ไหวไหม? ถ้าได้คืบจะเอาศอก

หลังจากที่มีกระแสต่อต้าน
การสร้างมัสยิดอย่างหนักหน่วง
ทั้งในภาคเหนือและภาคอีสาน
เรามาฟังเสียงนึกคิดของผู้คน
ที่มีประสบการณ์ตรงกันบ้างว่า
ทำไมพวกเขาถึง .. 

ไม่เอามัสยิด?

ชาวบ้านในพื้นที่ตำบลดอนฉิมพลี ฉะเชิงเทราโอด หลังมัสยิดเตรียมผุดแทรกขึ้นมาอยู่ใจกลางชุมชนชาวไทยเชื้อสายจีน ทั้งที่มีคนมุสลิมในชุมชนเพียงแค่ร้อยละ 10 เผยของเดิมมีมากถึง 5 แห่งล้อมรอบชุมชน แฉมีทุนนอกหนุนหลังส่งมาให้ผุดสร้างแทรกให้อยู่ตรงกลางใจของทุกชุมชนทั่วทั้งประเทศ

     
วันนี้ (22 ส.ค.2559) นายชวน พุกภิญโญ อายุ 72 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68/3 ม.1 ต.ดอนฉิมพลี อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ประธานชุมชนศาลเจ้าแม่ทับทิม กล่าวถึงความเดือดร้อนของคนในชุมชน เขตเทศบาลตำบลดอนฉิมพลี (ตลาดคลอง 16) ซึ่งมีสภาพเป็นชุมชนชาวจีนนับถือศาลเจ้า และชาวไทยพุทธที่อยู่กันอย่างสงบสุขมานานนับตั้งแต่บรรพบุรุษ ที่มีประชากรอาศัยอยู่ร่วมกันรวม 4 ชุมชน ในเขตพื้นที่ 2 หมู่บ้าน คือ ม.1 และ ม.18
     
       ต่อมา ได้มีชาวมุสลิมเริ่มทยอยกันเข้ามาแทรกอาศัยอยู่ในชุมชน ซึ่งก็สามารถอยู่ด้วยกันได้ด้วยดี และที่ผ่านมา ก็ได้มีการก่อสร้างมัสยิด และมีการขยายตัวของชุมชนชาวมุสลิมเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว 

แต่ส่วนใหญ่จะเข้ามาอาศัยอยู่ในบริเวณรายรอบนอกตามชายคลองของตลาดคลอง 16 และได้มีการก่อสร้างมัสยิดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนรอบชุมชนทั้ง 4 ทิศ ในรัศมีไม่ห่างกันมากนัก และมีบางแห่งอยู่ใกล้กันระยะห่างไม่ถึง 1 กม. อีกด้วย 

 ชาวไทยเชื้อสายจีน ชาวพุทธ และคริสต์ในพื้นที่ก็ยังสามารถที่จะอยู่ร่วมกันกับกลุ่มคนมุสลิมเหล่านี้ได้ แม้ว่าจะมีการปฏิบัติศาสนกิจ และมีการเปิดเครื่องขยายเสียงส่งเสียงดังออกมารบกวนมากถึงวันละ 5 ครั้งก็ตาม แต่ความเดือดร้อนที่กำลังจะเกิดขึ้นใหม่นี้ กลุ่มชาวมุสลิมซึ่งมีอยู่ในชุมชนเพียงแค่ร้อยละ 10 กำลังที่จะเข้ามาสร้างมัสยิดให้เข้ามาอยู่ถึงใจกลางชุมชนอีกแห่งหนึ่งด้วย โดยอยู่ด้านฝั่งตรงข้ามของถนนกับสำนักงานเทศบาลดอนฉิมพลี ทั้งที่เป็นชุมชนหนาแน่นของชาวจีน และชาวไทยพุทธ

     
       “พวกเราจึงมองว่ามัสยิดของชาวมุสลิมที่มีประชากรอยู่เพียงน้อยนิดนั้น มีมากจนเกินความจำเป็นเพราะของเดิมก็มีอยู่แล้วมากถึง 5 แห่งในระยะติดๆ กัน และการเข้ามาสร้างก็เข้ามาอยู่จนถึงในใจกลางชุมชนนั้น ก็จะส่งส่งเสียงรบกวนสร้างความรำคาญให้แก่คนส่วนใหญ่ในชุมชนอีกด้วย ชาวบ้านถึงอยากจะขอวิงวอนร้องทุกข์ไปถึงยังผู้ที่มีอำนาจในการสร้างความสงบสุขของประชาชนให้เข้ามาช่วยแก้ปัญหาความไม่สงบสุขที่กำลังจะเกิดขึ้นใหม่นี้ด้วย ทั้งที่พวกเราอยู่กันมาก่อน” นายชวน กล่าว
     
       น.ส.สุวรัญญา ภู่เย็น อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 61 ม.18 ต.ดอนฉิมพลี ซึ่งเป็นกรรมการชุมชนศาลเจ้าพ่อเขาตก กล่าวว่า..

" ที่ผ่านมาชาวบ้านทราบมาว่าการสร้างมัสยิดของชาวมุสลิมในปัจจุบันนี้ไม่ได้เป็นการสร้างไปตามหลักของกฎหมาย ที่ต้องอยู่ห่างไกลจากชุมชนอย่างน้อย 50 ไมล์ และต้องมีประชากรมากถึง 50 หลังคาเรือนขึ้นไป แต่ปัจจุบันมีแค่ 20 หลังคาเรือนก็สร้างกันแล้ว ทำให้ก่อสร้างจึงไม่ได้สร้างตามความต้องการของประชาชนที่จะได้ใช้เป็นสถานที่ในการปฏิบัติกิจทางศาสนาของตนอย่างแท้จริง แต่เป็นการสร้างขึ้นมาเพื่อหวังผลประโยชน์ "

 เนื่องจากชาวบ้านทราบมาว่า ผู้ที่จะเข้ามาทำการก่อสร้างมัสยิดแห่งนี้ขึ้นมานั้นได้ไปรับเงินสนับสนุนจากภายนอกประเทศเข้ามาทำการจัดหาสถานที่ก่อสร้าง

ซึ่งปัจจุบันมีทุนในลักษณะนี้ไหลเข้ามามาก และมีการสร้างมัสยิดจนเกินความจำเป็นแทรกเข้ามาในชุมชนชาวพุทธ และชาวจีน รวมทั้งศาสนาอื่นๆ ไปจนทั่วทั้งประเทศ

       โดยเฉพาะในชุมชนชาวตลาดคลอง 16 แห่งนี้นั้นมีมัสยิดมากถึง 5 แห่งอยู่แล้วที่ก่อสร้างอยู่ไม่ห่างกันมากนัก ในรัศมีแค่ประมาณ 1 กม.เท่านั้น 

ทั้งที่เป็นชุมชนขนาดเล็ก มีประชากรเพียงกว่า 1 พันคนเศษเท่านั้น แต่กลับมีมัสยิดล้อมรอบชุมชนทั้ง 4 ทิศทางรวม 5 แห่ง ชาวชุมชนตลาด 16 จึงไม่ต้องการให้มีการก่อสร้างเพิ่มเติมขึ้นมาอีก
     
       “เพราะที่ผ่านมามัสยิดทั้ง 5 แห่งนี้ก็ต่างได้ส่งเสียงการระมาดดังระงมไปจนทั่วมากถึงวันละ 5 รอบอยู่แล้ว  ซึ่งเสียงดังรบกวนคนในชุมชน ที่ส่วนใหญ่เป็นชาวจีนนับถือศาลเจ้า และชาวไทยพุทธ ทั้งที่เขาเป็นคนเพียงส่วนน้อย ทั้งที่พวกเราก็เป็นคนในพื้นที่อยู่กันมาก่อนคนมุสลิมที่เพิ่งมีการโยกย้ายถิ่นฐานเข้ามาแทรกในภายหลัง ” 


ขอบคุณข้อมูลจาก
MRG Online

เพราะความลับไม่มีในอากาศ

>Talk--secret.blogspot.com