ไปให้สุด.! วอน ป.ป.ช. สอบถึงต้นตอใครตั้งงบอุดหนุนวัด

ข่าวศาสนาที่อยู่ในความสนใจของสังคมชาวพุทธ ทั้งพระและฆราวาสไม่มีข่าวใดเกินข่าว พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ (ผอ.พศ.) เข้าร้องทุกข์กล่าวหา กรรมการมหาเถรสมาคม  3 รูป และที่ไม่ได้เป็นกรรมการมหาเถรสมมคม อีก 2 รูป เมื่อวันที่ 11 เม.ย. 2561

ต่อมาก็แจ้งความเพิ่มอีก 7 วัดในจำนวนนั้นอยู่ใน จ.นนทบุรี 3 วัด จ.อุดรธานี 1 วัด จ.ลำปาง 1 วัด และ จ.นครศรีธรรมราช 2 วัด

เมื่อมีเหตุกการณ์แบบนี้ 

ก็มีข่าวเชียร์ ข่าวแช่งและวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานา เป้าหมายอยู่ที่ พ.ต.ท.พงศ์พร (ผอ.พศ.) และพระคุณเจ้าที่ตกเป็นข่าวทั้งนั้น

ในฐานะชาวพุทธเราเคารพพระ และเห็นใจเจ้าคุณที่โดนหลายกระทงนอกจากเป็นผู้ถูกกล่าวหาโดย พ.ต.ท.พงศ์พร ซึ่งมีหน้าที่สนองงานโดยหน้าที่แล้ว

พระคุณเจ้ายังตกเป็นจำเลยสังคม ทั้งๆ ที่ตามกฎหมายยังบริสุทธิ์ ทั้งคดีโลก และคดีธรรม เมื่อคดียังไม่ถึงที่สุด

ผมไปกราบและฟังเสียงพระคุณเจ้า แต่เป็นพระคุณเจ้ารูปไหนขอปิดชื่อไว้ก่อน แต่ทุกรูปพูดเหมือนนัดกันไว้ (แม้ผมจะไปกราบ และพูดคุยต่างสถานที่และต่างวัดก็ตาม) 

โดยเข้าใจว่าปัจจัยที่สำนักพุทธฯ ถวายมานั้นเป็นเงินอุดหนุนทั่วไป.!

เพราะสำนักพุทธฯ ไม่ได้แจ้งว่าเป็นงบอะไร มีกรอบการใช้อย่างไรจึงใช้จ่ายเหมือนปัจจัยที่โยมทั่วไปถวาย และที่สำคัญทางวัดไม่ได้ทำเรื่องขอไป

ต่อมาคำถามว่า

พระคุณเจ้าทำหนังสือของบอุดหนุนจากสำนักพุทธฯ เมื่อไร เพื่ออะไร.?

พระคุณเจ้าซึ่งวัดของท่านมีชื่อในบัญชีรับเงินอุดหนุนการศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ. 2556 ด้วยกล่าวว่า

ทางวัดไม่ได้ทำเรื่องขอเงินอุดหนุนจากสำนักพุทธฯ แต่อยู่ดีๆ เขาก็นำเช็คธนาคารมาถวาย โดยบอกว่าเป็น เงินอุดหนุน ก็รับไว้และไม่ได้ถามว่าเป็นเงินอุดหนุนอะไร

เมื่อรับมาก็ใช้จ่ายเพื่อการพระศาสนา เช่น การก่อสร้างศาลาปฏิบัติธรรม และบูรณปฏิสังขรณ์ในวัดเหมือนปัจจัยที่รับจากญาติโยมทั่วไป

ถามต่อว่า... 

เมื่อได้เงินที่เป็นงบประมาณมาแล้ว มีขั้นตอนการใช้อย่างไร.? 

พระคุณเจ้าบอกว่า ทางสำนักพุทธฯ ไม่ได้กำหนดกรอบการใช้ไว้ อีกทั้งไม่บอกว่าเป็นงบอะไร มาจากไหน นอกจากบอกว่าเป็นงบอุดหนุน 

ทางวัดจึงใช้จ่ายในเรื่องที่วัดจำเป็น และต้องการในขณะนั้น แล้วอย่างนี้จะมากล่าวหาว่าทางวัด หรือพระทุจริตได้หรือ.?

สงสัยหรือไม่ว่าทำไมสำนักพุทธฯ 

จึงจัดสรรงบประมาณมาให้วัดต่างๆ พร้อมกันถึง 9 วัดในเวลาเดียวกัน พระคุณเจ้าสันนิษฐานว่าน่าจะมีอะไรอยู่เบื้องหลัง

เพราะปลายปี 2556 เป็นช่วงเปลี่ยนผ่าน ผู้อำนวยการสำนักพุทธฯ คนเดิมที่เกษียณอายุ จะมีผู้อำนวยการคนใหม่ จึงเดินสายหาเสียงสนับสนุน จึงใช้โอกาสนั้นจัดหาสรรงบให้วัดที่มีสิทธิมีเสียง

เผื่อว่าจะช่วยเชียร์ให้เป็นผู้อำนวยการคนใหม่ หากมีการสอบถามขึ้นมา แม้ว่า มส. หรือพระชั้นผู้ใหญ่ไม่ได้มีส่วนหรือมีอำนาจในการต่างตั้งก็ตาม

นอกจากนี้พระเถระชั้นผู้ใหญ่ท่านบ่นว่า มหาเถรสมาคม (มส.) ไม่เคยทราบเลยว่า พศ. มีงบประมาณมีปีละเท่าไหร่ หรือเตรียมจัดสรรสนับสนุนอะไรในโครงการอะไร

ยิ่งไปกว่านั้น ผู้อำนวยการสำนักพุทธฯ ได้พบปะกันในที่ประชุมเสมอไม่เคยแจ้ง มส. เลยว่า ปปป. กำลังตรวจสอบการใช้งบประมาณที่สนับสนุนโรงเรียนพระปริยัติธรรม

แต่วันดีคืนร้าย

ก็มีข่าวว่า ผอ.พศ. ไปแจ้งความร้องทุกข์กับ ปปป.ว่า พระผู้ใหญ่และวัดต่างๆ มีความผิดเรื่องทุจริตเงินอุดหนุนการศึกษาพระปริยัติธรรม

เมื่อเรื่องถึง ป.ป.ช. พระคุณเจ้าเรียกร้องว่า ป.ป.ช. ต้องสอบไปให้ถึงต้นตอ.!

ว่าใคร.?

ตั้งเรื่องของงบประมาณไปให้วัดต่างๆ ทั้งๆ ที่วัดไม่ได้ขอไป อย่าโยนความผิดมาถวายพระคุณเจ้า บาปนะจะบอกให้

ขอบคุณข้อมูลจาก
คอลัมน์ แวดวงสงฆ์ 29 เม.ย. 2561
เรื่อง ฟังหลวงพ่อเล่าเรื่องเงินอุดหนุนปริยัติธรรมโดย 
โดย สมาน สุคโต
smarns@posttoday.com