สตรีจับหอกผู้สูงศักดิ์ สะดุ้ง ปมชักใยแต่งตั้งสังฆราช



เผยพฤติกรรม "สตรีจับหอก" ชอบหากินกับวัดหลวงใหญ่ๆ

ใครเอาด้วยก็เรียก "พระลูกชาย" 
เมื่อสื่อใหญ่เริ่มขยับ เกมส์สกัดแก๊งค์ชั่ว..ก็เริ่มเดินเครื่อง

-----------------------------

- วันนี้ อาทิตย์ที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๕๙ นสพ. เดลินิวส์ ขึ้นหน้า ๑ เลยว่า ....

"เจ้าคุณเบอร์ลิน โพสต์แฉยื้อตั้งสังฆราช ฯ"
"พระผู้ใหญ่ จอมชักใย"

- นี่คือหน้า ๑ เดลินิวส์ในวันนี้ ซึ่งรายละเอียดตามที่ผมได้แนบมาด้วยแล้วนี้
- จะไม่ขอนำมากล่าวตรงนี้ ให้เสียเวลานะครับ



-----------------------------

- วันนี้ จริง ๆ ผมกะจะโพสต์ขยายเรื่องรองสมเด็จพระราชาคณะ ฝ่ายธรรมยุต
  ที่เป็นกรรมการ มส. ต่อ.
- เพื่อให้มีความต่อเนื่องจากโพสต์เมื่อ วันที่ ๑๑ มีนาคม ๒๕๕๙
  เรื่อง สื่อใหญ่ไทยประสานฯ
- แต่ทีมงานที่เกาะติดสถานการณ์ใกล้ชิดที่ไทย แจ้งด่วนว่า ..

  "อย่าเพิ่งโพสต์ "

- ด้วยเหตุผลที่สามารถบอกได้สั้น ๆ ตรงนี้
  ที่น้อง ๆ วงการสื่อ เม้าท์กันสนุกปากวันนี้ว่า ..
  "........หมดท่าเลยครับ...
   ........เป็นคนขุดหลุมเอง...
   ........แล้วก็ตกไปในหลุมเอง..."
- นี่คือข้อความที่เขาส่งต่อ ๆ กันร้อน ๆ ในสายสื่อวันนี้

-----------------------------
- ดังนั้น ในวันนี้ ผมจะขอข้ามเรื่อง รองสมเด็จ ฯ นี้ไปก่อนนะครับ
-----------------------------

- ขอย้ำอีกครั้งก่อนว่า เพจ "เจ้าคุณเบอร์ลิน" นี้..
  "ไม่เอามันส์" "ไม่เอาความสะใจ" นะครับ
- แต่ "เอาจริง" ครับ" ส่วนคนที่คิดเอามันส์
  เอาความสะใจให้ไปหาเอาที่อื่นนะครับ
- คนนอกวงการอาจฟังแล้ว รู้สึกเฉยๆ แต่คนที่เกี่ยวข้อง และมาอ่านตรงนี้..
 "อาจไข้ขึ้นได้ง่าย ๆ" ครับ

----------------------------

- ใช่ครับ วันนี้ผมกำลังจะนำไปแก้ผ้า (ไม่หยาบ แต่เปรียบเทียบ)
  "สตรีถือหอก" กันนะครับ.
- เอากันแบบใกล้ ๆ ประชิดตัวเข้าไปอีกนิดหนึ่ง
  เพื่อให้เขารุ่มร้อนยิ่งขึ้น สะดุ้งยิ่งขึ้น.
- เผื่อว่า "ท่าน" จะได้มีจิตสำนึกที่ดีได้บ้าง

---------------------------

พฤติกรรม "สตรีผู้ถือหอก"
- ในสังคมประเทศด้อยพัฒนาทั่วไปนั้น จะมีบุคคลในสังคม
ที่แยกออกง่าย ๆ ได้ ๒ จำพวก คือ

๑. พวกมีเกียรติ มียศ แต่ไร้เงินทอง
๒. พวกมีเงินทอง แต่ไร้เกียรติ ไร้ยศ


---------------------------

- ในบุคคล ทั้ง ๒ จำพวกนี้
- กรณี หากสังคมใดที่มีบุคคลเป็นคนดี เป็นคนมีศีลธรรม
  คือเบื้องต้นจะมี หิริ คือ ความละอายต่อบาป
  และโอตัปปะ ความเกรงกลัวต่อบาป
- สังคมนั้น ก็จะมีแต่ความร่มเย็นเป็นสุข ประเทศชาติก็จะเจริญได้อย่างรวดเร็ว

---------------------------

- หากเป็นกรณีตรงกันข้าม กับที่กล่าวข้างต้น
- สังคมหรือประเทศนั้น ก็มีแต่ความทุกข์ ความเดือดร้อนของผู้คนๆ
  พากันใช้ชีวิตแบบวาดระแวง สะดุ้งหวาดผวาตลอดทุกขณะจิต
- ถึงแม้นจะมีของมีค่าที่สุดของมนุษย์ เช่น พระพุทธศาสนาก็ตาม
- ก็จะพากันไม่เห็นคุณค่า หรือไม่นำไปใช้ให้สมกับคุณค่า เป็นต้น
- สังคมนั้น ๆ จึงมีแต่ความเสื่อม ทั้งด้านจิตใจ และวัตถุ
- ทำให้พัฒนาได้อย่างเชื่องช้า บางครั้งถึงถอยหลังหรือล้าสมัยไปเลย

----------------------------

ความชั่ว เริ่มตรงนี้

- จำพวกที่ ๑ นั้น เมื่อมีแต่เกียรติ มีแต่ยศแต่ไม่มีเงินทอง
- เมื่อมีจิตคิดชั่วเมื่อต้องการเงินทอง ก็จะเอาเกียรติ หรือยศของตัวเองที่มีอยู่.
- นำไปแลกให้ได้มา ด้วยวิธีการที่ผิดศีลผิดธรรมต่างๆ
- นำไปแลกกับใคร
- ก็จะต้องนำไปแลกกับพวกคิดชั่ว

- จำพวกที่ ๒ คือ พวกมีเงินทอง แต่ไร้เกียรติไร้ยศ.
- พวกนี้ จึงนำเงินทองตนเองไปแลกให้ได้เกียรติ ได้ยศมา ในทางที่ผิดๆ

---------------------------

- ก็จะมาสรูปว่า พวกไร้ศีล ไร้ธรรม ทั้ง ๒ จำพวกนี้
  ก็จะร่วมกันทำชั่ว "ด้วยวิธีแลกเปลี่ยนกัน"


---------------------------

- สุดท้ายสังคม ก็จะมีแต่ความทุกข์ ความเดือนร้อนไม่ที่สิ้นสุด
- แม้รัฐบาลจะร่างรัฐธรรมนูญ ออกกฎหมาย กฎกติกาสารพัดเพื่อมาแก้ไข
- แต่คนชั่ว ก็จะอาศัยปัญญาที่ฉลาด สร้างฉากให้ดูดี
  แล้วก็หาช่องทางทำชั่ว ในเรื่องต่าง ๆ อยู่ร่ำไป

----------------------

- นี่คือ สภาพสังคมไทยในปัจจุบัน ปี ๒๕๕๙
- ที่หาคนที่ดีจริง ดีแท้ ได้ยากขึ้นทุก ๆ วัน
- นี่ยังไม่รวม พวกมือถือสากปากถือศีล ผู้ดีจอมปลอม
  อีกจำนวนมากที่ แฝงอยู่ในสังคมทุกวันนี้

-----------------------

เข้าเรื่อง

อันการกิน อิฐ หิน ดิน ทราย ใช่จะมีแต่ชาย อกสามศอก
- ประเทศไทยเป็นประเทศที่แปลกที่สุดในโลก
  นั่นคือ มักมีเรื่องเหลือเชื่อเกิดขึ้นอยู่เนืองๆ
- สมัยก่อน พวกเรา ได้ยินแต่ว่า ช่วงเกิดสงครามสู้รบ
- ก็จะมีแต่"เพศชาย" ที่ค้าอาวุธสงครามให้กับทั้งฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายตรงข้าม
- แต่ประเทศไทย ก็เคยมีนักค้าอาวุธสงคราม "เพศหญิง" มาแล้ว

-------------------------

- ที่ผ่านมา เราเคยเห็น ข้าราชการชั่ว นักการเมืองชั่ว
- พากันกินหัวคิว การก่อสร้างโครงการใหญ่ ๆ
  ของรัฐบาลที่เรียกว่า "กิน อิฐ หิน ดิน ทราย" อยู่กันทุกยุคสมัย
- ที่สำคัญ ส่วนมากจะเป็น "เพศชาย"
- ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะ วัสดุประเภทนี้ รูปลักษณ์ มันดูจะแข็ง
- ใช่จะเคี้ยวกินกันได้ง่าย ๆ ไม่เหมาะกับ "สตรีเพศ" ที่จะไปเคี้ยวกินได้

---------------------------

สตรีถือหอก อุบัติขึ้น ในยุคกึ่งพุทธกาล พ.ศ. ๒๕๕๙
- ณ วันนี้ ได้ปรากฏ "สตรีเพศ" ที่มีทั้งเกียรติ มีทั้งยศ แต่มีจิตใจชั่วช้า
- ได้ทำชั่วทุกอย่างเพื่อเงินทอง โดยไม่สนใจบาปบุญคุณโทษใด ๆ ทั้งสิ้น

--------------------------
สมควรประณามใครมากกว่ากัน
- หากจะประณาม หรือกำจัดนักการเมือง ข้าราชการชั่ว
  ที่เอาเกียรติเอายศ ไปแลกเงินทองมา หรือ ไปกินหัวคิว
  กินอิฐ หิน ดิน ทราย ทำชั่วต่าง ๆ ต่อสังคมแล้ว
- แต่ พวกเหล่านี้ ก็ยังประกอบกรรมชั่วที่ว่านี้
- ไกลนรก ไกลศาสนา ไกลวัด นอกกำแพงวัด แล้วก็ไกลพระสงฆ์องคเจ้าอีกด้วย
--------------------------
ทำชั่วแม้แต่ใน"เขตพุทธสถาน"
- แต่ "สตรีถือหอก" รายนี้ ได้ก่อกรรมที่น่ารังเกียจ น่าขยะแขยงอย่างสุดขั้ว
- ยิ่งกว่าพวกชั่ว ๆ ที่เป็นเพศชายได้ทำกัน มากกว่าเป็นหลายร้อยหลายพันเท่า
- นั่นคือเธอได้หลงตน แต่งตนสมมติตน เดินเข้าไปก่อกรรมหยาบชั่ว
  ในเขต "พุทธสถาน" อันเป็นสถานที่ศักดิิ์สิทธิ์
- เป็น "พุทธสถาน" ที่คนทั่วไป เขาพากันเกรงกลัวต่อนรก
  จะต้องระมัดระวัง และจะต้องทำแต่กรรมดีเท่านั้น
- แต่คุณเธอ หาใส่ใจใด ๆ ไม่!!!

--------------------------

วิธีหาเงินแบบง่าย ๆ แต่มีนรกเป็นเบื้องหน้า
ขั้นตอน และลักษณะพฤติกรรมชั่ว "สตรีถือหอก" รู้แล้วจะทึ่ง

๑. เบื้องต้น "คุณเธอ" จะเลือกหาวัดหลวงใหญ่ ๆ
    ที่มีพระพุทธรูปสำคัญ ๆ ศักดิ์สิทธิ์ จะเป็นที่หมายตาเป็นพิเศษ
๒. จากน้ันก็จะทอดสะพาเข้าไปหาสมภารเจ้าวัด
    ทำทีมีศรัทธา จะถวายสังฆทานฯ
๓. จากนั้นทำทีปรารภว่า "กุฏิ โบสถ์ ศาลาการเปรียญ เก่าทรุดโทรมแล้ว
    สมควรซ่อมแซมได้แล้ว"
โดยทำเนียนแบบหวังดี
๔. โดยยื่นข้อเสนอว่า "จะมาซ่อมให้ จะเอาเงินมาให้ก่อน แล้ววัดใช้คืนที่หลัง"
๕. จากนั้นก็เดินแผนต่อ คือ นำเงินมามอบให้นิดหน่อย
    บางวัดได้เพียงไม่ถึง ๑๐ เปอร์เซ็นต์
ที่เหลือวัดก็ต้องวิ่งหาเอง
๖. ความชั่วมันเริ่มตรงที่...
   - เริ่มตั้งแต่ บริษัทรับเหมาช่างก่อสร้าง รวมทั้ง อิฐ หิน ดิน ทราย
     ในการก่อสร้างนั้น ๆ เจ้าหล่อนกรวดเรียบ
   - หากเป็นพุทธรูปสำคัญๆ ของประเทศ หรืเจดีย์ใหญ่ๆ เมื่อซ่อมหรือสร้างเสร็จ.
   - เจ้าหล่อนก็จะขอเอาตู้บริจาคไปตั้งเองทั้งหมด แล้วก็จะมีคนไปเปิดทุก ๆ เดือน
๗. ยัง ยังไม่หยุดชั่ว เพียงแค่นี้ นั่นคือ .....
   - หากวัดไหนยอม "คุณเธอ" จากนั้นบรรดาสารพัดผลประโยชน์
     ก็จะมีการตอบแทนกันไป
   - และที่สำคัญ ได้รับการอุปโลกน์ว่าเป็น "พระลูกชาย" อีกด้วย
๘. สุดท้ายหากวัดใด "ไม่ยอม" ก็จะถูกลั้นแกล้งสารพัด
   -โดยเฉพาะอาศัยกฏหมายเล่นงาน ที่คุณเธอถนัดใช้เป็นอาวุธ
     และก็จะถูกขึ้นบัญชีไปว่า วัดนี้ไม่ใช่ "พระลูกชาย"

----------------------------------------------------------------

เรื่อง พฤติกรรมชั่ว ของคุณเธอนั้น ผู้คนที่อายุเกิน ๕๐ ปี ขึ้น
- ไม่ว่าเป็น วงการสงฆ์ บ้านเมือง หรือวงการสื่อ ก็ล้วนรู้กันอย่างละเอียด ดีกันทั้งนั้น
- ยิ่งวงการสื่อ เขามีสารพัดหลักฐาน ที่กำลังเรียบเรียง (นี่ไม่ได้ขู่นะครับ)

--------------------------------------------

ขอถามสักหน่อยเถอะครับว่า...
"ท่าน ไม่กลัวท้องอืดบ้างหรือไงครับ และเมื่อไร จะเลิกกินพิศดารแบบนี้ สักทีครับ"

--------------------------------------------

- ถึงตรงนี้ ทำให้ผมคิดว่า..

เพราะสารพัดการก่อสร้าง ที่เป็นสาธารณประโยชน์ เช่น มหาเจดีย์ฯ 
พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง ที่ตั้งรถโบราณของวัดปากน้ำฯ
ที่มีมูลค่าเป็นพันๆ ล้านบาทนั้น

- สงสัยคุณเธอไม่ได้เจี๊ยะหรือเปล่า ?

  จึงได้เจ็บแค้น ข้ามภพข้ามชาติ ถึงขนาดไปตั้งแก๊งค์ออกมาคัดค้าน
  การขึ้นสังฆราช ของหลวงปู่ช่วง ทุกวี่ทุกวันอยู่นี้

-----------------------------------

ปิดท้าย..

- วันนี้ขอเอาแค่นี้ก่อนนะครับ ถือว่าชิมรางนำร่องไปก่อน
  ทิ้งระยะขนาน กับ สื่อที่เขากำลังเรียบเรียงข้อมูลด้วย
- แต่ผมคิดว่า พูดมาถึงตรงนี้ หาก "เจ้าตัว" มาอ่านเจอโพสต์นี้
  ผมรับรองว่ามี "สะดุ้ง" แน่นอนครับ
- เพราะเจ้าตัวจะรู้ทันทีว่า นี่มันเป็นพฤติกรรม ของ "ฉันเองนี่นา"
- อ้าว....จะหยุดหรือเดินต่อก็สุดแต่พิจารณานะครับ
  แต่ผมอยากขอร้องให้หยุดเถอะครับ
- ปรับความคิดเสียใหม่ หาที่สงบ ๆ ทบทวนดูเอง
- ซึ่ง "ท่าน" ก็ชื่อว่า ไม่ใช่คนโง่สักหน่อย.
- ที่ผ่านมาครูบาจารย์ก็อบรมมามาก น่าจะคิดได้ว่าอะไรเป็นอะไร
  ได้แล้วอายุก็ปานนี้แล้วครับ
- ว่าไปคุณงามความดีท่านเองก็มีมาก แค่สิ่งสมมติ
  แค่ภาพลวงตา ให้สลัดออกไปเถอะครับ
- จะทำความดีก่อนตาย หรือจะ "เข้าพวก" ทำลายสงฆ์
  ทำสังฆเภท ก่ออนัตริกรรม ก็ไปคิดเอาเอง

----------------------------------------

- ผมว่า หากขืนดันทุรังไป ก็มีแต่ "ตายก่อนตาย เน่าก่อนเน่า "
  สองคำนี้ ท่องให้ขึ้นใจได้เลยครับ
- แล้วก็ขอบอกนิดว่า.....
- ลำพังสมอง และแขนขาของเจ้าคุณเบอร์ลิน
  ที่กิ๊กก๊อกนี้ย่อมไม่สามารถรู้อะไรๆ ได้ลึกๆ ดังที่กล่าวมานี้ได้ขนาดนี้หรอกครับ
- หากไม่ได้มืออาชีพคอยป้อนให้

- ดังนั้น ก็อย่ามาคิด "หยุด เจ้าคุณเบอร์ลิน"นะครับ

  เพราะตัวอันตรายมันอยู่ใกล้ ๆ "ท่าน" นะแหละ
- ผมชี้ทางเดินให้แล้วนะครับ "สตรีผู้ถือหอก"
- ถึงตรงนี้ผมไม่อยากหลับตานึกถึงภาพเลยครับว่า ..

 "พระศาสนาจะอยู่อย่างไร หากอาจารย์ของพวกคุณเธอ
  ขึ้นเป็นพระสังฆราชในวันข้างหน้า ดังที่ ดร. วิษณุ เคยพูดไว้"

- วันนี้ แฟนเพจผม ได้ทั้งคติธรรม และได้อัฟข้อมูลไปในตัวด้วยนะครับ
โชคดีมีชัยทุกท่านครับ

เจ้าคุณเบอร์ลิน
14.03.2016

------------------------


กรณีธรรมกาย : คำสอนคุณครูไม่ใหญ่(หลวงพ่อธัมมชโย) เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย
กรณีธรรมกาย : White Knight
กรณีธรรมกาย #จูราสสิคสยาม
กรณีธรรมกาย : ความลับระดับ Top secret !
กรณีธรรมกาย : รวมข้อแท้จริง ทุกกรณีวัดพระธรรมกาย DHAMMAKAYA FACTSHEETS
กรณีธรรมกาย : #โรงละครสยาม
กรณีธรรมกาย : เบื้องหลังการให้ร้ายวัดพระธรรมกาย
กรณีธรรมกาย : ความจริงวันนี้ วัดพระธรรมกาย 
กรณีธรรมกาย : แถลงการณ์คดีพิเศษ ! 
กรณีธรรมกาย : กรณีเกี่ยวข้องวัดพระธรรรมกาย 
กรณีธรรมกาย : Buddhism under crisis
กรณีธรรมกาย : รักพระพุทธศาสนา
กรณีธรรมกาย : รวมข้อแท้จริงทุกกรณี! 



สตรีจับหอกผู้สูงศักดิ์ สะดุ้ง ปมชักใยแต่งตั้งสังฆราช สตรีจับหอกผู้สูงศักดิ์ สะดุ้ง ปมชักใยแต่งตั้งสังฆราช Reviewed by สารธรรม on 01:43 Rating: 5

2 ความคิดเห็น:

  1. คุณสตรีผู้ถือหอก คุณตายไปแล้วจะไม่มีวันผุดวันเกิดเลยกฎแห่งกรรมไม่สนหรอกคุณเป็นใคร

    ตอบลบ
  2. คุณสตรีผู้ถือหอก คุณตายไปแล้วจะไม่มีวันผุดวันเกิดเลยกฎแห่งกรรมไม่สนหรอกคุณเป็นใคร

    ตอบลบ

ขับเคลื่อนโดย Blogger.