พระไม่ได้เกิดจากกระบอกไม้ไผ่ อย่าใช้ระบบราชทัณฑ์


หลังจากมีการสัมภาษณ์ของ ศ.พิเศษ ดร.ปรีชา สุวรรณทัต เกี่ยวกับการจับต้อง และครอบครองทรัพย์สินของพระสงฆ์ในขณะที่ยังดำรงเพศสมณะ ทำให้มีการนำเสอนแนวทางแก้ไขตามความคิดเห็นของ อ.ปรีชา ใน 4 เรื่องหลักๆ คือ

1.การแก้ไขกฎหมายแพ่ง มาตรา 1623 ว่าด้วยเรื่องกรรมสิทธิ์ในการครอบครองทรัพย์สินของพระสงฆ์ขณะที่ยังบวชอยู่

2.เปิดบัญชีวัดชื่อว่า บัญชีธรรม ซึ่งเป็นบัญชีรักษาเงินคงคลังไร้ดอกผลของวัดทั้งประเทศ ที่เปิดไว้กับธนาคารแห่งประเทศไทย

3.กำหนดหลักเกณฑ์ในการแต่งตั้ง ไวยาวัจกร โดยสำนักพุทธฯ เพื่อมาดูแลเงินวัด

4.ถวายปัจจัยให้เขียนผ่านใบปวารณาถวายพระ จากนั้นจึงเอาเงินไปให้ไวยาวัจกรในภายหลังเพื่อนำเข้าระบบต่อไป 

จากกรณีดังกล่าว อ.จตุรงค์ จงอาษา นักวิชาการอิสระด้านศาสนา มีความห่วงใยเห็นต่างและได้แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ว่า

Highlight

ณ วันนี้สิ่งที่สำนักพุทธขอมา คือพูดถึงเรื่องการจัดการ "เงินวัด" แต่สิ่งที่อาจารย์ปรีชา กับคุณไพบูลย์ พูดถึงคือเรื่อง "เงินพระและเงินส่วนตัว"

ทำไม...คุณมองว่าพระมาจากกระบอกไม้ไผ่.! 

เขาไม่มีพ่อมีแม่เหรอ เขาไม่มีญาติพี่น้องเหรอ คุณคิดว่าพระทุกรูปที่เขามาบวชเขาบวชเพื่อศรัทธาญาติโยมเหรอ...เปล่า เขาบวชให้พ่อให้แม่เขาบวชให้ตัวเอง

แล้วคุณคิดว่าพระพวกนี้เขาไม่มีทรัพย์สมบัติไม่มีเงินไม่มีทองมาตั้งแต่ก่อนบวชเหรอ 

คุณใช้ตรรกะชุดเดียวว่า

พระพวกนี้เป็นพระจนๆ เดินทางมาแสวงโชคแล้วรวยกันหมด เป็นเกจิแล้วรวยหมด เป็นเจ้าคุณแล้วรวยหมด ซึ่งในความเป็นจริง...มันไม่ใช่

มันเป็นทุกคนไหมที่เข้าไปอยู่ในวัดปุ๊บ 5 ปี แล้วรวยหมด มันไม่ใช่ ถ้ารวยหมดมันก็ไม่มีใครสึกออกมาแล้วสิ  พระ หรือผู้ชายประเทศนี้ก็อยู่กันไปยาวๆ 

แค่ไม่ต้องมีเพศสัมพันธ์กับสีกา ไม่ต้องฉันข้าวเย็นแล้วรวยเป็นร้อยล้าน พันล้านหมดทุกคนเขาก็บวชกันหมดแล้วสิ

พระที่มีปัญหาก็มีเราไม่ปฏิเสธ แต่ไม่ใช่ทุกคน แต่มาตรการนี้มันหว่านเจ็บกันทั่วหน้า ทั้งพระเกจิ พระรวยๆ ที่โด่งดัง พระตัวน้อยๆ ลูกเณรยากจนเขาลำบาก



แม้กระทั่งคนรวยจะมาบวช ต่อไปนี้คนรวยคนมีการศึกษาใครจะอยากมาบวช 

โอ้โฮ...เข้มงวด (Strict) ยิ่งกว่าไปเป็น สว.อีกโว้ย โดนกันขนาดนี้โอ้ยไม่บวชดีกว่า เป็นใครๆ อยากจะบวช

บางวัดเศรษฐีบางคนมาบวช เขาก็มีรถยนต์อัลพาร์ด (Alphard) อยู่ที่วัด เขาก็มีลูกหลานมาอยู่ที่วัด บางทีต้องเซ็นเอกสารที่ยังค้างคาอยู่ทางโลกก็มาเซ็นที่วัด แล้วคุณจะเอาอะไรกับเขา

คุณจะไปยึดทรัพย์เขาหมดเลยเหรอ?


ผมถึงบอกว่าไอ้วิธีคิดทั้งหลายๆ ที่เราคิดแล้วเสนอกันมา มันคล้ายกับอะไรรู้ไหม 

มันคล้ายกับลัทธิคอมมิวนิสต์ เราจะเอาพระไปโยนไว้ที่โซเวียตแล้วให้พระส่งของเข้าส่วนกลางหมดเลยเหรอ ท่านจะไม่มีเรื่องส่วนตัวเลยเหรอ

ถ้าคำสั่งสำนักพุทธที่ออกมานะ ผมบอกเลยคุณไปดูงานที่กรมราชทัณฑ์นั่นเปะสุดให้พระจับจ่ายของได้แค่นั้น อะไรได้แค่นั้นแล้วก็มีการมอร์นิเตอร์แบบกรมราชทัณฑ์ 

พูดง่ายๆ เหมือนพระเป็นนักโทษ ถ้าคุณเอาอย่างนั้นกล้าทำไหมละ.!

อีกทางออกผมเสนอ

ไม่งั้นคุณพูดมาเลยว่าประเทศนี้จะเป็น รัฐศาสนา หรือรัฐฆราวาส ถ้าคุณบอกว่าจะเป็นรัฐฆราวาส คุณเลิกยุ่งยากกับพระ 

แต่ถ้าคุณบอกว่าคุณจะเป็นรัฐศาสนา คุณให้สวัสดิการเขา ให้สิทธิ์ต่างๆ แก่เขาแล้วก็บอกให้เขา ไม่ต้องจับตังค์

ถ้าคุณคิดว่า คุณจะแสวงหาความบริสุทธิ์ พรุ่งนี้คุณเห็นหน้าพระองค์ไหนบอกให้ท่านถือธัมมะกรกเครื่องกรองน้ำมานะไม่งั้นฉันจะ "ไล่เธอสึก" หรือห้ามเดินทาง ห้ามนั่งยานมันเป็นอาบัติ 

ประเด็น คือ เราทำกันไม่ได้.!

ขอบคุณข้อมูลและภาพ
รายการ ตอบโจทย์ ThaiPBS
15 มิ.ย. 2561



พระไม่ได้เกิดจากกระบอกไม้ไผ่ อย่าใช้ระบบราชทัณฑ์ พระไม่ได้เกิดจากกระบอกไม้ไผ่ อย่าใช้ระบบราชทัณฑ์ Reviewed by สารธรรม on 04:13 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.