กระตุกสำนึกให้หนัก! วิบากกรรมกำลังส่งผล โดยเจ้าคุณเบอร์ลิน

ยุคคนพาลหลงอำนาจ

สงฆ์ควรเร่งรณรงค์

ช่วยขยายคำว่า "กรรม"

กระตุกสำนึกให้หนัก

หลังพุทธกาลผ่าน พ.ศ.๒๕๐๐
หากพุทธศาสนาเจริญก็ผิดจาก
คำพุทธเจ้าแล้ว

เกริ่นเรื่องบอกข่าว

ทิ้งระยะห่างการโพสต์ไป
กว่า ๑ อาทิตย์เลยครับก็ขอ
รายงานตัวนะครับแต่ผมและ
ทีมงานก็ยังปกติครับผม

ทั้งยังคงเฝ้าระแวงภัยให้กับ
พระพุทธศาสนาอย่างต่อเนื่อง
ที่ผ่านมานั้น แม้นจะมีเรื่องมีข่าว
ส่งจากไทยมมาเพื่อให้นำมา
เขียนขยายบ้าง

แต่ผมและทีมงานเมื่อ
พิจารณาร่วมกันแล้วก็เห็นว่า..

" เรื่องนี้คนนี้ มันจบไปแล้ว
ถึงจะจุดเรื่องมาใหม่อีกก็
ไร้สาระเกินไป สังคมคงไม่
ให้ราคาแล้ว

แม้จะเป็นคนเก่าหน้าเดิม
ที่พยายามจะเลี้ยงกระแสสร้าง
ผลงานหาทุนหนุน พยายาม
ไปจับแพะชนแกะปะติดปะต่อ
เรื่องที่ดูคล้ายประเด็นใหม่

แต่ก็ยังวนอยู่กับคนเก่า ๆ
แก๊งเก่าๆ เรื่องเก่าๆ คงหลอก
สังคมไม่ได้แล้ว "

แถมตอนนี้..

บางคน บางพระ เครคิตในสังคม
ก็แทบจะหมดสิ้นความน่าเชื่อถือ
ไปจนหมดกันแล้วพระผู้ใหญ่บางรูป
ที่เคยผยองตน หลงตนว่าแบ็คดี

ตอนหลังสายข่าว
รายงานว่า..

เวลาจะออกงานไหนทีก็ต้องเลือก
งานทั้งยังคงหลบๆ เพราะเกรงคน
จะซุบซิบและแอบสังเกตพฤติกรรม
โดยเฉพาะ " หลวงป้า "
ที่เจอสังคมลงโทษเต็มๆ ว่า..

นี้คือ " พระผู้ใหญ่ " ที่ชอบ
กินเด็กผู้ชาย!

อันเนื่องมาจากผลโลกโซเชียล
ก็ต้องอยู่แบบระแวงไปเลยครับ
อันนี้ ก็ต้องถือว่าเป็น " กรรม "
ที่ตัวเองได้ก่อขึ้นเองครับ

อย่าได้ไปออกงิ้วโทษคนอื่น
เช่น ที่รองสมเด็จฯ ร่วมกับ
รัฐมนตรี ที่ยังคงแอบวางแผน
จัดการเจ้าคุณเบอร์ลินเลย
นะครับ

คุยกันไม่ยอมจบอยู่เลยเพราะ
หากตนเองไม่มีพฤติกรรมและ
บาดแผลไม่มี อย่างที่ว่าแล้ว ..

"ไหนเลย ยาพิษ จะเข้ากายได้
หรือใครเขาจะมากล่าวโทษได้ "

เพราะ..อันควันไฟจะเกิดขึ้น
โดยไร้เชื้อ ได้อย่างไรครับ?

หากจะให้แนะนำก็มีหนทาง
เดียวคือ

" หากคิดผิด
ก็คิดใหม่ซะก็เท่านั้น "

ยิ่งช่วงนี้ สายข่าวทางลึกผม
รายงานว่า..

" เป็นช่วงขาลงขนาดหนักเลย
อย่าว่าจะขึ้นวอที่ไฝ่ฝันเลย
ลำพังแค่รักษาสถานะเดิมก็
ยังยาก

ลาออกแค่ มส.ช่วยอะไร
ไม่ได้หรอกแถมพวกพ้อง
ฆราวาสที่อุ้มชูแบบหลับหู
หลับตา ก็โดนระนาว "

กรรมไงครับ.!

ไม่มีอะไรหรอก

ให้เปลี่ยนแนวคิดให้เป็นสัมมา
ซะ ยังไม่สาย ถึงมันจะไม่ง่าย
แต่ก็ไม่ยาก หากจะทำจริง ๆ
ไม่งั้นก็ไม่ควรจะเอาปากไป
เที่ยวไป " เดินยาน "

แกล้งทำเคร่ง ห่มจีวรเรียบแปร้
แกล้งทำหน้าใจดี สอนญาติโยม
ให้เหม็นขี้ฟันตนเองเปล่าๆ คนรู้
ทันเขาเอียนกันทั่วแล้วละครับ

ดังนั้น ผมและทีมงาน จึงไม่
จำเป็นจะต้องไปให้ความสนใจ
ใดๆ กับข่าว และข่าวลือช่วงนี้
ครับว่าไปแล้วในช่วงนี้

ยังไม่มีอะไรต้องตื่นเต้น
หรอกครับทางทีมงาน
เขาประเมินสถานการณ์
และสรุปมาให้งั้นครับ

การรู้จักสงบเสงี่ยมเจียมตัวลงมา
บ้างสำรวมลงมาหน่อย แม้นจะไม่
ละชั่วละความกระสันต์อยากใดๆ
ลงบ้างก็ตามแต่ก็ถือว่าเป็นการ
แสดงถึง..

"ความละอายต่อผ้าจีวร "

ที่ตนห่มอยู่บ้าง ซึ่งตรงนี้จะเกิด
จากสำนึกผิด หรือใช้แผนแบบ

"ใช้ความนิ่งสยบความเคลื่อนไหว"

หรือแกล้งเชื่องทำเป็นแมวนอน
หวดนั้น ดูซื่อก็อีกเรื่องแต่แบบนี้
ผมก็ถือว่าว่าดีครับ สังคมจะได้สงบ
ลงมาบ้างมีคนตั้งข้อสังเกตผ่าน
เจ้าคุณเบอร์ลินมาว่า..

" จากการจัดงานวันเกิดของ
เจ้าอาวาส ที่วัดใหญ่แห่งหนึ่ง
ที่ผ่านมา แม้จะเดาใจยังไม่ถูก
ว่าเล่มเกมชั่วกันอีกอย่างไร "

แต่ก็สังเกตเห็นอะไร
ได้อย่างหนึ่งว่า..

" แม้แต่พระระดับสมเด็จนิกาย
เดียวกัน ก็ยังห่างๆ เลือกไม่มา
ร่วมงานเหลือมีแต่คู่หูรองสมเด็จ
โชว์ในงานโด่เด่เท่านั้น "

แต่จำพวกสร้างภาพนี้ ผมก็ว่า
มันก็ยังไว้ใจอะไร ไม่ได้อยู่ดี
แหละครับ พวกตีหน้าตายพวก
นี้ ดูยาก ดูไปกันครับ

อันที่จริงๆ โพสต์วันนี้ผมกะ
จะมาชวนสนทนาธรรมะอีก
ตามสไตล์ของผมครับ.!

แต่เกรงแฟนคลับเพจเจ้าคุณ
เบอร์ลินจะเหงา และเข้าใจว่า
เจ้าคุณเบอร์ลิน และทีมงาน
เดี๋ยวนี้ เปลี่ยนไป๋หรือไร ทำไม
จึงเงียบจัง..

" ยังครับ ยังอยู่ ยังเหมือนเดิม
อุดมการณ์ปกป้องพระศาสนา
ต่อให้โลกถล่มแผ่นดินทะลาย
ก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงครับผม
ก็บุญทั้งนั้นนี่ครับจะวางมือได้ไง "

จึงเกริ่นแย้มปรามๆ และขนาบ
พวกแอบจิตสักหน่อยครับ..

หากมึงฟื้นจากหลุมออกทำชั่ว
อีกเมื่อไร เจอกันอีกแน่.!

กรรม : คำลึกซึ้ง

เข้าเรื่องเลยนะครับอย่าลืมนะครับ
ว่าคำว่า กรรม ที่แปลว่าการกระทำ
นั้นยังเป็นคำกลางๆ อยู่เมื่อไปทำชั่ว
ก็จะเรียกว่า กรรมชั่ว

ซึ่งให้ผลเป็น..

ความทุกข์ความเดือดร้อน
ทั้งโลกนี้ และโลกหน้าส่วน
เมื่อไปทำดีก็จะเรียกว่า กรรมดี
ซึ่งก็จะให้ผลเป็นทางบวกคือ
ความสุข ความเจริญติดตัวไป
ตลอด ไปถึงภพหน้าต่อๆ ไป

แม้ใครจะไม่เชื่อ..

เรื่องกฎแห่งกรรม
นี้ก็ตามก็ล้วนหนีกฎนี้ไม่พ้นอยู่ดี
เพราะกฎนี้เป็นกฎธรรมชาติ
เป็นกฎสากล ที่คุมสรรพสัตว์ไว้
หมด เป็นสัจธรรมที่พระพุทธเจ้า
ทรงสอนไว้

ท่านทั้งหลายในสังคม ณ วันนี้
สังเกตไหมครับว่า..

ดูเหมือน กฎแห่งกรรม
ตามหลักของพระพุทธศาสนา
นั้นกำลังทำหน้าที่ ให้ผลแก่
คนชั่วอย่างยุติธรรม และอย่าง
ต่อเนื่องอยู่ครับ.!

ตรงนี้เป็นเรื่องที่สามารถ
ยืนยันได้ว่า..

" ไม่มีใครอยู่เหนือ
กฎแห่งกรรม "

ไปได้ส่วนจะเป็นที่ไหนบ้าง
หรือกับใครบ้าง ผมคงไม่ต้อง
สาธยายนะครับ เดี๋ยวจะหาว่า
ไปซ้ำเติม.!

มีข่าวปรากฎตามสื่ออยู่ทั่วไป
อยู่แล้ว ลำพังแค่มันตั้งรับผล
กรรมที่มันก่อ " ก็อาน "
แล้วครับไม่ต้องไปซ้ำมันหรอก

ผมจะบอกว่า..

ผลกรรมที่เห็นๆ กันอยู่เหล่านี้นั้น
มันเป็นแค่ระยะเริ่มแรกเท่านั้นครับ

เพราะอะไร ?

เพราะเทียบกับกรรม หรือความ
ชั่วช้า ที่พวกแก๊งเหล่านี้ ได้ก่อ
ไว้ในอดีตที่ผ่านมานั้น เฉพาะที่
เห็นกับตากันนั้น

เพียงแค่ไปจาบจ้วงพระผู้ใหญ่
ผู้ทรงศีล ก็สาหัสแล้ว.!

ดังนั้น หากจะพูดถึงผลของมัน
แล้ว มันชั่งมากมายมหาศาลนัก
ที่ผู้ทำกรรมชั่วเหล่านี้จะได้รับ
ผลแค่นี้เทียบได้ ก็แค่เสี้ยวเท่านั้น
ไปหาอ่านโพสต์ที่ผมเตือนๆ ไว้
ก่อนหน้านี้ก็ได้

ให้คอยดูต่อไปเถอะ..

เร็วเสียด้วยครับ คอยดูผมให้
เวลาไม่เกิน ๓ เดือนครับงานนี้

" นรกบนดิน "

ของคนชั่ว คงได้ประจักษ์กันครับ
สำหรับการให้ผลของกรรมนั้น
จัดเป็นเรื่อง ๑ ใน ๔ เรื่องอจินไตย
ครับ คือสั้นๆ ว่าอันกฎแห่งกรรมนั้น

"ไม่ควรคิด แต่ควรเชื่อ "

เพราะการให้ผลของกรรมนั้น
มันสลับซับซ้อน อันมีสาเหตุ
มาจากการเวียนว่ายตายเกิด
ของสรรพสัตว์ เป็นตัวหลัก
และจาก..

กรรรมหนัก
กรรมเบา

ประกอบด้วยง่ายๆ คือการ
ให้ผลของกรรมนั้น อยู่ที่กำลัง
ของกรรมครับแต่พระพุทธ
ศาสนาเรายืนยันว่า

กรรม นั้นมีผลแน่นอน
ผลไม่สูญแน่ ทำอย่างไรได้
รับผลอย่างนั้นไม่มีเป็นอื่น
ตราบใดที่ยังไม่ให้ผลกรรม
ที่ทำแล้วนั้น มันก็ยังคงอยู่

การให้ผลของกรรมเปรียบดัง
เงาตามตัว ย่อมหนียังไงก็หนี
ไม่พ้นครับ.!

หมายเหตุ
คัดบทความมาบางส่วนจาก
เฟสบุคท่านเจ้าคุณเบอร์ลิน
ติดตามอ่านเนื้อหาสมบูรณ์
ได้โดย Click >เจ้าคุณเบอร์ลิน

โชคดีมีชัยทุกท่านครับ

เจ้าคุณเบอร์ลิน

Berlin,den 20.09.2016