มลทินรถโบราณ คือเงาสะท้อนอำนาจรัฐเหนือการคณะสงฆ์จริงหรือ.?

"สมเด็จช่วง" พ้นมลทิน

ยันกระบวนการทางกฎหมายพิสูจน์แล้วไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับรถเบ็นซ์โบราณ วอนสังคมยอมรับความจริงว่า ท่านบริสุทธิ์ และคาดว่าฝ่ายที่เห็นต่างอาจไม่หยุดเท่านี้

ผศ.ร.ท.ดร.บรรจบ บรรณรุจิ 
ภาคีสมาชิกราชบัณฑิต 
แห่งราชบัณฑิตยสถาน 
และนักวิชาการพระพุทธศาสนา 

ได้กล่าวถึงกรณีอัยการไม่สั่งฟ้อง พระมหาศาสนมุนี หรือเจ้าคุณแป๊ะ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เกี่ยวกับรถเบ็นซ์โบราณ ที่ส่งผลกระทบต่อสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชว่า

สิ่งแรกฝ่ายที่สนับสนุนสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ก็คงโล่งใจ แต่ฝ่ายที่เห็นต่างและต้องการให้เกิดปัญหาในทางเสื่อมเสียก็คงไม่สบายใจและตนก็เชื่อว่า ฝ่ายที่เห็นต่างก็คงจะยังไม่หยุดเท่านี้ .!


ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย

ต้องทำใจให้ได้..


สำหรับวิญญูชน คนทั่วไปที่มีสติปัญญาที่เข้าใจในกฎเกณฑ์ของกฎหมาย กติกา เมื่อกระบวนการศาลที่สถิตแห่งความยุติธรรม เมื่อศาลตัดสินออกมาเช่นไรจะยอมรับกันได้หรือไม่ สำหรับฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยซึ่งต้องอยู่ที่การทำใจยอมรับให้ได้

ในเมื่อ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ไม่มีมลทิน เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายควรพิจารณาถึงคุณงามความดีที่ท่านได้ทำมา และสิ่งที่ท่านควรจะได้รับบ้างว่าคืออะไร


ผศ.รท.ดร.บรรจบ กล่าวต่อไปว่า..

ในสายตาที่ตนเองมองสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ท่านเป็นพระโบราณรุ่นเก่า ที่คนไทยอยู่กันด้วยประเพณีที่มีความเคารพพระ และพระเองก็ทำตัวสบายๆ กันเองต่อญาติโยมต่อสังคมโดยตัวท่านเองก็มีสมณสัญญาความเป็นพระในตัวของท่าน

ฉะนั้นอะไรที่เกิดขึ้นตามข้อกล่าวหา สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ท่านก็เปิดโอกาสให้สังคมได้ตรวจสอบผ่านกระบวนการทางกฎหมายแล้ว เมื่อสังคมกระจ่างแล้วว่า ท่านบริสุทธิ์ ก็ควรจะยอมรับ และให้โอกาสต่อท่านด้วย 

พศ.ควรรีบไขข้อข้องใจ

ไม่ใช่เอาแต่อุบเงียบ.?


ผศ.รท.ดร.บรรจบ กล่าวอีกว่า..

ส่วน ภาพลักษณ์ของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ที่ถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์ไปแล้วนั้นสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ต้องเข้ามาช่วยไขความกระจ่างให้สังคมควรทำตั้งนานแล้ว ..



เพราะอำนาจรัฐอยู่เหนือ

การบริหารคณะสงฆ์.?

แต่ที่ผ่านมายังไม่แสดงบทบาทของการช่วยเหลืออย่างชัดเจน เนื่องจากตำแหน่ง ผอ.พศ. มาด้วยการเมืองที่มีผู้บังคับบัญชา คือ รัฐมนตรี ซึ่งคือคนที่ให้ตำแหน่ง ส่วนมหาเถรสมาคม (มส.) เป็นเพียงผู้ที่ พศ. เข้ามาสนองงานเท่านั้น ก็ทำให้ พศ. ต้องเกรงใจรัฐมนตรี แสดงให้เห็นชัดเจนว่า

อำนาจของรัฐ ได้มีอำนาจเหนือการบริหารงานคณะสงฆ์ ซึ่งเป็นเรื่องที่พวกเราจะต้องพิจารณาแก้ไขกันต่อไป


พศ.ย้ำสมเด็จท่าน

ไม่เกี่ยวมาตั้งแต่ต้น.!

ด้าน นายพนม  ศรศิลป์ ผอ.พศ. กล่าวว่า กรณีอัยการไม่สั่งฟ้อง พระมหาศาสนมุนี กรณีรถเบ็นซ์โบราณนั้นกระบวนการจากนี้ไปก็ต้องดูรายละเอียดว่าทาง ดีเอสไอ จะคัดค้านหรือไม่ ซึ่งในส่วนของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ท่านไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีมาตั้งแต่ต้นแล้ว

โดยก่อนที่คณะกรรมการจะยื่นเสนออัยการก็ ไม่มีชื่อสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เข้าไปเกี่ยวข้องกับกระบวนการได้มาของรถเบ็นซ์โบราณอยู่แล้ว 

จึงอยากให้สังคมเข้าใจด้วยว่า สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ท่านไม่ได้มีมลทินเกี่ยวกับเรื่องรถเบ็นซ์โบราณแต่อย่างใด เนื่องจากท่านไม่ได้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาตั้งแต่ต้น... 


ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก
Dailynews online
Fb Banjob Bannaruji-บ้านบรรณรุจิ


เพราะความลับไม่มีในอากาศ
>Talk--secret.blogspot.com
มลทินรถโบราณ คือเงาสะท้อนอำนาจรัฐเหนือการคณะสงฆ์จริงหรือ.? มลทินรถโบราณ  คือเงาสะท้อนอำนาจรัฐเหนือการคณะสงฆ์จริงหรือ.? Reviewed by สารธรรม on 23:38 Rating: 5

5 ความคิดเห็น:

  1. แล้วเรื่องที่เกิดขึ้นพวกที่ต้องรับผิดในการทำชั่ว ๆ มุดหัวไปไหนหมด

    ตอบลบ
  2. ไอ้พวกกล่าวหาวัดพระธรรมกาย และสมเด็จช่วงมันเป็นพวกเดียวกัน สีเดียวกัน ที่ปล้นประเทศ น่าสงสารชาวพุทธโง่ๆ โดนหรอกแบบไร้สติ

    ตอบลบ
  3. พวกที่กล่าวหาสมเด็จวัดปากนำ้โชคดีนะที่ท่านไม่มีใจจะเอาเรื่องใครๆเลย สมแล้วที่ท่านเป็นพระผู้ทรงคุณในแผ่นดินอดทนอดกลั้น. สาธุๆๆ

    ตอบลบ
  4. ผู้บริหารประเทศ. ผู้มีอำนาจ มีอคติหรือไม่✨😀เอาแต่ความคิดตนเป็นใหญ่หรือไม่ ประเทศไทยจะเดินหน้า... แบบเอียงๆครับ. อุเบกขาไว้ลูกๆ...ขันติ...กฏใครกรรมท่านครับ...

    ตอบลบ

  5. ผู้บริหารประเทศ. ผู้มีอำนาจ มีอคติหรือไม่✨😀เอาแต่ความคิดตนเป็นใหญ่หรือไม่ ประเทศไทยจะเดินหน้า... แบบเอียงๆครับ. อุเบกขาไว้ลูกๆ...ขันติ..ใครทำกรรมไว้ ...กับผู้ทรงศีล...รับกรรมไปเต็มๆครับ...ถ้าไม่กล้าไปขอขมาต่อหน้าท่านสมเด็จฯ ก็แอบไปขอขมาที่วัดปากน้ำนะครับ... กรรมที่ทำสำเร็จแล้ว...หนักจะได้เป็นครับ...✨🎉💖

    ตอบลบ

ขับเคลื่อนโดย Blogger.