ส่องพฤติกรรมพิกล เลขาเหินเกินลงกา

Timeline เงินทอนล็อต 3

หลังจากที่ ผอ.พศ.ปรากฏตัวพร้อมกับประเด็นร้อนก่อนสงกรานต์ กรณีการทุจริตเงินทอนวัด ล็อต 3 แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษพระผู้ใหญ่ซึ่งเป็นกรรมการ มส. หลายรูป และจากข้อความท้ายคำฟ้องที่ พ.ต.ท. พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ระบุว่า

"พระเถระทั้ง 5 รูป ต้องอาบัติปาราชิก ไม่สมควรดำรงสมณศักดิ์ และไม่สมควรเป็นกรรมการมหาเถรสมาคม "

ทำให้สื่อหลายสำนักกระพือข่าวตื่นตูมไปตามกัน ประหนึ่งว่าจะจับพระที่บวชมาค่อนชีวิตสึกหาลาเพศเข้าคุกกันในวันนั้นโดยทันที

เมื่อ 10 วันผ่านไป.? 

ทำไมเสียงของของ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ฟังแล้วแปร่งเปลี่ยน อีกทั้งกระแสสังคมก็ดูจะต่างไปจากวัน Grand Opening ที่ บก.ปปป.

วันที่ 11 เม.ย. 2561 

พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เดินทางไปที่ บก. ปปป. เพื่อเข้าพบ พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผบก.ปปป. ร้องทุกข์กล่าวโทษ

คดีเงินทอนวัด 3 วัดใน กทม. ดำเนินการ 4 คดี เกี่ยวกับการทุจริตงบการศึกษาพระปริยัติธรรม และงบเผยแผ่ศาสนา ความเสียหาย 70 ล้านบาท มีผู้ต้องหาเป็นข้าราชการ พระสงฆ์ และประชาชนรวม 9 คน

จากนั้น ปปป. นำสำนวนคดี 4 แฟ้มใหญ่ ส่งต่อให้ ปปช. ทันทีทั้งนี้การแจ้งความคดีเงินทอนวัดล็อตที่ 3 ยังเหลืออีก 7  วัด ซึ่งทาง ปปป. ได้ประสานกับ ผอ.พศ. มาใหข้อมูลเพิ่มเติมในวันที่ 19 เม.ย. 2561

วันที่ 16 เม.ย. 2561 

พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผบก.ปปป. กล่าวว่า ได้ตรวจสอบกรณีที่ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.พศ. ร้องทุกข์กล่าวโทษคดีทุจริตเงินทอนวัดรอบที่ 3 ในพื้นที่กรุงเทพฯ แล้ว พบอีก 3 แห่ง

ซึ่งเป็นการกระทำความผิดอาญาคดีทุจริตเงินอุดหนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรม 

เบื้องต้นพบว่าเกี่ยวข้องกับพระชั้นผู้ใหญ่ 5 รูป ประกอบด้วย

1. พระพรหมดิลก เจ้าอาวาสวัดสามพระยา กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) และเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร 
2.พระพรหมเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม กรรมการ มส. และเจ้าคณะภาค 4-7 
3.พระพรหมสิทธิ เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร กรรมการ มส. และเจ้าคณะภาค 10 
4.พระเมธีสุทธิกร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร 
5.พระวิจิตรธรรมาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร

(ภาพ) วันที่ 27 มี.ค. ที่ บก.ปปป. พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.พศ. เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผบก.ปปป. เพื่อประชุมเรื่องการทุจริตเงินทอนวัดล๊อต 3 

19 เม.ย. 2561

สื่อมวลชนที่มารอทำข่าวต่างผิดหวังหลังจาก พ.ต.อ.ปัญญา กล้าประเสริฐ ผกก.สอบสวน ก.1 บก.ปปป. แจ้งว่า พ.ต.ท.พงษ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.พศ. ขอเลื่อนการเข้ามาร้องทุกข์กล่าวโทษอีก 7 วัดในคดีเงินทอนวัด ล็อตที่ 3

เนื่องจากติดภารกิจด่วนจากเดิมที่นัดหมายไว้เวลา 10.00 น. และยังไม่ทราบว่าวันนี้จะเดินทางมาหรือไม่ เมื่อนักข่าวพยายามติดต่อไปยัง ผอ.พศ. ปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อได้

จนในที่สุดเวลา 14.00 น. ผอ.พศ.ประสานมายังพนักงานสอบสวนว่า ไม่สามารถมาเข้าพบตามที่นัดหมายไว้ได้ขอเลื่อนการมาให้ปากคำออกไปโดยไม่มีกำหนด

20 เม.ย.2561

ภายหลังการประชุม มส. ที่ประชุมได้มีมติให้ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.พศ.  และ ผอ.เลขาธิการมหาเถรสมาคม ชี้แจงกรณีการแจ้งร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับเครือข่ายทุจริตเงินทอนวัด ซึ่งปรากฏรายชื่อพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ 5 รูป
ผอ.พศ. กล่าวว่า...

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังเป็นเพียงขั้นตอนกล่าวหาผู้กระทำความผิดตามมูลเหตุ และหลักฐานตามกระบวนการทางกฎหมายซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยืนยันว่าตนทำตามหน้าที่โดยปราศจากอคติ

และการร้องทุกข์กล่าวโทษไม่ได้ทำให้ผู้ถูกกล่าวหาทั้งเจ้าหน้าที่  หรือพระเป็นผู้กระทำผิด 

เพราะในขณะนี้อยู่ระหว่างชั้นสอบสวน ในขณะที่การไต่สวนและวินิจฉัยที่ ปปช. ยังไม่ได้เริ่มจึงยังไม่มีพยานหลักฐานครบถ้วนที่จะพิสูจน์ได้ว่าใครผิดใครถูก 

ดังนั้นผู้ถูกกล่าวหาเวลานี้ถือว่ายังไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิด และยังถือเป็นผู้บริสุทธิ์.!

ทั้งนี้ ผอ.พศ. ปฏิเสธที่จะตอบคำถามสื่อฯ 

ในกรณีการเข้าไปร้องทุกข์กล่าวโทษเพิ่มเติมอีก 7 วัด ว่าจะเดินทางไป บก.ปปป. เมื่อใด หลังได้จากเลื่อนนัดหมายไม่มีกำหนดเมื่อวันที่ 19 เม.ย. ที่ผ่านมา บอกแต่เพียงว่าให้ไปสอบถามหน่วยงานที่ดำเนินการสอบสวนทางกฎหมายทั้งตำรวจ ปปป. และ ปปช.

ซึ่งการแถลงข่าวของ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ นับเป็นการแถลงข่าวครั้งแรกตั้งแต่ได้รับคำสั่งให้กลับมาปฏิบัติหน้าที่ ในตำแหน่ง ผอ.พศ. อีกครั้งเมื่อปลายเดือน ก.ย. 2560

จากข่าวการทุจริตเงินทอนวัดล็อตที่ 3 ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้หลายฝ่ายจับตาการประชุม มส. ครั้งนี้ว่า พระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ ที่มีรายชื่อในการร้องทุกข์กล่าวโทษของ พ.ต.ท.พงศ์พร

ซึ่ง 3 ใน 5 รูปนั้นดำรงตำแหน่งกรรมการมหาเถรสมาคม จะมาเข้าร่วมประชุมด้วยหรือไม่.?

 

ปรากฏว่า 

พระพรหมดิลก, พระพรหมเมธี, และพระพรหมสิทธิ เดินทางมาเข้าร่วมประชุมตามปกติ ซึ่งทุกรูปมีสีหน้าสดใสไร้ความกังวล ยิ้มแย้มทักทายกับสื่อมวลชน และพูดคุยกับ ผอ.พศ. ก่อนเดินทางกลับด้วย


สื่อหัวใหญ่พิเคราะห์พฤติกรรมพิกล

ระหว่าการประชุม มส. ที่มีสมเด็จพระสังฆราชเป็นประธาน และกรรมการ มส. ทั้งฝ่ายมหานิกาย และธรรมยุต รวม 18 รูป โดยแต่ละรูปได้ตั้งคำถามถึงความรับผิดชอบต่อความเสียหายในพระพุทธศาสนาที่เกิดขึ้น

เพราะคณะสงฆ์ช่วยกันรักษาความมั่นคงในพระพุทธศาสนามาอย่างยาวนาน  และทั้งๆ ที่เข้าประชุม มส.ด้วยกันอยู่แล้วแต่ทำไม พ.ต.ท.พงศ์พร จึงไม่สอบถามกันต่อหน้าในที่ประชุมมหาเถรสมาคม 

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พ.ต.ท.พงศ์พร จะแสดงความรับผิดชอบอย่างไร ?

ขณะที่คอลัมน์นิสต์ Footnote ตั้งข้อสงสัยว่า

การออกมาชี้แจงแถลงข่าวของ พ.ต.ท.พงศ์พร นั้นเกิดจาก ความสมัครใจ หรือ ไม่สมัครใจ แถมเทแต้มมาทางฝั่งที่ว่า “ไม่สมัครใจ”

อันเนื่องจากทานแรงกดดันในที่ประชุม มส.ไม่ไหวเพราะกรรมการ มส.ทั้งฝั่งธรรมยุต และมหานิกายต่างก็เคลือบแคลงใจในบทบาทของเลขานุการมหาเถรสมาคมว่า

ทำไมจึงไม่มีการปรึกษาหารือก่อนร้องทุกข์ “กล่าวหา” ทั้งๆ ที่ก็เห็นหน้าเห็นตากันอยู่ในที่ประชุม มส. 

ด้วยเส้นสนกลใดก็แล้วแต่ อย่างน้อยคนนอกวงก็จับกระแสได้ว่าบรรยากาศมึนตึงหมางเมินระหว่าง กรรมการมหาเถรสมาคม กับ เลขานุการ มส. ที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2560 กำลังย่ำรอยหวนคืนอีกคำรบหนึ่ง

จึงเป็นเรื่องที่ชาวพุทธยุคโซเชียลต้องจับตากันต่อว่า เหตุการณ์นี้มีเบื้องลึกเบื้องหลังอย่างไร

ก.สะสางความแค้นส่วนตัวของ ผอ.พศ.กับพระชั้นผู้ใหญ่บางรูปซึ่งเป็นกรรมการ มส.หรือไม่

ข.ต้องการทำลายความน่าเชื่อถือ (Discredit) มส. ซึ่งเป็นสถาบันปกครองคณะสงฆ์สูงสุดของไทย

ค.มีใบสั่งจากผู้มีอำนาจทั้งใน และนอกรัฐบาล

ง.ถูกทุกข้อ

โปรดติดตามตอนต่อไป.!


เรียบเรียงโดย สารธรรม

ขอบคุณข้อมูลและภาพ

https://www.thairath.co.th/content/1253986

https://news.thaipbs.or.th/content/271691

https://www.matichon.co.th/news/922552
https://www.komkhao.com/content/16278
http://www.springnews.co.th/view/241461
https://mgronline.com/onlinesection/detail/9610000039243
http://www.facebook.com/580530612022669_1671425379599848
https://www.khaosod.co.th/hot-topics/news_989452
www.thairath.co.th/content/1260939
https://siamrath.co.th/n/33242

หมายเหตุ
*กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ (ปปป.)
**คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.)
***สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.)