แปะงาบเมาหมัด.? เจ้าคุณเบอร์ลินสอน อยากฉลาดอย่าอวดโง่ : กรณีธรรมกาย

 

คนอะไร ?

ไม่คิดจะรักแม้กระทั่งตนเอง


ข้อความตรงนี้ผมต้องการ

เตือนไปยังคุณไพบูลย์ นิติตะวัน

โดยตรงครับ!

ขอบอกก่อนว่า..
วันนี้ผมมาแบบกัลยาณมิตรนะครับ
เพราะผมคิดว่าถึงวันนี้
ด้วยวีรกรรมวีรเวร ของคุณไพบูลย์
ที่แกขยันแต่เรื่อง สร้างบาปเรื่องพระ
มาตลอดนั้น

ผมว่า พระสงฆ์ในประเทศไทย
น่าจะ 99.99 %คงไม่มีรูปไหนอยากมา
ข้องเกี่ยวกับคุณไพบูลย์แกหรอกครับ
ถ้าจะมี ก็คงมีแต่วัดแถวอ้อน้อย
แห่งเดียวเท่านั้นแหละ


ผมหมายถึงว่า..
ทุกวันนี้จะมีใครมาเตือนสติ
คุณได้บ้าง ผมว่าคงหายากเต็มทน
นอกจาก เจ้าคุณเบอร์ลินแล้วผมว่า

"มันหาไม่มีแล้ว"

ก็ไม่อยากอ้างแต่นี้คือเรื่องจริงคุณไพบูลย์
ไม่ต้องมาเห็นความดีของผมตรงนี้ก็ได้

"ไม่ว่ากัน"คือผมอยากจะบอกว่า ..

"คุณไพบูลย์เอ้ย!
คุณคิดอะไรพูดอะไรทำอะไร
รักใคร เกลียดใครก็อย่าให้
มันสุดกู่นักเลยให้เผื่อๆ ไว้บ้าง
เผื่อให้ตนเอง และลูกหลานตนเอง
ตระกูลตนเอง ให้มีที่ยืนในสังคม
ในอนาคตบ้างเถอะ "

ไม่รักใคร ก็ให้รักตนเองบ้าง
พฤติกรรมของคุณที่ผ่านมานั้น
ทั้งความคิด คำพูด การกระทำ
มันสุดโต่ง จนเกินเยียวยาแล้วนะ
 หากในอนาคต สิ่งที่พวกคุณทำ
มันกลับตาลปัตรไปหมด ตระกูลคุณ
จะอยู่ในสังคมได้หรือ..
เตือนได้แค่นี้แหละครับ!


เป็นฆราวาส..

ดันมาติดใจบทสวดมนต์

ของพระระดับสมเด็จพระราชาคณะ

โลกสับสนแท้ๆ

ผมอยากจะบอก
คุณไพบูลย์ตรงๆ แต่จริงใจว่า ..

"เลิกบ้าเสียทีเถอะครับ
คุณจะบ้าไปถึงไหนครับ"

ผมจะบอกให้รู้ไว้เอาบุญว่า..

" อันพระสงฆ์ไทยกับพระมหากษัตริย์นั้น
มีความใกล้ชิดด้านต่างๆ ผูกพันกันสนิท
มาแต่โบราณแล้ว ช่วยกันสร้างบ้าน
แปลงเมืองมาอาจจะเรียกว่า "บ่าหาบมือหิ้ว"
มาด้วยกัน เกื้อกูลเกื้อหนุนกันมาโดยตลอด
ในทุกๆ ด้านฟังไว้ๆ "

อันตัวคุณไพบูลย์นั้น
สังคมส่วนใหญ่เขาพากันมอง
คุณว่าไง..
คุณยังไม่รู้ตัวอีกหรือ?

ผมว่าว่างๆ ให้ลูกหลานมันเช็คกระแสข่าว
บ้างเถอะ จะได้หายหลงตัวเองสักที
คุณไม่ต้องมาทำที แกล้งเป็นตั้งคำถาม
ในเชิงชี้นำหลอกคนโง่หรอกว่า..

ที่สมเด็จช่วงข้ามบทสวดมนต์นะ
จะเข้าข่ายไม่จงรักภักดีต่อสถาบัน
พระมหากษัตริย์หรือไม่?

หรือตั้งคำถามเชิงชี้นำให้คนเชื่อว่า
เป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพหรือไม่?

ผมจะบอกให้ เอาง่าย ๆ ว่าเรื่องความรัก
ในสถาบันพระมหากษัตริย์ ของพระสงฆ์นั้น
ไม่ต้องระดับไปถึงชั้นสมเด็จพระราชาคณะ
อย่างหลวงพ่อสมเด็จช่วง
ที่ท่านทำกิจสงฆ์เกี่ยวกับพระราชพิธี
มานับหมื่นนับพันรอบหรอกครับ..!!

เอาแค่พระราชาคณะระดับชั้นสามัญ
อย่างผม เจ้าคุณเบอร์ลิน ก็พอก็ย่อม
ทราบดีเกี่ยวกับการปฏิบัติตน
และระเบียบปฏิบัติต่อองค์พระมหากษัตริย์
และพระบรมศานุวงศ์ทุกพระองค์ ว่า..

"ควรปฏิบัติอย่างไร
และต้องเคร่งครัดอย่างไร"

เช่นตัวอย่างว่า ..

     1.
หากจะต้องไปเทศน์หน้าพระที่นั่ง
จะต้องนำส่งเรื่องข้อความที่จะเทศน์นั้น
ขึ้นนำไปถวายเพื่อตรวจก่อนทุกครั้ง

     2.
ทั้งยังมีระเบียบแบบแผนอย่างเคร่งครัด
ที่ต้องปฎิบัติในการเทศน์ เช่น จะต้อง
แสดงออกตนก่อนทุกครั้งว่า ..

"หากมีสิ่งใดพลาดพลั้ง
จงโปรดพระราชทาน
อภัยแก่อาตมา ผู้ด้อยสติปัญญา ฯ"

    3.
ในเวลาถวายศีล แก่พระมหากษัตริย์
และพระบรมศานุวงศ์ นั้น..

ให้พระสงฆ์กล่าวติดต่อกันไปเลยในแต่ละข้อ
โดยไม่ต้องเว้น หรือให้รอพระเจ้าอยู่หัว
พระองค์ท่านว่าตามจนจบ ดังเช่นทั่วๆ ไป

    4.
เมื่อถึงคราวจะให้สวดให้พร
เจ้าพนักงานต้องอัญเชิญน้ำมาให้ทรงหลั่ง
น้ำทักษิโณทกก่อน จึงค่อยขึ้น "ยถา"
จากนั้น จึงต่อด้วยบทถวายพระพรพิเศษ
ถวายอดิเรก และถวายพระพรลา เป็นลำดับ

เอาแค่ 4 ข้อนี้

ก่อนนะครับซึ่งผมขอท้า

คุณไพบูลย์ หรือยันไปถึงอาจารย์

ของคุณก็ได้ว่า ..


ต่อให้ 100 ไพบูลย์ บวก 1,000 พุทธอิสระ
ด้วยก็ได้ เชื่อได้เลยว่า..

"ไม่รู้เรื่องแบบนี้
และไม่ทราบมาก่อนอย่างแน่นอน"

เรื่องเหล่านี้
มันเป็นความละเอียดอ่อน เชื่อมโยง
ทั้งเรื่องของจิตใจ ศรัทธาที่ผูกพันธ์อย่างลึกซึ้ง
เกินกว่าที่กติกาใดๆ หรือเหนือความคิดสามัญๆ
จะเข้าใจได้แจ้งชัด เป็นเรื่องที่คณะสงฆ์
ท่านสอนกันมา ปลูกฝังกันมาเป็นการเฉพาะ
เช่นนี้นี้แหละที่โบราณท่านจึงกล่าวสอนเนืองๆ ว่า..

"อย่า (ริ) สอน สังฆราช"

เพียงแค่นี้..
ก็ขอให้คุณไพบูลย์ ไปคิดดูแล้วกันว่า

"คุณจะเอาคุณสมบัติอะไรในตัวคุณ
มาติดใจ มาจับผิด มาปรับอาบัติ
แก่หลวงพ่อสมเด็จช่วงท่าน"

ชัดไหมครับ เงียบทันที! ดีที่สุดครับ
ตรงนี้แหละ ซึ่งเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ผมอยากฝาก
เตือนคุณไพบูลย์อีกสักครั้งว่าพฤติกรรมเยี่ยงนี้
เป็นพฤติกรรมที่พยายามแยกคณะสงฆ์
ให้แตกจากสถาบันพระมหากษัตริย์
โดยโยนความระแวงให้เกิดขึ้นในสังคม

ขอเถอะครับ ขอว่าอย่าริคิด อย่าริอ่านว่า
ใครจะไม่รู้ความคิดเลย เรื่องแบบนี้
ก็สมดังที่พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า..

"คนชั่ว ย่อมคิดแต่เรื่องชั่ว"

ว่าไงต่อละครับ คุณไพบูลย์

จะตอบคำถามนี้อย่างไร ?



ขอถามชาวไทยผู้รักชาติ

ศาสน์ กษัตริย์

จากส่วนลึกของหัวใจว่า ..

"พฤติกรรมเยี่ยงนี้ ของคุณไพบูลย์
เป็นพฤติกรรมที่พยายามแยกคณะสงฆ์
ให้แตกจากสถาบันพระมหากษัตริย์
โดยโยนความระแวงให้เกิดขึ้นในสังคม
ใช่หรือไม่.? "


ผมขอให้ชาวไทยทุกคนที่มีหัวใจรักแผ่นดิน
จงลองใช้สติอย่างวิญญูชน ผู้เข้าถึงพระศาสนา
ถามหัวใจตัวเองดูเถิดครับว่า..

ควรจะขอคำอธิบาย
จากคุณไพบูลย์ในครั้งนี้อย่างไร.?

และก็ขอเตือนคุณไพบูลย์ดังๆ ด้วยจิตหวังดีว่า ..
หากคุณไม่รักใครเลยก็ให้รักตัวเองบ้างเถอะครับ
รู้ไหมครับ..

การกระทำของคุณนั้น
มันเป็นเรื่องชั่วมากกว่าดีทุกครั้ง!!

ชีวิตเพิ่มแต่ชั่วเข้ามาคุณ และพรรคพวกนั้น
มันล่อนจ้อนในสังคมไปทุกๆ วันแล้วครับ
จะเอาไงดีกับชีวิตตนเอง คิดออกหรือยังครับ
"คุณไพบูลย์"


งานวันที่ 9 มิ.ย. 2559 ว่าไปแล้ว
เจ้าภาพหลัก ในการจัดงานวันนี้คือ

"สำนักนายกฯ และกรมการศาสนา"

ครับ..ส่วนสำนักพุทธฯ นั้น
เพียงแค่ไปร่วมงาน และไปทำหน้าที่
ปฏิบัติดูแลต่อผู้ปฏิบัติหน้าที่
สมเด็จพระสังฆราช
คือหลวงพ่อสมเด็จช่วง เท่านั้น..


ดังนั้น หากคุณไพบูลย์จะติดใจเรื่องบทสวดนี้
และจะหาคำชี้แจงในครั้งนี้จริงๆ
ก็ต้องที่เจ้าภาพครับ อย่ามามั่วมาถามผิดที่
และก็ต้องไปยื่นเรื่องเป็นลายลักษณ์อักษรครับ
ไม่ใช่ถามออกสื่อ แล้วมาตะโกนถาม
ตามซอยแบบนี้เจตนาแบบนี้ เขาเรียกว่า..

"โยนความระแวงให้สังคม"

มันเป็นความคิดที่สุดแสนชั่วร้าย
เพราะมันสำคัญเกินกว่าที่คนธรรมดา
เขาจะคิด "เอามาเล่น"


สรุป

อันการบำเพ็ญสาธารณกุศลต่างๆ
ของพสกนิกรในแผ่นดินเพื่อถวาย
เป็นพระราชกุศล แด่องค์พระประมุข
ของแผ่นดินนั้นที่ถูกต้องควรยึดถือ
เอากุศลเจตนาเป็นใหญ่ เป็นที่ตั้งครับ

เรื่องมงคลของแผ่นดิน "เรื่องสูง"
แบบนี้แต่กลับมีกลุ่มคนคิดชั่ว
นำมาคิดทำให้เป็นเรื่องมัวหมอง
ผมจึงขอให้ คุณไพบูลย์
ได้กรุณากลับความคิดเสียโดยเร็ว
ทบทวนให้ดีๆ ว่ากำลังคิดอะไรอยู่?

เพราะว่าไปแล้ว ในเมื่อถือกุศลเจตนา
เป็นที่ตั้งแล้ว เป็นเรื่องสำคัญไปแล้ว
ดังนั้น หากการปฎิบัติงานที่ผู้ปฎิบัติ
อาจเกิดความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ
ในรายละเอียดนั้นก็ต้องถือว่า ..

"ไร้เจตนา โทษไม่มีครับ เป็นเรื่องปกติ"

สวดมนต์ถวายในหลวง

ที่ รพ. ศิริราช

หรืออีกตัวอย่าง
เช่นกรณีพุทธอิสระ และคณะศิษย์
ที่ได้จัดให้มีกิจกรรมสวดมนต์
ที่ รพ. ศิริราช เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล
เป็นประจำนั้นแม้ โรงพยาบาลจะเป็นเขต
ที่มีกฎกติกาสากล เช่น
เป็นที่ห้ามใช้เสียงดังเด็ดขาดเพราะ
รบกวนผู้ป่วย

เรื่องนี้.. สมมติหากวัดต่างๆ
ในประเทศไทยทั้งหมดเกิดคิด
และพากันเดินทางมาทำกิจกรรม
แบบนี้ในบริเวณนี้กันทั้ง 3 หมื่นกว่าวัด
มันจะเกิดอะไรขึ้น.?

สังคมก็ถามว่ามันสมควรไหม?
ทำไม? ..ไม่ไปทำที่ภายในวัดดังเช่นวัดอื่นๆ
แบบเขาทำกันละแต่เมื่อมองไปที่กุศลเจตนา
ของผู้จัดกิจกรรมคือ พุทธอิสระ และคณะศิษย์
ที่มีกุศลเจตนาเพื่อถวายในหลวงที่กำลัง
ทรงประชวรและประทับอยู่ที่นั้น

ผมคิดว่าสังคม..
ก็ไม่ได้มาคิดเล็กคิดน้อย หรือมาตำหนิ
อะไรหรอกครับแม้ตัวผม ก็ยังยกมือขึ้นหัว
ร่วมอนุโมทนาไปด้วยทุกครั้งเมื่อทราบข่าว

ที่ผมพยายาม (เน้น) ยกมาทั้งหมดนี้
ผมว่าก็น่าจะ" จบ" นะครับ!

นอกจากคุณไพบูลย์
และพวกจะมีเจตนาอะไรที่ไม่ดี
แอบแฝงอยู่ในใจ"แบบมาก ๆ "
นะแหละครับจึงมาแกล้งทำเป็น
ติดใจเรื่องนี้ขึ้นมา และจะไม่ยอมจบ

ชัดเจนนะครับ.!
คนเป็นประธานร่าง และตรวจมีหรือ
จะไม่อยากสวด และไม่รู้ความสำคัญ
อย่านำจิตหยาบไปหยั่งรู้จิตละเอียด

เพราะว่าไปแล้วบทสวดมนต์
พิเศษบทนี้ ผมว่า..หลวงพ่อ
สมเด็จช่วง ท่านคงจะ
สวดมากกว่า1,000 รอบแล้วมั้ง..!

เพราะตัวท่านเองเป็นประธาน มส.
ที่ได้ตั้งคณะกรรมการ
ให้แต่งบทสวดมนต์
นี้ขึ้นมาเป็นกรณีพิเศษเอง.!

เพื่อถวายพระพรชัยมงคล
แด่องค์เอกศาสนูปถัมภก
ในนามของคณะสงฆ์ทั้งสังฆมณฑล
ในวโรกาสสำคัญนี้ว่าไปแล้ว
อันกิจใดของสงฆ์ที่จะถวายพระราชา
ผู้เป็นเจ้าแห่งแว่นแคว้นที่ให้ทรง
ให้ความอุปถัมภ์ต่อสมณชีพรหามณ์
ให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุขนั้นเป็นเรื่องละเอียด
ลึกซึ้งยิ่งนัก เช่น หากเป็นเรื่องของ
พระราชาแล้วไซร้อย่าว่าแต่บทสวดมนต์เลย
ที่ข้ามได้ พักได้ หยุดได้เลยต่อให้พระสงฆ์
กำลังสวดพระปาติโมกข์กันอยู่ก็ตาม..

"พระพุทธองค์ ก็ทรงให้หยุด
ให้พัก ให้เว้น ในระหว่างได้ "

สิ่งนี้คือ..

"ความงดงามแห่งสงฆ์
ในพระพุทธศาสนา"
ในบางเรื่องของสงฆ์นั้น
ผมต่อให้ล้านที่ถือเพศฆราวาส
ก็ไม่ถ่องแท้หรอกครับ
อย่าอวด อย่าอวด"

เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ผู้ที่มีจิตอกุศล
คิดตำหนิต่อหลวงพ่อสมเด็จช่วง
ในครั้งนี้ ทั้งที่ตัวเองก็ยังมีจิตที่ยังหยาบๆ
อยู่ในเพศแห่ง "หีนะเพศ" นั้น..

ขอถามว่า..
พวกท่านหยั่งทราบได้อย่างไรว่า
ภาวะจิตขณะนั้นของหลวงพ่อ
สมเด็จช่วงท่านเป็นเช่นไร?


โชคดีมีชัยทุกท่านครับ
เจ้าคุณเบอร์ลิน
Berlin,den 17.06.2016

ติดตามย้อนหลัง ตอนที่ 1

Click > เจ้าคุณเบอร์ลินไม่ให้ราคา 
คนดีชอบแก้ไข คนพันธุ์ไร ชอบจับผิด?



เพราะความลับไม่มีในอากาศ
>Talk--secret.blogspot.com

-------------------------------------






แปะงาบเมาหมัด.? เจ้าคุณเบอร์ลินสอน อยากฉลาดอย่าอวดโง่ : กรณีธรรมกาย แปะงาบเมาหมัด.? เจ้าคุณเบอร์ลินสอน อยากฉลาดอย่าอวดโง่ : กรณีธรรมกาย Reviewed by สารธรรม on 00:31 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.