บทเรียนเปลี่ยนโลกจากการฝึกนักรบ SEAL


“ผมอยู่กับหน่วยซีลมานาน 36 ปี มันเริ่มต้น หลังจากผมจบมหาวิทยาลัย ไปรับการฝึกพื้นฐานของหน่วยซีลที่โคโรนาโด แคลิฟอร์เนีย…”
นักรบซีลเล่าเรื่อง
เป็นราตรีกลางเดือนพฤษภาคม ปี 2014  นักรบซีล คนหนึ่งเล่าเรื่องของเขาให้คนกลุ่มหนึ่งฟัง
“การฝึกขั้นพื้นฐานของหน่วยซีลกินเวลา 6 เดือน วิ่งอย่างทรมานบนพื้นทรายอ่อนยวบ ว่ายน้ำตอนเที่ยงคืนในน้ำเย็นเฉียบนอกฝั่ง ซานดิเอโก การฝึกวิบาก การออกกำลังที่ไม่จบสิ้น ไม่ได้นอนเป็นวันๆ และอยู่ในสภาพหนาวเย็นเสมอๆ ตัวเปียก 

และทรมานเป็น 6 เดือน ที่ถูกรังแกไม่หยุดจากนักรบอาชีพ ซึ่งพยายามทุกวิธีหาจุดอ่อนทางจิตใจและร่างกาย เพื่อบีบให้คุณเลิกคิดเป็นนักรบซีล
แต่การฝึกก็สรรหานักเรียนที่สามารถเป็นผู้นำในสถานการณ์ตึงเครียดสับสน ล้มเหลว และ ความลำบากเช่นกัน สำหรับผมการฝึกของซีลเป็นการรวมความท้าทายทั้งชีวิตไว้ใน 6  เดือน “
มีการวิจัยว่า
ตลอดชีวิตของชาวอเมริกันทั่วไป จะพบกับคนจำนวนหนึ่งหมื่นคน ถือว่ามากทีเดียว แต่ถ้าคุณเปลี่ยนชีวิตของคนแค่สิบคน และแต่ละคนนั้นเปลี่ยนชีวิตของคนอีกสิบคนในห้าชั่วคน หรือ 125 ปี

คุณจะเปลี่ยนชีวิตของคนถึง 800 ล้านคน และถ้าผ่านไปอีกหนึ่งชั่วคน คุณจะสามารถเปลี่ยนประชากร ทั้งหมดของโลก 8,000 ล้านคน
ถ้าคุณคิดว่ามันยากที่จะเปลี่ยนชีวิตคนสักสิบคน เปลี่ยนชีวิตพวกเขาไปตลอดกาลคุณก็ผิดแล้วละ

ผมเคยเห็นมันเกิดขึ้นทุกวันที่อิรัก และอัฟกานิสถาน ทหารหนุ่มคนหนึ่งตัดสินใจไปทางซ้ายแทนที่จะเป็นทางขวาบนถนนเส้นหนึ่งในกรุงแบกแดด และการตัดสินใจนั้นก็ช่วยชีวิตเพื่อนทหารสิบคนในหน่วยของเขาจากการถูกซุ่มโจมตี ที่กันดาฮาร์ อัฟกานิสถาน

เจ้าหน้าที่คนหนึ่งสัมผัสความผิดปกติ ว่าบางอย่างไม่ถูกต้องแล้วนำหน่วยของตนออกห่างจากระเบิด 500 ปอนด์ และ นั่นช่วยชีวิตทหารสิบกว่านาย
แต่ลองคิดดูดีๆ มันไม่เพียงช่วยชีวิตทหารสิบกว่าคนนั้นจากการตัดสินใจของคนคนเดียว ยังช่วยชีวิตลูกๆ ที่ยังไม่เกิดของคนเหล่านั้น ด้วย และอีกหลายชั่วคนได้รับการช่วยชีวิต จากการตัดสินใจของคนคนเดียว
แต่การเปลี่ยนโลกสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ และ ใครๆ ก็ทำได้ ดังนั้นอะไรที่เริ่มตรงนี้สามารถเปลี่ยนโลกได้จริงๆ แต่คำถามคือ
โลกจะเป็นยังไงหลังจากคุณเปลี่ยนมัน?
ผมเชื่อว่ามันจะดูดีขึ้นมากๆ…
ผมมีคำแนะนำที่อาจช่วยคุณเปลี่ยนโลก ผมได้รับบทเรียนเหล่านี้ระหว่างใช้ชีวิตเป็นทหาร ผมรับรองว่ามันไม่สำคัญเลยว่าคุณจะต้องสวมเครื่องแบบสักวันเดียวหรือเปล่า มันไม่สำคัญว่าคุณเป็นเพศอะไร เชื้อชาติ ศาสนา จุดยืน หรือสถานะทางสังคม

10 บทเรียนเปลี่ยนโลกจากการฝึกนักรบ SEAL
เอาละมี บทเรียนสิบบทที่ผมเรียนรู้จากการฝึกซีล ซึ่งหวังว่าจะเป็นประโยชน์กับคุณเมื่อ คุณเดินหน้าไปในเส้นทางชีวิต
1 ถ้าคิดจะเปลี่ยนโลกเริ่มจัดที่นอนของคุณ
ทุกๆ เช้าครูฝึกซึ่งทั้งหมดผ่านสงคราม เวียดนาม มาปรากฏตัว ณ ที่พัก และสิ่งแรกที่พวกเขาจะตรวจคือที่นอนของคุณ ถ้าคุณจัดที่นอนถูกต้อง มุมทั้งสี่ต้องเป็นมุมฉาก ผ้า ปูตึงเปรี๊ยะ หมอนอยู่ตรงกลางเป๊ะ ผ้าห่มพับ ประณีต เตียงของพวกทหารเรือเป็นอย่างนี้
มันเป็นงานง่ายๆ น่าเบื่อที่สุด แต่ทุกเช้าเราถูกสั่งให้จัดที่นอนใหม่ให้สมบูรณ์ ตอนนั้นมันดูเป็นเรื่องงี่เง่า ในเมื่อเราคาดหวังจะเป็นนักรบที่แท้ เป็นซีลที่แกร่งกล้าชาญศึก แต่การจัดที่นอนง่ายๆ นี้เป็นภูมิปัญญาสุดยอดที่ พิสูจน์ต่อผมครั้งแล้วครั้งเล่า
ถ้าคุณจัดที่นอนของคุณทุกเช้า คุณก็ได้ทำงานชิ้นแรกของวันสำเร็จ มันให้ความรู้สึกพึงใจและกระตุ้นให้คุณทำงานชิ้นต่อไป และชิ้นต่อไป และชิ้นต่อไป จนเมื่อจบวันงานเดียวที่ ทำสำเร็จจะกลายเป็นงานจำนวนมากที่ทำสำเร็จ
การจัดที่นอนยังตอกย้ำความจริงว่าทุกสิ่งเล็กๆ ในชีวิตมีความสำคัญ ถ้าคุณทำงานชิ้นเล็กๆ ไม่ได้ คุณก็ไม่มีทางทำงานใหญ่ได้
และถ้าบังเอิญว่าคุณเจอวันไม่ดี คุณกลับถึงบ้านเจอเตียงที่จัดไว้ดี ที่นอนซึ่งคุณจัดเองมันก็จะช่วยให้กำลังใจคุณว่า พรุ่งนี้จะดีกว่าวันนี้ถ้าคุณคิดจะเปลี่ยนโลกเริ่มจัดที่นอนของคุณ


2 หาใครสักคนช่วยคุณพาย
ระหว่างการฝึกซีล นักเรียนถูกแบ่งไปลงเรือยางขนาดเล็กหลายลำ แต่ละลำมี 7คน ฝีพายข้างละสามกับนายท้ายเรือหนึ่งคน ทำหน้าที่ชี้ทาง ทุกวันกลุ่มของคุณรวมตัวที่ชายหาด ถูกสั่งให้ข้ามคลื่นและพายหลายไมล์ไปตามฝั่ง
ในฤดูหนาวคลื่นนอก ซาน ดิเอโก อาจสูงถึง 8-10 ฟุต และมันยากมากที่จะฝ่าพ้นนอกเสียจากว่าทุกคนลงมือทุกจ้วงพาย ต้องเป็นจังหวะเดียวกันตามที่นายท้ายนับ ฝีพายทุกคนต้องออกแรงเท่ากัน มิเช่นนั้นเรือจะถูกคลื่นผลักกลับไปที่ฝั่ง
เรือจะไปถึงจุดหมายได้ทุกคนต้องพาย คุณไม่อาจเปลี่ยนโลกได้โดยลำพังคุณต้องการความช่วยเหลือ

การไปจากจุดเริ่มต้นไปถึงจุดหมาต้องการเพื่อน คนร่วมงาน ความ ปรารถนาดีของคนแปลกหน้า และคนคัดท้ายที่เข้มแข็งชี้ทาง ถ้าคุณคิดจะเปลี่ยนโลก หาใครสักคนช่วยคุณพาย
3 วัดคนที่ขนาดของหัวใจไม่ใช่ตีนกบ
“หลายอาทิตย์หลังการฝึกซึ่งเริ่มจากจำนวน 150 คน จะเหลือเพียง 35 และเรือหกลำ ผมอยู่ในเรือที่มีเพื่อนตัวสูง แต่ฝีพายที่ดีที่สุดกลับเป็นคนตัวเล็ก เราเรียกพวกนี้ว่า ไอ้เสือเตี้ย พวกนี้สูงไม่เกินห้าฟุตห้านิ้ว
พวกเสือเตี้ยประกอบด้วยอเมริกันอินเดียนหนึ่งคน อเมริกันผิวดำหนึ่งคน อเมริกันโปลิชหนึ่งคน อเมริกันกรีกหนึ่งคน อเมริกันอิตาเลียนหนึ่งคน กับอีกสองหน่อจากมิดเวสต์ พวกนี้พายเก่งกว่า วิ่งเก่งกว่าว่ายเก่งกว่าคน
ที่เหลือทั้งหมด พวกตัวใหญ่ในลำอื่น ชอบพูดตลกถึงตีนกบเล็กๆ ของพวเสือเตี้ย แต่พวกตัวเล็กๆ พวกนี้แหละที่หัวเราะทีหลังดังสุดว่าย เร็วกว่าทุกคน ถึงฝั่งเร็วกว่าเราทุกคน
การฝึกซีลเป็นเรื่องที่ให้ความเสมอภาคจริงๆ ไม่มีอะไรสำคัญกว่าความแน่วแน่ของคุณที่จะ ไปสู่ความสำเร็จ ไม่เกี่ยวกับสีผิว เชื้อชาติ การศึกษา และสถานะทางสังคม ถ้าคุณคิดจะเปลี่ยนโลก วัดคนที่ขนาดของหัวใจ ไม่ใช่ขนาดของตีนกบ

4 ปล่อยวางเรื่องคุกกี้น้ำตาล แล้วเดินหน้าไม่หยุด
“หลายครั้งต่อสัปดาห์ ครูฝึกจะสั่งนักเรียนเข้าแถวแล้วตรวจเครื่องแบบ ละเอียดลออมากๆ หมวกของคุณลงแป้งเรียบ เครื่องแบบรีดเนี้ยบสุดขีด หัวเข็มขัดเป็นเงาวาววับไม่มีรอยเปื้อนใดๆ

แต่ไม่ว่าคุณจะพยายามให้หมวกคุณเข้าทรงดีแค่ไหน รีดเครื่องแบบขัดหัวเข็มขัดดีแค่ไหน มันก็ยังไม่ดีพอ ครูฝึกจะพบจุดบกพร่องเสมอ
หากไม่ผ่านมาตรฐานเครื่องแบบ นักเรียนจะ ถูกทำโทษสวมเครื่องแบบวิ่งไปที่จุดโต้คลื่น เปียกทั้งตัวตั้งแต่หัวถึงเท้า แล้วกลิ้งบนหาดทรายจนทุกส่วนของคุณปกคลุมด้วยเม็ดทราย

สิ่งที่เราเรียกว่า ‘คุกกี้น้ำตาล’ คุณอยู่ในชุดนั้นทั้งวัน หนาว เปียก และเปื้อนเม็ดทราย
มีนักเรียนจำนวนมากรับไม่ได้ ที่ความพยายามของพวกเขาสูญเปล่า ไม่ว่าจะทำงานหนักแค่ไหนที่จะจัดเครื่องแบบถูกต้องก็ยังไม่เป็นที่พอใจ นักเรียนพวกนั้นล้วนไม่ผ่าน การฝึกซีล เพราะพวกเขาไม่เข้าใจจุดประสงค์ของการฝึก คุณไม่มีทางสำเร็จหรอก คุณจะไม่มีวันทำเครื่องแบบให้เป๊ะ
บางครั้งไม่ว่าคุณเตรียมการหรือทำการได้ดีแค่ไหน คุณก็ยังลงท้ายเป็นคุกกี้น้ำตาลอยู่ดี มันเป็นแค่วิธีที่ชีวิตเป็นในบางครั้ง ถ้าคุณคิดจะเปลี่ยนโลก ปล่อยวางเรื่องเป็นคุกกี้น้ำตาล แล้วเดินหน้าไม่หยุด
SAND COVER Surf passage is part of the first phase of SEAL training. U.S. Navy photo by Petty Officer 1st Class Michael Russell

5 อย่ากลัวละครสัตว์
ทุกวันระหว่างการฝึก คุณถูกท้าทายด้วยงานทางกายภาพ วิ่งไกล ว่ายทางไกล การฝึก วิบาก การออกกำลังเป็นชั่วโมงๆ ออกแบบมาเพื่อทดสอบความอึดของคุณ 

ทุกกิจกรรมมีมาตรฐานและกำหนดเวลาที่ต้องสอบผ่านถ้าคุณไปไม่ถึงมาตรฐานเหล่านั้นชื่อของคุณจะ ปรากฏบนรายการ

และในตอนจบวัน คนที่มีชื่ออยู่ในรายการจะถูกเชิญไปร่วม ‘ละครสัตว์’ * ซึ่งเป็นการฝึกเพิ่มเติมอีกสองชั่วโมง ออก แบบมาถล่มคุณโดยเฉพาะทำลายความเข้ม แข็งจิตใจคุณ บีบให้คุณลาออก
(* Circus เป็นศัพท์ของหน่วยซีล หมายถึงการลงโทษนักเรียนด้วยการออกกำลังกาย ในที่นี้ขอแปลตรงตัวว่าละครสัตว์ให้เข้ากับการฝึก)
ไม่มีใครต้องการร่วมละครสัตว์ ละครสัตว์แปลว่าวันนั้นคุณไม่เอาไหน ละครสัตว์ หมายถึงคุณจะเหนื่อยรากเลือดขึ้น ราก เลือดหมายถึงวันรุ่งขึ้นจะยากขึ้นอีก ซึ่งหมายถึงคุณจะเจอละครสัตว์เพิ่มขึ้นอีกแน่ๆ แต่ในจุดใดจุดหนึ่งของการฝึกซีลทุกคน – ทุกทุกคนจะอยู่ในรายการละครสัตว์

แต่มีจุดน่าสนใจที่เกิดขึ้นกับคนที่อยู่ใน รายการบ่อยๆ ผ่านไประยะหนึ่งคนที่ฝึกเพิ่ม วันละสองชั่วโมงจะแกร่งขึ้นและแกร่งขึ้น ความโหดของละครสัตว์สร้างพลกำลังภายใน ฟื้นตัวเร็วขึ้น
ชีวิตนั้นเต็มไปด้วย ‘ละครสัตว์’ คุณจะล้มเหลว และคุณจะล้มเหลวบ่อยๆ จะเจ็บปวด จะท้อถอย มันจะทดสอบคุณจนถึงกึ๋นแต่ ถ้าคุณคิดจะเปลี่ยนโลก อย่ากลัวละครสัตว์ 

6 ต้องข้ามอุปสรรคโดยใช้หัวก่อน
“อย่างน้อยอาทิตย์ละสองครั้ง นักเรียนจะต้อง วิ่งวิบาก ซึ่งประกอบด้วยอุปสรรค 25 อย่าง เช่น ปีนกำแพงสูงสิบฟุต ตาข่ายสามสิบฟุต ลอดลวดหนาม เป็นต้น
แต่สิ่งที่ท้าทายที่สุดคือ การไต่เชือกมีหอคอยสามชั้น สูงสามสิบฟุต กับหอชั้นเดียวคนละปลายเชื่อมด้วยเชือกยาวสองร้อยฟุต (60 เมตร) คุณปีนหอคอยสามชั้น

เมื่อถึงข้างบนคุณจับเชือก เหวี่ยงตัวใต้เชือกดึงตัวเองไปข้างหน้าด้วยกำลังแขนทีละมือจนไปถึงจุดหมายไม่มีใครทำลายสถิติความเร็วของการข้ามมานานปี
จนชั้นของผมเริ่มในปี 1977 วันหนึ่งนักเรียนคนหนึ่งตัดสินใจไต่เชือกเอาศีรษะไปก่อนแทนที่จะใช้สองมือโหนเชือกไปทีละมือทีละคืบ เขาเกาะเหนือเชือกและผลักตัวเองไปข้างหน้ามันเป็นวิธีที่อันตราย อาจดูโง่ด้วยซ้ำ และมีความเสี่ยง ความล้มเหลวหมายถึงความบาดเจ็บและการออกจากการฝึกซีล
นักเรียนคนนั้นเคลื่อนตัวไปโดยไม่ลังเล อันตรายและเร็ว เขาใช้เวลาแค่ครึ่งเดียว และทำลายสถิติไปในวันนั้นถ้าคุณคิดจะเปลี่ยนโลก บางครั้งคุณต้องข้ามอุปสรรคโดยใช้หัวก่อน 

In this May 6, 2011, file photo President Barack Obama talks with U.S. Navy Vice Admiral William H. McRaven, just days after McRaven led operational control of Navy SEAL Team Six’s successful mission to get Osama bin Laden. (AP Photo/Charles Dharapak, File)


7 อย่าหนีฉลาม
“ระหว่างการฝึกรบบนบกนักเรียนบินไปที่ เกาะซาน คลีเมนเต นอกฝั่ง ซาน ดิเอโก ทะเลที่นั่นชุกชุมด้วยฉลามขาว จะสอบผ่านการฝึกซีล ต้องว่ายระยะทางยาวหลายครั้ง หนึ่งครั้งในตอนกลางคืน
ก่อนการว่ายน้ำ ครูฝึกบรี๊ฟนักเรียนด้วยน้ำเสียงร่าเริงเกี่ยวกับฉลามสายพันธุ์ต่างๆ ที่อาศัยอยู่แถวนั้น ครูฝึกยืนยันกับเราว่ายังไม่มีนักเรียนถูกฉลามกิน อ้อ... หมายถึงจนถึงวันนั้นนะ!
แต่ครูก็สอนคุณว่า ถ้าฉลามว่ายรอบคุณเมื่อไรละก็ ให้ลอยคออยู่ที่จุดเดิม อย่าว่ายหนี อย่าแสดงให้มันรู้ว่าคุณกลัว และสมมุติว่า ฉลามเกิดหิวอยากกินอาหารว่างยามดึก พุ่ ตรงมาที่คุณ จงรวบรวมกำลังชกมันตรงที่จมูก มันจะว่ายหนีไป
มีฉลามมากมายในโลก ถ้าคุณหวังจะว่ายให้ถึงจุดหมายคุณต้องรู้จักจัดการกับพวกมัน ดังนั้นถ้าคุณคิดจะเปลี่ยนโลก อย่าหนีฉลาม

8 ต้องพร้อมที่สุดในยามที่มืดมนที่สุด
จะเป็นนักรบซีล งานอย่างหนึ่งของเราคือการ โจมตีศัตรูใต้น้ำ เราฝึกเทคนิคนี้อย่างเข้มข้น ปฏิบัติการโจมตีเรือทำโดยนักดำน้ำซีลคู่หนึ่ง ถูกปล่อยลงน้ำนอกท่าเรือศัตรู แล้วดำน้ำระยะสองไมล์ มีเพียงเครื่องวัดความลึกกับเข็มทิศมุ่งไปยังเป้าหมาย
ตลอดทางดำน้ำมีแสงสว่างลอดลงมาบ้าง ทำให้รู้สึกสบายใจนิดๆ ว่ามีผืนน้ำเหนือคุณ แต่เมื่อคุณเข้าใกล้เรือศัตรูซึ่งจอดกับท่า แสงสว่างก็ค่อยๆ จางหายไป

โครงสร้างเหล็กของเรือบดบังแสงจันทร์บดบังแสงไฟบนถนน บดบังแสงทั้งหมดในบริเวณนั้น
ปฏิบัติการจะสำเร็จได้ คุณต้องดำลงไปใต้เรือ และหากระดูกงูซึ่งเป็นเส้นกลางลำและเป็นส่วนลึกที่สุดของเรือ นี่คือเป้าหมายของคุณ แต่กระดูกงูก็เป็นส่วนที่มืดที่สุดของเรือ คุณมองไม่เห็นแม้แต่มือของคุณข้างหน้า เป็นจุดที่เครื่องยนต์เรือดังมากและคุณจะหลงทางและล้มเหลวอย่างง่ายที่สุด
ซีลทุกคนรู้ดีว่าใต้กระดูกงู ในชั่วขณะที่มืดมนที่สุดของปฏิบัติการ เป็นเวลาที่คุณต้องรักษาความสงบ แน่วนิ่ง เยือกเย็น ไม่สติแตก

เป็นเวลาที่คุณต้องใช้เทคนิคทุกอย่างที่เรียนมา พลกำลัง และความเข้มแข็งภายในถ้าคุณคิดจะเปลี่ยนโลก คุณต้องพร้อมอย่างที่สุดในช่วงยามที่มืดมนที่สุด
U. S. Navy Basic Underwater Demolition/Sea-Air-Land (BUD/S) trainees participate in a training exercise in the mud.

9 ร้องเพลงเมื่อคุณจมอยู่ในโคลนถึงลำคอ
“สัปดาห์ที่เก้าของการฝึกถูกขนานนามว่า ‘ สัปดาห์นรก’ มันคือหกวันของการอดนอน ความทรมานทางกายภาพและจิตใจอย่างต่อเนื่อง และวันพิเศษที่ Mud Flats

ซึ่งเป็นพื้นที่ระหว่าง ซาน ดิเอโก กับติฮัวนา เป็นที่ที่น้ำทะเลแห้งทำให้เกิดผืนโคลนเหนียวเหนอะพร้อมจะกลืนกินคุณ
เป็นวันพุธของสัปดาห์นรก คุณพายเรือเข้าไปในผืนโคลน และพยายามเอาตัวรอดนาน 15 ชั่วโมงในผืนโคลนเย็นเยียบราวน้ำแข็ง

เสียงลมกระโชก และเสียงปลุกเร้าต่อเนื่อง ของครูฝึกให้คุณยอมแพ้ขณะที่อาทิตย์ลาลับฟ้าเย็นวันพุธ ชั้นของเราทำเรื่องผิดกฎบางอย่าง และถูกสั่งให้ลงไปคลุกโคลน
โคลนกลืนกินแต่ละคนจนมองไม่เห็นอะไร นอกจากศีรษะของพวกเรา ครูฝึกบอกเราว่าพวกเราสามารถออกจากโคลนนี้ได้ ถ้ามี 5 คนยอมแพ้

แค่ 5 คน แล้วพวกเราทั้งหมดก็จะหลุดพ้นจากความหนาวบรรลัยที่ถูกยัดเยียดให้นี้
มองดูโคลนราบเรียบเห็นชัดว่า นักเรีียนบางคนกำลังคิดจะยอมแพ้ เรายังต้องข้ามอีกแปดชั่วโมงกว่าอาทิตย์จะขึ้น 8 ชั่วโมงของความหนาวเย็นเข้ากระดูก เสียงฟันกระทบกึกกึกและเสียงครางสะท้าน เพราะหนาวสั่นของนักเรียนดังจนทำให้แทบไม่ได้ยินอะไรอีก และแล้วมีเสียงหนึ่งกังวานขึ้นกลางราตรี

เสียงเพลง.!

เพลงนั้นร้องไม่ได้เรื่องหรอก แต่ร้องด้วยความกระตือรือล้นอย่างที่สุดจากหนึ่งเสียงกลายเป็นสอง กลายเป็นสาม และไม่นานทั้งชั้นก็ร้องเพลง เรารู้ว่าถ้าใครคนหนึ่งสามารถหลุดขึ้นจากความทรมานคนอื่นก็ต้องทำได้
ครูฝึกขู่เราว่าถ้าขืนร้องเพลงต่อ จะปล่อยให้เราฝังในโคลนนานขึ้น แต่การร้องเพลงก็ไม่หยุด แล้วมันก็ดูเหมือนว่าโคลนนั้นอุ่นขึ้นนิด ลมสงบลง และรุ่งสางดูไม่ห่างออกไป
ถ้าผมเรียนรู้สักสิ่งในช่วงที่ผมเดินทางในโลก มันคืออำนาจของความหวัง อำนาจของคนหนึ่งคน วอชิงตัน ลิงคอล์น คิง แมนเดลา

และแม้แต่เด็กสาวจากปากีสถานคนนั้น มาลาลา คนหนึ่งคนสามารถเปลี่ยนโลกได้โดยมอบความหวังให้คนอื่น ดังนั้นถ้าคุณคิดจะเปลี่ยนโลก เริ่มต้นร้องเพลง เมื่อคุณจมในโคลนถึงลำคอ


10 อย่าสั่นระฆังทองเหลืองโดยเด็ดขาด
ท้ายที่สุดของการฝึกซีลมีระฆังอันหนึ่ง ระฆังทองเหลืองแขวนกลางหมู่ตึกให้นักเรียนทุก คนมองเห็น ถ้าคุณต้องการเลิกก็แค่สั่นระฆัง

สั่นระฆังแล้วคุณก็ไม่ต้องตื่นตีห้า สั่นระฆังแล้วคุณก็ไม่ต้องว่ายน้ำกลางน้ำเย็นเฉียบ สั่นระฆังแล้วคุณก็ไม่ต้องวิ่งวิบาก การออกกำลัง และคุณก็ไม่ต้องเจอความโหดหินของการฝึก แค่สั่นระฆัง
แต่ถ้าคุณคิดจะเปลี่ยนโลก อย่าสั่นระฆังนั่นโดยเด็ดขาด…
มันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่สิ่งที่คุณทำอาจสามารถส่งผลกระทบต่อคน 800 ล้านคนในศตวรรษหน้าเริ่มต้นวันใหม่แต่ละวันด้วยงานที่ทำสำเร็จ

หาเพื่อนที่ช่วยคุณผ่านทั้งชีวิต ให้เกียรติคนทุกคนรู้ว่าชีวิตไม่ยุติธรรม และรู้ว่าคุณจะล้มเหลวบ่อยๆ
แต่ถ้าคุณกล้าเสี่ยงบ้าง ลุกขึ้นเมื่อถึงเวลาลำบากยากเข็ญ เอาชนะพวกคนพาลช่วยคนถูกกดขี่ และไม่มีวันยอมแพ้ ถ้าคุณทำทั้งหมดนี้คนรุ่นต่อไปและรุ่นต่อไปอีกจะอยู่ในโลกที่ดีกว่าโลกที่เราอยู่ในวันนี้และทุกสิ่งที่เริ่มต้นที่นี่จะเปลี่ยนโลกให้ดีขึ้นอย่างแน่นอน”
UT alum Adm. William H. McRaven gives students the ‘hook ’em horns’ at the university’s commencement last year. AP Photo/The University of Texas at Austin, Marsha Miller


ชายผู้พูดจบเรื่องเล่าของเขาท่ามกลางผู้ฟัง 8,000 คน

ทั้งหมดเป็นบัณฑิตจบใหม่ของมหาวิทยาลัยเท็กซัส ออสติน สหรัฐอเมริกา 

ผู้พูดคือ พล.ร.อ. วิลเลียม เอช. แม็คเรเวน ผู้บัญชาการกองบัญชาการปฏิบัติการพิเศษ สหรัฐฯกล่าวปาฐกถาต่อเหล่าบัณฑิตเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2014
ชีวิตใหม่ของคนกลุ่มหนึ่งกำลังเริ่มต้นบทเรียนของซีล ก็คือบทเรียนของคนทุกคนที่อยากเปลี่ยนชีวิตตัวเองให้ดีขึ้น
และอย่างที่ผู้บัญชาการทหารเรือบอก ด้วยวินัย ความมุ่งมั่น ความอดทน และไม่ยอมแพ้มิเพียงจะเปลี่ยนชีวิตตนเองให้ดีขึ้น แต่อาจเปลี่ยนโลกทั้งใบได้
เนื้อหาโดย  วินทร์ เลียววาริณ


ขอบคุณข้อมูล และภาพจาก

Click อ่านบทความทั้งหมดของ วินทร์ เลียววาริณ 

ภาพ Google.com
บทเรียนเปลี่ยนโลกจากการฝึกนักรบ SEAL บทเรียนเปลี่ยนโลกจากการฝึกนักรบ SEAL Reviewed by สารธรรม on 04:01 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.