช้วาทกรรมลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์ในสังคมเดียวกันของสื่อหน้าเก่าบางกลุ่ม เช่น "..เชือดเรียงตัว สมุนโย หมายจับหนิดอีก.."
ปกติคำว่าสมีต้องเป็นพระที่ทำผิดมากๆ ไปมีสัมพันธ์กับสีกาซึ่งพระธัมมชโยท่านไม่ได้มีปัญหาเรื่องนี้ ท่านอาจมีปัญหาเรื่องข้อกฎหมายที่ยังไม่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ศาลยังไม่พิจารณาคดีเลย แต่สื่อกลับเรียกท่านอย่างนี้
เรื่องที่วัดเล่าบอกว่ากิจกรรมที่วัดทำคือการปฏิบัติธรรมอยู่ในวัดอย่างสงบปกป้องวัดที่ตัวเองสร้างไว้ ส่วนเรื่องที่รัฐเล่า และสื่อเล่ามันตรงข้ามกันตลอด เช่น วัดมีการชุมนุมมีการเทียบพระเสกสรร พระสนิทวงศ์ กับนัฐวุฒิ จตุพรและถ้าจะยุติเรื่องธรรมกายก็ต้องดำเนินการกับสนิทวงศ์ เสกสรรค์ การนำความคิดแบบนี้สื่อต้องการอะไร นอกจากความเกลียดชังแล้วใช้ความรุนแรงต่อกัน เพราะไม่ใช่ครั้งแรกที่สื่อหลายๆ ฉบับสำนักเดิมๆ ก็ทำอย่างนี้
แต่ว่าทางเจ้าหน้าที่รัฐเองน่าจะมีบทเรียน ตั้งหลักสักนิดในการจะทำอะไรไม่ให้กระเทือนด้วยแรงกดดันจากสื่อกลุ่มนี้เพราะจะนำไปสู่ Dead line เกิดอคติสร้างปัญหาความเกลียดชังสะสมไปข้างหน้า
อย่างเรื่องของพระชาญณรงค์ ก็น่าสนใจสื่อช่องอื่นใกล้ที่อยู่ใกล้ๆ VoiceTV21 บิ้วต์อารมณ์ว่าแบบพระเตรียมยิงแน่ๆ เป็นทหารเก่าอตีดพลตรีมีความชำนาญทางยุทธศาสตร์ทั้งๆ ที่ตำรวจทหารมีอาวุธ แต่พระมือเปล่า..
ถ้าไปอ่านประวัติ พระชาญณรงค์ท่านก็ไม่ได้อยู่สายคุมกำลังท่านอยู่สายเอกสาร โอโฮ้..มีทหารตำรวจมาบวชเป็นพระเลวมากแต่ถ้าคุณเป็นทหารตำรวจไปบวชวัดอื่นนี่สังคมจะชื่นชมคุณนะ
ไม่รู้จะทำยังไงกับเพื่อนสื่อมวลชนที่เป็นกันได้ขนาดนี้ แล้วก็ไม่ใช่ครั้งแรก.!
แล้วก็ยังมีข่าวปล่อยผ่านคมชัดลึกว่า พระไพศาล วิสาโล เตรียมไปเป็นเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายเขียนเป็นวรรคเป็นเวร ทั้งที่ไม่มีมูลอะไรเลยพอมีนักข่าวไปถามท่านก็ให้สัมภาษณ์ว่า "เชิญมาก็ไม่ไป" แต่ว่าสื่อที่อยากจะล้มวัดพระธรรมกายก็ไปแต่งนิยายว่า พระไพศาล เตรียมไปเป็นเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย
บรรยากาศตอนนี้สื่อ ไม่ได้ให้ความจริง สื่อให้ความเท็จ แบบชี้นำสร้างกระแสสังคมอารมณ์ของสื่อบางกลุ่มอยากให้ถึงขั้นยึดวัด จับพระสึกให้หมด มีจริงต้องยอมรับ จึงกังวลว่าอารมณ์แบบนี้มันไปมีผลต่อเจ้าหน้าที่รัฐหรือเปล่า.?
การกำจัดธรรมกายอาจ
เป็นวาระของสื่อบางกลุ่ม
มีตัวอย่างการพาดหัวหนังสือพิมพ์ Bangkok Post กับ Nation ที่มีปฏิกิริยาที่คล้ายๆ คุณนิติพงษ์ ห่อนาค แล้วก็เป็นคนที่มีภาพลักษณ์ใกล้ชิดกับอำนาจรัฐพาดหัวไว้ว่า นักวิชาการเรียกร้องให้คณะสงฆ์จับสึกอดีตพระเทพญาณมหามุนีคำว่า นักวิชาการศาสนา หมายถึงใครอ่านไปอ่านมาก็คือ คุณหมอมโน ซึ่งเป็นหนึ่งในการต่อต้านวัดพระธรรมกายที่น่าสนใจคือเวลาจมีรายการทีวีทำเรื่องวัดพระธรรมกาย หมอมโนก็จะไปโจมตีบอกว่า พระธัมมชโยอยู่ตึกนั้นตึกนี้ พูดถึงการมีอุโมงค์ใต้ดิน พูดถึงอภินิหาริย์ต่างๆ นานาของพระธัมมชโย และไปในนามอดีตลูกศิษย์วัด
แต่พอจะเปิดประเด็นใหม่เรื่องของการ จับสึก ก็ออกมาพูดในนามนักวิชาการพระพุทธศาสนา คุณหมอมโนชื่อต้นคือหมอไม่ใช่นักวิชาการพระพุทธศาสนา และนี้ก็คือการขยับของสื่อซึ่งให้พื้นที่ในการ จับสึก ในนามของนักวิชาการพระพุทธศาสนาโดยคนหน้าเดิมคือ คุณหมอมโน
หนังสือพิมพ์ Nation ก็เหมือนกันมีคำให้สัมภาษณ์ของ คุณไพบูลย์ นิติตะวัน บอกว่าถึงเวลาแล้วที่คณะสงฆ์จะต้องจับสึกพระธัมมชโย มาตราการต่างๆ ทางสังคม และทางกฎหมายชัดเจนแล้วว่า การดำเนินการสึก เป็นเรื่องที่มีความจำเป็น เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่มีการจับสึกพวกศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายก็ไม่สามารถกล่าวอ้างได้อีกต่อไปว่าตนเองปกป้องพระสงฆ์ หรือปกป้องพระพุทธศาสนา
ตอนนี้มีนักวิชาการพระพุทธศาสนาโผล่ออกมาเยอะแยะไปหมดในประเทศนี้ ในขณะที่เวทีอื่นท่านเหล่านี้ก็จะพูดในนามอื่น คุณสันติสุข โสภณศิริ คนใกล้ชิดคุณรสนา โตสิตระกูล คราวนี้ก็มาในตำแหน่งนักวิชาการพระพุทธศาสนาเช่นเดียวกันให้สัมภาษณ์ไว้ในลักษณะเดียวกันว่าการจับสึก มีความจำเป็นเพราะว่าไม่อย่างนั้นมันอาจจะไม่มีความสงบต่อเนื่องไปไม่สิ้นสุดแล้วก็พูดถึงการยึดทรัพย์สินต่างๆ นานา
เพราะฉะนั้นบรรยากาศสังคมขณะนี้อำนาจรัฐต้องตั้งหลักให้ดีว่า มีคนกลุ่มหนึ่งซึ่งไม่ชอบวัดพระธรรมกายเวลานาน ความชอบหรือไม่ชอบทุกคนมีสิทธิ์ แต่ที่ไม่มีสิทธิ์คือใช้ความไม่ชอบเป็นธงนำ การปลุกปั่นกระแสชี้นำให้สังคม จับสึกพระ และกำลังลามปามไปสู่เสนอให้นายกรัฐมนตรี ถอดถอนสมณศักดิ์พระผู้ใหญ่ทั้งหมดที่ก้าวล่วงไปถึงพระระดับสมเด็จ วัดพิชยญาติฯ หรือแม้เจ้าคุณวัดชนะสงคราม
บรรยากาศทางสังคม
ที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง
จึงน่าเป็นห่วงเพราะหลายคนลืมไปแล้วว่าจุดตั้งต้นของเรื่องนี้คือปัญหากฎหมาย ณ เวลานี้หลายคนแก้ปัญหาเรื่องนี้โดยอ้างว่าปกป้องพระพุทธศาสนา แต่ไม่เคยได้ยินสักครั้งว่าสิ่งที่คนเหล่านี้ทำอยู่เป็นพุทธธรรม พุทธวจนะบทไหน.?แต่สิ่งที่พูดอยู่คือธรรมกายเป็นพุทธเถื่อน ธรรมกายไม่ใช่พุทธแท้ ต้องจับสึกๆ
สิ่งที่ท่านทำท่านอาจจะเข้าใจว่าปกป้องพุทธศาสนา แต่สิ่งที่ท่านพูดไม่ใช่พุทธศาสนา แต่มันคือความเกลียดชัง ปลุกปั่นอวิชชา เร่งให้เกิดการเผชิญหน้า
และกำลังปลุกปั่นกระแสใหม่ซึ่งไม่จบแค่เรื่องวัดพระธรรมกาย แต่นำไปสู่การถอดสมณศักดิ์พระผู้ใหญ่ ซึ่งไม่ได้ทำความผิดแม้แต่นิดเดียวแต่ตกเป็นเหยื่อของสถานการณ์การเมือง และความเกลียดชัง.!
ขอบคุณข้อมูลจาก
ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์
รายการ Wake up news
รายการ Overview Voice TV21
นิธินันท์ ยอแสงรัตน์
ประชาไท ออนไลน์
Watchdog..หมาเฝ้าบ้านหน้าเก่าเห่ากัดจนเกินสมควร.?
Reviewed by สารธรรม
on
23:04
Rating:

ไม่มีความคิดเห็น: