อย่าปฏิรูปแต่สงฆ์ จงปฏิรูปทุกฝ่าย

ปฏิรูปทุกฝ่ายไปพร้อมกัน

ในช่วงที่ผ่านมามีความพยายามทั้งออกมาพูดและออกมาทำ เกี่ยวกับ การปฏิรูปวงการสงฆ์ 

ซึ่งในมุมมองของผู้เขียนแม้จะไม่ค่อยเห็นด้วยกับวิธีการในการกระทำที่ผ่านมา แต่ในส่วนหนึ่งก็รู้สึกยินดีที่จะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง เนื่องจากระบบต่างๆ ก็ต้องมีการพัฒนาไปตามยุคตามสมัย

สิ่งที่ต้องพิจารณากันต่อไปที่ไม่อยากให้มองข้ามคือ 

อย่าลืมว่า พระพุทธศาสนาเป็นของพุทธบริษัท 4 คือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ดังนั้นความมั่นคงของพระพุทธศาสนาจึงไม่ใช่อยู่ที่การปฏิรูปในส่วนของพระภิกษุฝ่ายเดียว

หากเรามองย้อนไปในอดีต 

ความมั่นคงของพระพุทธศาสนาในประเทศไทยเริ่มคลอนแคลนตั้งแต่ชาวพุทธไม่ได้ระมัดระวัง

ปล่อยให้มี การเอาวิชาพระพุทธศาสนาหรือวิชาศีลธรรม ออกไปจากหลักสูตรของการศึกษา 

ต่อมาก็ปล่อยให้ เอาคำว่าพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ ออกไปจากรัฐธรรมนูญ

ยิ่งในเรื่องของการศึกษาพระพุทธศาสนาแทบไม่ต้องพูดถึงถามว่า...

มีชาวพุทธสักกี่คนที่เรียนธรรมศึกษาหรือเข้าวัดปฏิบัติธรรมเป็นประจำ

จากประเพณีดั้งเดิม

ที่ชายไทยต้องบวชเรียนอย่างน้อยหนึ่งพรรษา ทุกวันนี้มีชายไทยชาวพุทธสักกี่เปอร์เซ็นต์ที่ผ่านการบวช อย่าว่าแต่หนึ่งพรรษาเลยเอาว่าสัก 15 วัน ก็คงจะพอนับหัวกันได้

ดังนั้นในทัศนะของผู้เขียนจึงมองว่า ไหนๆ เราก็อยากจะให้มีการปฏิรูปวงการศาสนาแล้ว ก็ให้ปฏิรูปไปพร้อมๆ กัน เช่น

สำหรับชาวพุทธ ก็ให้ไปวัดทุกวันพระหรือวันอาทิตย์
ชายไทยชาวพุทธ ก็ต้องผ่านการบวชเรียน 

ส่วนคณะกรรมการปฏิรูป

หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่ต้องการเข้ามาปฏิรูปวงการสงฆ์ ซึ่งถือว่าเป็นผู้มีความสำคัญมาก ต้องมีคุณสมบัติที่เป็นเยี่ยงอย่างของผู้อื่นได้ จึงต้องมีคุณสมบัติอย่างน้อยคือ

ต้องมี ศีลห้า เป็นปกติ 
ต้องสมาทาน ศีลแปดในวันพระ 
ต้อง เข้าวัดฟังธรรม เป็นประจำ

หากเราสามารถออกกฎหมายหรือระเบียบแบบนี้ได้ผู้เขียนเชื่อมั่นว่า พระพุทธศาสนาจะเจริญรุ่งเรืองในบ้านเราอย่างแน่นอนเพราะ ถูกขับเคลื่อนไปด้วยพุทธบริษัท 4 

ไม่ใช่จะมาเร่งรัดแก้ไขเฉพาะพระภิกษุ โดยที่พุทธบริษัทในส่วนอื่นไม่ปฏิรูปตาม
เรามาลงมือปฏิรูปไปพร้อมๆ กันดีไหมครับ


เรื่องโดย ชาวพุทธในต่างแดน

ขอบคุณภาพประกอบ 
ภาพดีๆ 072