คุณค่าของชีวิต

ความใสความหมองของใจ คือประตูเปิดไปสู่ทางสวรรค์หรือนรก ที่เรากำหนดเอง.!

" ถ้าตายไปขณะที่ใจขุ่นมัว เพราะกำลังนึกถึงบาปที่เราก่อเอาไว้ ใจย่อมถูกดึงดูดให้ไปเกิดในนรก ต้องรับทัณฑ์ทรมานตามผลกรรมชั่วที่ตัวเคยทำไว้ขณะเป็นมนุษย์

แต่ถ้าตายไปขณะที่ใจผ่องใสกำลังนึกถึงความดีที่เคยทำไว้ในอดีต ใจย่อมถูกดึงดูดให้ไปเกิดบนสวรรค์ มีทิพยสมบัติอันประณีตตามกำลังแห่งผลกรรมดีที่เคยทำไว้ในขณะที่เป็นมนุษย์ "

เพราะชีวิตของเรานั้น

ไม่ได้ยืนยาวเป็นพันปีเมื่อชีวิตที่นับถอยหลังสู่ความตายเช่นนี้ เราจะมีวิธีใช้ชีวิตให้คุ้มค่าและมีสติได้อย่างไร.?

มนุษย์ทุกคนเกลียดทุกข์อยากได้สุขกันทั้งนั้น แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงชีวิตคนเราก็มีทั้งความสุข และความทุกข์คละเคล้ากันไปซึ่งความทุกข์ที่มนุษย์ทุกคนต้องเผชิญคือ

ความแก่ ความเจ็บ ความตาย การรับมือกับความทุกข์อย่างมีสติคือสิ่งที่เราควรเตรียมตัวให้พร้อมด้วยการหมั่นเตือนตัวเองให้

1.รู้จักเป้าหมายที่แท้จริงของชีวิต ว่าเรามาเพื่อสั่งสมบุญกุศล แสวงหาหนทางพ้นทุกข์ในวัฏสางสาร มุ่งสู่พระนิพพานตามรายพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

2. หมั่นเจริญมรณานุสติเป็นประจำ ว่าเรามีความตายเป็นธรรมดา จะล่วงพ้นความตายไปไม่ได้

3.ต้องรีบสั่งสมบุญอย่างเต็มที่ สิ่งที่เราจะนำติดตัวไปได้คือผลแห่งการกระทำของตัวเอง เราทำดีย่อมได้ดี ทำชั่วย่อมได้ชั่ว ไม่มีใครรับผลกรรมแทนเราได้