ขยี้ปมพระจับเงิน นักวิชาการชี้อย่าถือวินัยอย่างวัวควาย



มีหนังสือจาก พศ.ให้สำนักพุทธจังหวัด ไปเก็บรวบรวมข้อมูลว่าวัดไหนทำบัญชีแบบพระสงฆ์ไม่ต้องจับเงินเลย เมื่อจะใช้ก็ค่อยมาเบิกจากคณะกรรมการของวัด 

ตกลงพระจับเงินได้หรือไม่?

ครอบครองทรัพย์สินขณะที่อยู่ในสมณเพศได้หรือไม่?

แล้ววิถีปฏิบัติจริงๆ ในสังคมไทยจะทำได้หรือไม่?

 อ.จตุรงค์ จงอาษา นักวิชาการอิสระด้านพระพุทธศาสนา ได้แสดงความคิดเห็นผ่านรายการตอบโจทย์ ทางช่อง Thai PBS ว่า

Highlight

เอาเข้าจริงๆ เหมือนชาวพุทธเราฝันหวาน เราหลอกตัวเองโดยไม่ได้มองบริบทตามความเป็นจริง 

พูดตรงๆ เราถือวินัยอย่างวัวอย่างควาย.!

ไม่ว่าเครือข่าย คุณสุจินต์ (สุจินต์ บริหารวนเขตต์) คุณไพบูลย์ (ไพบูลย์ นิติตะวัน) หรือแม้กกระทั่ง อ.ปรีชา ก็ดี (ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ปรีชา สุวรรณทัต)

ผมมีคำถามแค่ว่า...

พวกท่านห่วงความบริสุทธิ์ของพระเพียงแค่ มิติทางด้านการเงิน เหรอ.!

มีแต่กลุ่มคนเหล่านี้ที่ลุกขึ้นมาห่วงความบริสุทธิ์ผุดผ่องของพระเฉพาะ “เรื่องเงิน”

พอมีหนังสือจากสำนักพุทธร่อนออกมา ผอ.พศ. ไม่ตอบแต่ส่ง รอง ผอ.สำนักพุทธฯ มาแล็คเชอร์ (Lecture) พระทั้งประเทศเรื่องเกี่ยวกับนิสสัคคิยปาจิตตีย์ 

ขอโทษพระในประเทศนี้ เขาเรียนนักธรรมตรีกันทั้งประเทศไม่ทราบว่า รอง ผอ. สำนักพุทธฯ จะมาสอนเพื่อ.?

มีกระแสจาก 2-3 กลุ่มเหล่านี้ออกไปพูดทำนองว่า... 

เอ้ย...คุณอยากยกเลิกพระวินัยเหรอ “พระไม่เคยพูดสักคำว่าอยากยกเลิกพระวินัย” แล้วถามว่าอนุโลมให้พระไปแล้วกันกี่เรื่อง แต่ทำไม "มาตึงกับไอ้เรื่องเงิน"

ถ้าเอาตามที่คุณไพบูลย์ พยายามจะนำเสนออ้าง ถ้าจะเอาสิ่งที่ อ.ปรีชา บอกว่าด้วยเรื่องกฎหมายแพ่ง ผมบอกเลยครอบครองทรัพย์ก็ไม่รอด

อีกอย่างเรื่องนี้มันทำให้เกิดความวุ่นวายแล้วขัดแย้งกินแหนงแคลงใจกัน ทั้งระหว่างศาสนา และระหว่างนิกาย

ทุกวันนี้ชาวพุทธมากกว่าครึ่งเขาว่าคุณไพบูลย์เป็นศาสนาพุทธหรือเปล่า คนที่เขาเรียนรู้ธรรมะมานิดหน่อยเขาจะมองคุณไพบูลย์ว่า

รับใบสั่งธรรมยุตมาประหัตประหารมหานิกายหรือเปล่า.?

เรายืนยันว่าเห็นด้วยกับการตรวจสอบพระ การมีบัญชีวัด แต่เราไม่เห็นด้วยกับเรื่อง "เงินพระ" เรามองว่าอันนี้ มันทำเกินกว่าเหตุ

คุณคิดว่า ระบบไวยาวัจกร มันจะช่วยป้องกันได้ดีจริงเหรอ มันมีช่องทุจริตเสมอ คนถือเงินสำนักผลประโยชน์วัดนั้นวัดนี้ อยู่ๆ หนีหายไปกับเงิน ถามว่าทุกวันนี้คนไว้ใจได้ไหม

แล้วที่เลวร้ายที่สุด

อยู่ๆ คุณบอกเอาเงินอย่างนี้ไปให้สำนักพุทธทำ เอ้า...แล้ว ไอ้เงินทอนวัด ที่วุ่นวายกันทุกวันนี้ ไม่ใช่สำนักพุทธเหรอที่มาทำกับพระ 

ผมถามว่าข้าราชการเหล่านั้นมีใครที่ถูกเอามาดำเนินการบ้าง ตอนนี้ผมว่าเราต้องไปศึกษากันดีๆ ก่อนละครับ


เราอยากให้คนมาบวชใช่ไหม ถ้าเราบ้าจี้ทำตามสิ่งที่ คุณไพบูลย์ หรือทำอย่างที่ อาจารย์ปรีชาเสนอ

ถ้าคุณศรัทธาอยากบวช 15 วัน แล้วขยายเวลามาอยู่บวชสักพรรษาหนึ่ง หรือหนึ่งปีเป็นอย่างน้อยผมถามว่า

กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident fund) คุณต้องขายทิ้งไหม.?

สมมติถ้ามันเกิดดอกเกิดผลขึ้นมาคุณจะเอายังไง.?

เงินประกันสังคมที่เขาต้องจ่ายให้หลังจากคุณออกจากงาน คุณบวชขึ้นมาแล้วคุณต้องคืนไหม.?

แล้วสมมติว่าญาติพี่น้องคุณตาย บิดามารดาคุณทิ้งมรดกไว้ให้ จะต้องตกเป็นของใคร.?


แล้วเรื่องราวขี้หมูราขี้หมาแห้งเหล่านี้ มันต้องมีวิธีการที่จะร่างกฎหมายมาฉบับหนึ่งแบบ คุณไพบูลย์ หรือยกเลิกกฎหมายฉบับหนึ่งแบบอาจารย์ปรีชา ถ้าเราเอาแบบนั้นจริงๆ หมายความว่า

ศาสนาพุทธจะไม่มีในประเทศไทยนะ .!

เพราะแน่ๆ ละ พระไม่สามารถนั่งยานได้ แล้วพระนั่งยานมาจากชมพูทวีปมาขยายศาสนาถึงที่นี่ได้อย่างไร สรุปว่าเราจะถอยหลังไปอยู่ในสมัยพุทธกาลใช่ไหม

ในเมื่อปัจจุบันนี้สังคมเองก็อนุโลมอะไรไปให้พระตั้งมากมาย ถึงบอกว่าวิธีคิดทางพระวินัย 

อย่าท่องเป็นวัวเป็นควาย คือพูดอะไรให้พูดอยู่บนหลักการแห่งความเป็นจริงอยู่เป็นโลกแห่งความเป็นจริงกันบ้าง

ไม่งั้นนะ คุณจะเหลือใครสักคนที่อยากบวชเป็นพระ.! 

นอกจากนี้ อ.จตุรงค์ จงอาษา ยังได้วิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้ว่าแนวคิดที่คนกลุ่มเล็กๆ ดังกล่าวนำเสนอมาจะทำได้จริงหรือไม่ หากทำได้จริง พระสงฆ์ จะมีสภาพคล้าย นักโทษอย่างไร

อ่านต่อ Click > พระไม่ได้เกิดจากกระบอกไม้ไผ่ อย่าใช้ระบบราชทัณฑ์

เรียบเรียงโดย สารธรรม

ขอบคุณข้อมูลและภาพ
รายการ ตอบโจทย์ ThaiPBS
15 มิ.ย. 2561




ขยี้ปมพระจับเงิน นักวิชาการชี้อย่าถือวินัยอย่างวัวควาย ขยี้ปมพระจับเงิน นักวิชาการชี้อย่าถือวินัยอย่างวัวควาย Reviewed by สารธรรม on 03:55 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.