"ขายบุญ" เชื่อพระพุทธเจ้าอย่าเชื่อขี้เมา


ในอดีตเมื่อหลายปีมาแล้ว

เคยได้ยินข่าว มีการประกาศขายที่บนดวงจันทร์ ส่วนจะมีคนสนใจซื้อหรือไม่ ก็ไม่เป็นที่ทราบแน่นอนแต่ที่แน่ๆ เลยก็คือ

คนทั้งโลกอมยิ้มมองว่า...ทั้งคนประกาศขายและคนสนใจซื้อ คือหลุดโลกทั้งคู่หลุดจากโลกนี้ไปอยู่โลกพระจันทร์

ในนิทานเรื่องเด็กเลี้ยงแกะภาค "เปิดประตูสู่อบาย"  ที่เสกสรรปั้นแต่งโดยกลุ่มทุรชนคนบาปหนา

" วัดพระธรรมกายขายบุญ "
" วัดพระธรรมกายขายสวรรค์ "

ถ้าใครเชื่อนิทานเรื่องนี้ผู้ที่เป็นชาวพุทธ  เขาขำกลิ้งทั้งนั้นแต่ก็ทราบว่านิทานเรื่องนี้ขายดีมีคนหลงเชื่ออยู่ไม่น้อยเลยคิดว่าวัดสอนแบบนั้นจริงๆ

พอหลงเชื่อว่า... 

วัดสอนแบบนั้นจริงๆ ก็เลยได้บาปมหันต์ เป็นสมบัติติดตัวเพราะติเตียนพระสงฆ์ หมดทั้งวัดติเตียนคนเข้าวัดงมงายปัญญาอ่อน เชื่อโดยลืมคิดให้รอบคอบว่า

วัดพระธรรมกาย คือศูนย์รวมบัณฑิตนักปราชญ์ ทางพระพุทธศาสนา ไม่ต้องพูดถึงพระสงฆ์องค์เจ้าเลยขนาดอุบาสิกายังมีจบ ป.ธ. ๙ เลย

ยิ่งความรู้ทางโลกด้วย ต้องบอกว่าศูนย์รวมปริญญาทุกใบก็อยู่ที่นั่น.!

ถ้านักปราชญ์ เป็นคนโง่เขลาแล้วแล้วคนที่ไม่เคยเรียน แม้นักธรรมจะไม่โง่เป็นไส้เดือน กันหมดหรือ.?

ถ้าเป็นชาวพุทธแล้วต้องรู้ว่า...

บุญเป็นนามธรรม ซื้อขายกันไม่ได้สวรรค์ก็ไม่ใช่สินค้ามีวางจำหน่าย อยากได้บุญก็ต้องทำบุญ จึงจะได้มิใช่ไปเที่ยวซื้อหาตามห้างตามวัด

ก่อนจบบทความจึงขอฝากว่าลองคิดดูให้ดีเถิด ขนาดดวงจันทร์ที่เรามองเห็นกันทุกคน เมื่อมีคนประกาศขายคนทั้งโลกยังขำกลิ้งเพี้ยนทั้งคนขาย และคนซื้อ

แล้วเรื่องบุญ ซึ่งเป็นนามธรรมเล่ามองก็ไม่เห็น จับต้องก็ไม่ได้ สัมผัสได้เพียงแค่ความรู้สึกทางใจ 

ถ้ามีการขายจริงมีคนซื้อจริงคนคงขำกลิ้งยิ่งกว่าขายดวงจันทร์ขำทั้งคนขายและคนซื้อแต่ในความเป็นจริงนั้นคือ

ไม่มีการขายบุญ หรือ ขายสวรรค์ มีแค่เพียงคนกุข่าวทำลายวัดกับคนเชื่อข่าว และคนไม่เชื่อข่าวก็เท่านั้นคนที่เชื่อคือคนไร้ปัญญาคนไม่เชื่อคือคนมีปัญญา

ข่าววัดพระธรรมกายขายสวรรค์เป็นเครื่องวัดระดับสติปัญญาความเป็นชาวพุทธได้อย่างดีว่า

เป็นพุทธนับถือคางคกต้นตะเคียนเป็นสรณะ หรือว่าเป็นชาวพุทธคุณภาพนับถือพระรัตนตรัยเป็นสรณะ.?

หลวงพ่อก็บอกไว้ชัดเจนแล้วว่า " ซื้อขายบุญไม่มีนะลูกนะเชื่อพระพุทธเจ้า อย่าเชื่อขี้เมา "

Cr. ผู้เฒ่ามิลา บายันต์
"ขายบุญ" เชื่อพระพุทธเจ้าอย่าเชื่อขี้เมา "ขายบุญ" เชื่อพระพุทธเจ้าอย่าเชื่อขี้เมา Reviewed by สารธรรม on 07:48 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.