ศาสนสัมพันธ์มหายาน เถรวาท โลกร่มเย็นดับเข็ญด้วยศาสนา โดยเจ้าคุณเบอร์ลิน


โลกร่มเย็น 

ดับเข็ญได้ด้วยศาสนา 


ในโพสต์ครั้งนี้ ผมขออนุญาต
รายงานตัวด้วยเรื่อง 2 เรื่องนะครับ


     เรื่องที่ 1    

จะมาชวนสนทนาธรรมะ
แบบง่ายๆ แต่แก่นๆ ครับ


     เรื่องที่ 2    

รายงานข่าวกิจการพระพุทธ
ศาสนาในต่างประเทศคือการ
เจริญศาสนสัมพันธ์ และประชุม
ร่วมชาวพุทธ เถรวาท-มหายาน 
ตัวแทนจาก 14 ประเทศ
ที่ประเทศอินโดนีเซีย


วันนี้มีโอกาส ที่ถือว่าใกล้เข้าสู่
ฤดูกาล เตรียมทำบุญใหญ่คือ
การทอดกฐินกันเพราะใกล้
ออกพรรษาแล้วผมจะมาชวน
สนทนาธรรมะกันสักหน่อยนะครับ

การฟัง หรือสนทนาธรรมะนั้น
เป็นมงคลครับ มีแต่ดีไม่มีเสีย
เรื่องที่ยังไม่ได้ฟัง ก็จะได้ฟัง
ส่วนเรื่องที่ฟังแล้วก็จะได้เข้าใจ
ยิ่งขึ้นครับ แถมเตือนสติเตือนใจ
เราไม่ให้ตั้งอยู่ในความประมาท

ด้วยยุคปัจจุบันนี้หากใคร
ประมาทนิดเดียว นรกเลยครับ
นรกก่อนตายเสียด้วย

เรื่องที่ 1

ชีวิตหลังความตาย

หลายคนเมื่อเกิดทุกข์อุปสรรรค
ผจญมรสุมชีวิตแก่ตนเองมักคิด
สั้นๆ ว่า..

" ตายดีกว่า ปัญหาจะได้จบ "

บางคนถึงกับไปฆ่าตัวตายโดย
คิดว่า ปัญหาจะจบ ทุกข์จะได้
หมดไปด้วยซึ่งจริงๆ แล้ว "ไม่ใช่" 
ทั้งจะเพิ่มปัญหาหนักเข้าไปอีกด้วย

ผมจะขอพูดถึงแต่ในส่วนคนที่
นับถือพระพุทธศาสนานะครับ
ความคิดแบบนี้วันนี้เจ้าคุณเบอร์ลิน
อยากจะตะโกนใส่หูดังๆ ตามสไตล์
บรรยายธรรมะแบบบ้านๆ ตรงๆ
นะครับว่า..

" หลังตายไป ชีวิตมึง
จะยิ่งทุกข์หนักมากกว่าเก่า 
หลายเท่านักขอให้มึงจงรู้ไว้ "

มีแต่วิญญานล่องลอย ร่างกายไม่มี
ให้อาศัยแล้ว มึงจะไปทำอะไรได้
จะเข้าวัดไปสวดมนต์ถวายสังฆทาน
รักษาศีล ยังไม่ได้เลยเริ่มมีปัญญา
ขึ้นบ้างยังครับ คนที่คิดแบบนี้

เกิดเป็นคน ควรเลือกทางเดินชีวิต
ให้ถูกโดยเฉพาะพวกที่เลือกทาง
เดินและหาเลี้ยงชีพด้วย..

มิจฉาอาชีพ 
คืออาขีพไม่สุจริต วางความคิดตน
เป็นมิจฉาทิฎฐิ แบบดักดานนั้น
จงฟังต่อไปนะครับ

ง่ายๆ พื้นๆ ก็คือจงอย่าเลือกทาง
เดินชีวิต ที่ตรงข้ามกับศีล 5 ข้อ
ในทางพระพุทธศาสนาน่ะแหละครับ
ยิ่งจำพวกที่ทั้งๆ ที่รู้ว่าอะไรดี อะไรชั่ว
อะไรถูก อะไรผิด แต่ก็ไม่สนใจ

กลับไปเลือกเดินชีวิตในทาง
ตรงข้ามสวรรค์ วันๆ คิดและทำแต่
สิ่งที่เป็นอกุศล และความชั่วสารพัด
ส่วนความดีไม่ปรากฎในสมองเลย

บางคนบุญเก่ายังส่งเสริมอยู่ทำให้
วันนี้ มีอำนาจวาสนาเป็นใหญ่เป็น

รัฐมนตรี มีอำนาจปกครองคน 
แต่จิตใจกลับต่ำไม่สมกับ
ตำแหน่งตน สร้างแต่เรื่องชั่วให้
แผ่นดินเกิดตนเอง 

แม้แต่กรรมหนักๆ 
เช่น การกล่าวร้ายต่อพระสงฆ์ 
ทำลายพระพุทธศาสนาก็ยัง
หน้ามืดทำกัน ไม่หยุดหย่อน 
ใครตักเตือน ก็ไม่มีทีท่าว่าจะ
สำนึกเลย.!

บางคนอ้างบวชเป็นพระ 
ห่มผ้าเหลือง แทนที่จะเดิน
สายบุญ แสวงทางสว่าง 
ขึ้นลงแต่ศาล เลือกไปเดิน
ทางสู่อบายก็มีจะเป็นใคร 
ผมคงไม่ต้องชี้นะครับ

คนพาลพวกนี้ ..

ว่าไปก็น่าสงสารนะครับก็คนพวกนี้
แหละครับที่หลวงพ่อพุทธทาส
สวนโมกข์ท่านว่าไว้ดังนี้..

" จริงๆ แล้ว คนชั่ว คนพาลนั้น 
เป็นคนที่น่าสงสารมากกว่า 
เพราะตามธรรมชาติแล้วอย่าว่า
แต่มนุษย์เลยแม้แต่..

สัตว์เดรัจฉาน

มันก็ยังเกลียดความทุกข์
รักความสุขด้วยกันทั้งนั้น
แต่ที่เขาหลงทำชั่วนั้น 
เป็นเพราะเขาไม่มีปัญญา
นั้นเอง

เขาแยกแยะไม่ออกว่าอะไรดี
อะไรชั่วต่างหากเพราะคงไม่มี
ใครที่ต้องการให้ตนเองได้รับ
ความทุกข์เป็นแน่ "

ชีวิตคนเราประกอบด้วย 2 ส่วน
อันชีวิตคนเรานั้น ว่ากันง่ายๆ
จะประกอบไปด้วย 2 ส่วนคือ

1. ร่างกาย และ 
2. จิตใจ หรือ วิญญาณ

ร่างกายประกอบด้วยขึ้นมาด้วย
ธาตุทั้ง 4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ
ส่วนจิตใจนั้นเอาสั้นๆ ว่าเกิดจาก
อวิชชา คือ ความไม่รู้ซึ่งเป็นมูลเหตุ
ที่ทำให้มาเกิดใหม่อีกรอบหรือ
หลายๆ รอบ จนนับภพชาติไม่ถ้วน
ตายแล้วไม่สูญนะครับให้ชัดๆ อีกที

คนเรา เกิดมาเพื่ออะไร ?

" เกิดเป็นคนนั้นแสนยาก 
แต่เกิดแล้วพบพานพระพุทธ
ศาสนานั้นยิ่งแสนยากขึ้นไป
อีกหลายเท่า "



ผมมาอยู่เบอร์ลิน

ทำหน้าที่..พระธรรมทูต

มีหน้าที่สารพัด และส่วนหนึ่งคือ
มีโอกาสอยู่ใกล้ชิดกับชาวบ้าน
ธรรมดาๆ ที่ส่วนมากจะมาจาก
ภาคอีสานและมีพื้นฐานการศึกษา
ต่ำมีอาชีพเกษตรกรมาก่อน

ดังนั้น หากมีโอกาสพูดธรรมะ
ผมจึงมักใช้ภาษาง่ายๆ ฟังแบบ
ไม่ต้องตีความมากเพื่อให้เข้าใจ
ง่ายๆ เช่น..


              1. 

ผมจะพูดให้ฟังคนมาวัดฟังเสมอๆ
ว่าเราเกิดเป็นคนมาแล้วนั้น
ให้ถามตนเอง และตอบให้ได้ว่า

เราเกิดมาเพื่ออะไร ?

คำตอบนั้นก็คือเราเกิดมา
เพื่อทำดีนะ เกิดมาเพื่อเพิ่ม
ความดี หรือสะสมบุญกุศลใส่ตัว

ไม่ใช่เพื่ออย่างอื่นใดๆ ทั้งสิ้น
หากเข้าใจเป็นอย่างอื่นนั้น
ผิดทั้งหมด อย่าได้เอาอะไรที่
เป็นเรื่องสมมติกันเองมาอ้าง
ทั้งสิ้น เพราะนี่คือ " สัจธรรม "


             2. 

ตามหลักพระพุทธศาสนา 

เมื่อตายจากโลกนี้ไปแล้วย่อม
ไม่สูญแน่นอน จะต้องเกิดอีก
ส่วนจะเกิดเป็นอะไรนั้นกำเนิด
อะไร นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ซึ่งตรงนี้ มันแล้วแต่บุญกรรม
แต่ละบุคคล ซึ่งเป็นตัวกำหนด
และเป็นสิ่งที่เราสร้างเองไม่มี
ใครสร้างให้เรา


             3. 

ในบรรดาการเกิดการเกิด
เป็น..มนุษย์ 

ถือว่าเป็นการเกิดที่แสนยาก
ยากกว่าการเกิดเป็นเทวดา
เสียอีก ให้รู้ว่า ในโลกสวรรค์นั้น
เวลาเทวดาจะจุติคือเคลื่อนหรือ
ตายนั้น หมู่เพื่อนเทวดาจะมา
แสดงความอาลัย และอวยพรว่า..

" ขอให้ไปเกิดเป็นมนุษย์นะ "

ซึ่งเรื่องตรงนี้ กลับมาตรงกันข้าม
กับโลกมนุษย์ ที่เวลาคนไปงานศพ
หรืออวยพรกันเมื่อทราบข่าวใคร
เสียชีวิต ต่างก็พากับบอกว่า ..

" ขอให้ไปเกิดบนสวรรค์นะ "

ได้ข้อคิดอะไรไหมครับตรงนี้
คำตอบทำไมจึงว่าเกิดเป็นมนุษย์
เหนือกว่าเกิดเป็นเทวดาเพราะ
แค่คิดง่ายๆ ว่า ..

" ในชาติสุดท้ายของพระพุทธเจ้า
เองก็ยังทรงเกิดเป็นมนุษย์และ
ตรัสรู้ บรรลุธรรมในขณะเป็น
มนุษย์เลย "

หลังจากที่พระองค์ทรงเกิดเป็น
สารพัดเทวดา แม้แต่ท้าวสักกะ
เทวราช หัวหน้าเทวดาก็ทรงเกิด
มาแล้ว หลายแห่งในพระไตรปิฎก
เทวดายังต้องลงมาอาศัยมนุษย์
ทำความดีเลยครับ.!

พบกับพระพุทธศาสนายิ่ง
แสนยากกว่า เพราะอะไร ?

เพราะหากเกิดเป็นคนในชาตินี้
แล้ว แต่หากดันไปเกิดในแผ่นดิน
ที่ไม่ใช่พระพุทธศาสนาก็จบกัน
นะซิครับ

พูดเรื่องนี้ คงไม่ต้องอธิบายมาก
เห็นๆ กันอยู่ทั่วไปอย่าว่าแต่ทำให้
ไม่มีโอกาสต่อยอดความดีเลยแค่
ลำพังแค่รักษาชีวิต ประคองชีวิต
ไปวันๆ และให้ตั้งอยู่ในสัมมาทิฎฐิ
ก็ยากแล้วนี้ไงครับ

คำตอบหรือลองคิดต่อยอดออกไป
ว่ายิ่งในโลกแห่งความขัดแย้งโดย
เฉพาะแผ่นดิน ของกลุ่มคนจำพวก
ที่อ้างเอาคำสอนศาสนาผิดๆ แล้ว
มาทำสงคราม แบบไม่รู้จบซิครับจะ
เห็นภาพชัดเลย

แผ่นดินไทย 

แผ่นดินพุทธศาสนา 

แผ่นดินคนมีบุญมาเกิด

อยากจะบอกว่า เมื่อชาตินี้
เราเป็นคนแล้วพบพุทธศาสนา
แล้ว มีอวัยวะสมบูรณ์ไม่พิกล
พิการแล้ว

ถามว่า..

ในโลกนี้มันยังมีอะไรที่วิเศษ
ไปกว่าอีกเล่าครับ ยิ่งได้มาเกิด
บนผืนแผ่นดินไทยด้วยแล้ว
แผ่นดินที่มีพระพุทธศาสนา
ให้ยึดเหนี่ยวจิตใจ

มีสถาบันพระมหากษัตริย์
ปกครองสงบร่มเย็นก็ยิ่งเกิน
พรรณนาแล้วครับจึงขอให้
ท่านทั้งหลาย ..

" จงตั้งอยู่ในสัมมากันซะนะครับ 
ทุกคนล้วนยังไม่สายจงหมั่น
สะสมความดี ชีวิตใช่จะยาวนาน
เสียที่ไหน

ให้เริ่มจากน้อยไปหามากจาก
หยาบไปหาละเอียดเป็นไป
ตามลำดับสะสมทีละเล็กละน้อย
เหมือนน้ำหยดในโองใหญ่ทีละ
หยดทำตามกำลังเราให้เต็มที่

เมื่อนั้น เราจะชื่อว่าเกิดมา
ไม่เสียชาติเกิดกันครับ "

ผมชอบเปรียบเรื่องนี้แบบให้
ฟังง่ายๆ ประจำว่า..

การเกิดมาของคนเรานั้น
เหมือนเราเดินทางไปทัวร์
ไปท่องเที่ยว

แต่ละคนเมื่อเสร็จโปรแกรมนั้น
แล้วย่อมได้อะไรกลับมาบ้าน
ไม่เท่ากัน คนฉลาดเขาย่อมได้
อะไรๆ มากมายแบบเกินคุ้ม
คว้าติดมือมาด้วย

ส่วนคนโง่นั้นกลับจากทัวร์แล้ว
บางคนมาถึงบ้าน อย่าว่าแต่ได้
อะไรเหมือนกับเขาเลยบางคน
มันยังนึกไม่ออกเลยว่า..

"กูไปไหนมาบ้าง" แบบนี้ก็มี
ใครจะเป็นแบบไหนก็ไปเลือก
เอาครับ


เรื่องที่ 2

ข่าวกิจการพระศาสนา
ในต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 12 ก.ย. 2559

พระพรหมสิทธิ
(ธงชัย สุขญาโณ) 
กรรมการมหาเถรสมาคม 
ประธานสำนักงานกำกับดูแล
พระธรรมทูตไปต่างประเทศ 
เจ้าอาวาสวัดสระเกศ 
ราชวรมหาวิหาร กทม.

ได้เดินทางไปยังประเทศ
อินโดนีเซีย เพื่อไปปฏิบัติศาสนกิจ
เจริญศาสนสัมพันธ์ในนามตัวแทน
จากคณะสงฆ์ไทยที่

วัดวิหาร มหาวีระ คาหะผู่สัก 
ณ กรุงจากาตาร์ อินโดนิเชีย

โดยท่านเจ้าคุณ พระพรหมสิทธิ
ได้เป็นประธานเปิด ..

การประชุมศาสนสัมพันธ์ 
มหายาน-เถรวาท 
และพิธีเจริญพระพุทธมนต์ 
มหาสังฆทานนานาชาติ

การประชุมครั้งนี้ตรงกับในช่วง
เทศกาลอุลัมปณะ หรือเทศกาล
ทำบุญอุทิศส่วนกุศลแก่ผู้วายชนม์
ตามประเพณี ในเดือน 9 จันทรคติ
ตรงกับทำบุญเดือน 10

นับเป็นพิธีที่สำคัญของพี่น้อง
ชาวพุทธฝ่ายมหายานทางไทย
แพร่มาทางภูเก็ต ฯ อีกทั้งในงานนี้
มีพระเถรานุเถระ ทั้งฝ่ายเถรวาท
และมหายาน จากนานาประเทศ
14 ประเทศ

เช่น ไทยอเมริกา ออสเตรเลีย
นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ จีน ไต้หวัน
ศรีลังกา อินโดนิเซีย มาเลเซีย
กัมพูชา เป็นต้น มาร่วมงานเป็น
จำนวนมาก

โดยได้มีโอกาสในการหารือ
แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และ
กระชับความสัมพันธ์ ระหว่าง
พุทธเถรวาทมหายานอีกด้วย

ในพิธีนั้น มีพระมหาเถระได้ขึ้น
แสดงพระธรรมเทศนา
ทั้ง 14 ประเทศ ต่อจากนั้นมี
ถวายภัตตาหารเพล


ขอจบโพสต์นี้ตรงที่ว่า..

" อันคนเรานั้น ไม่ว่าจะยากดี
มีจนผู้ดีไพร่หากสามารถตั้งอยู่
ในสัมมาทิฎฐิได้แล้วก็ย่อมถือว่า 
"ประเสริฐ" แล้วครับ

ข้อนี้ในพระพุทธศาสนาถือว่า 
เป็นจุดเริ่มต้นแห่งอริยะมรรค
ก็เปรียบดังเราตั้งเข็มทิศเพื่อ
นำทางนะแหละครับ

เมื่อตั้งถูกทิศทางแล้วสักวันหนึ่ง 
เราก็ย่อมจะเดินถึงจุดหมาย
ปลายทางอย่างแน่นอน "

มีความสมบูรณ์ในเนื้อหาแล้วครับ
คงไม่ต้องสรุปอะไรแล้วนะครับผม
ช่วยแชร์เผยแพร่ธรรมะ 
ข้อคิดดีๆ ต่อๆ กันด้วยนะครับ.!

โชคดีมีชัยทุกท่านครับ
เจ้าคุณเบอร์ลิน
Berlin,den 13.09.2016


เพราะความลับไม่มีในอากาศ
>Talk--secret.blogspot.com
ศาสนสัมพันธ์มหายาน เถรวาท โลกร่มเย็นดับเข็ญด้วยศาสนา โดยเจ้าคุณเบอร์ลิน ศาสนสัมพันธ์มหายาน เถรวาท โลกร่มเย็นดับเข็ญด้วยศาสนา โดยเจ้าคุณเบอร์ลิน Reviewed by สารธรรม on 03:10 Rating: 5

45 ความคิดเห็น:

  1. กราบอนุโมทนาบุญกับเจ้าคุณเบอร์ลินค่ะ

    ตอบลบ
  2. กราบอนุโมทนาบุญกับเจ้าคุณเบอร์ลินค่ะ

    ตอบลบ
  3. รัฐธรรมนูญใจแคบ แล้ววัดมหายานในไทยละ ไม่สนับสนุนหรือ ทำสังฆเภทลงอเวจีมหานรก ทำไมไม่บัญญัติว่า สนับสนุน สุหนี่ ไม่สนับสนับ ชีอะห์ หรือสนุับสนุนโรมันคาทอลิก ไม่สนับสนุนโปรแตสแตนท์บ้างละ ลองคิดดูสิ

    ตอบลบ
  4. พระพุทธศาสนาเป็นที่พึ่งทำให้เราร่มเย็น

    ตอบลบ
  5. Buddhist monks must stand together as one in the same way that there is just one sun in the sky.

    ตอบลบ
  6. กราบอนุโมทนาบุญกัยท่านเจ้าคุณด้วยค่ะ

    ตอบลบ
  7. อนุโมทนาบุญสาธุสาธุ

    ตอบลบ
  8. กราบ กราบ กาาบ อนุโมทนาบุญครับ สาธุ สาธุ สาธุ

    ตอบลบ
  9. พระพุทธศาสนาจะขยายไปทั่วโลก ตะวันสาดแสง โลกร่มเย็น กราบอนุโมทนาครับ

    ตอบลบ
  10. We are the Sun of Peace. We always shinning no mather What ......

    ตอบลบ
  11. ธรรมสอนสั่งหยั้งใจให้เป็นสุข
    ธรรมช่วยทุกข์หมดไปใจสุขศานติ์
    ธรรมรักษาจิตใจให้เบิกบาน
    ธรรมบันดาลให้สุขตลอดไป
    ชัยชนะพระธรรมนำดวงจิต
    ชัยชนะพิชิตจิตผ่องใส
    ชัยชนะหมู่มารทุกชาติไป
    ชัยชนะให้พระชนะมาร...

    ตอบลบ
  12. กราบอนุโมทนาบุญกับท่านเจ้าคุณ สาธุๆๆค่ะ

    ตอบลบ
  13. กราบอนุโมทนาบุญกับท่านเจ้าคุณ สาธุๆๆค่ะ

    ตอบลบ
  14. ขอน้อมกราบแด่พระเดชพระคุณเจ้าคุณเบอร์ลิน ด้วยความเคารพอย่างสูง
    "แม้จะเป็นพุทธต่างนิกายกัน แต่ก็มีพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์เดียวกัน และมีเป้าหมายเดียวกัน คือ พระนิพพาน"
    ดังนั้น "พุทธบุตรต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน เหมือนดวงตะวันที่มีดวงเดียว" คุณครูไม่ใหญ่

    ตอบลบ
  15. อีกไม่นานเราคงจะได้เห็นพุทธบุตรเป็นหนึ่งเดียวกัน เหมือนดวงตะวันที่มีดวงเดียว

    ตอบลบ
  16. กราบขอบพระคุณท่านเจ้าคุณเบอร์ลินที่ทำให้เรารู้ความเคลื่อนไหวของพระพุทธศาสนาในต่างแดนมากค่ะ

    ตอบลบ
  17. กราบอนุโมทนากับ เจ้าคุณเบอร์ลินนะครับ ที่ได้นำเรื่องพระพุทธศาสนาในต่างแดนมาเล่าให้ฟัง..สาธุครับ

    ตอบลบ
  18. กราบอนุโมทนากับ เจ้าคุณเบอร์ลินนะครับ ที่ได้นำเรื่องพระพุทธศาสนาในต่างแดนมาเล่าให้ฟัง..สาธุครับ

    ตอบลบ
  19. ไม่ระบุชื่อ15 กันยายน 2559 เวลา 09:32

    กราบขอบพระคุณเจ้าเบอร์ลินเจ้าค่ะ

    ตอบลบ
  20. ไม่ระบุชื่อ15 กันยายน 2559 เวลา 09:32

    กราบขอบพระคุณเจ้าเบอร์ลินเจ้าค่ะ

    ตอบลบ
  21. ไม่ว่าจะเป็นมหายานหรือเถราาท ก็เป็นพุทธเช่นเดียวกัน สาธุ สาธุ สาธุครับ

    ตอบลบ
  22. กราบอนุโมทนาบุญกับเจ้าคุณเบอร์ลินด้วยความเคารพเจ้าค่ะ กราบสาธุๆๆ

    ตอบลบ
  23. กราบอนุโมทนาบุญกับท่านเจ้าคุณเบอร์ลิเป็นอย่างสูงเลยเจ้าค่ะที่เตือนสติคนที่หลงเชื่อคนพาล

    ตอบลบ
  24. กราบอนุโมทนาบุญสาธุค่ะ

    ตอบลบ
  25. กราบอนุโมทนาบุญสาธุค่ะ

    ตอบลบ
  26. กราบอนุโมทนาบุญสาธุค่ะ

    ตอบลบ
  27. กราบอนุโมทนาบุญสาธุค่ะ

    ตอบลบ
  28. กราบอนโมธนาบุญค่ะ

    ตอบลบ

ขับเคลื่อนโดย Blogger.