Post เด่นประเด็นเด็ด ! ตอน ใครตีความจนไม่ได้ความ พ.ร.บ.สงฆ์ ม.7



จะตีความอย่างไรก็ได้

แต่ประเด็นอยู่ที่ว่าท่านมี

หน้าที่เกี่ยวกับเรื่องนี้หรือไม่?




"ทางผู้ตรวจการฯ ได้มีการหารือกัน

และเห็นว่าขั้นตอนการเสนอชื่อ

สมเด็จพระสังฆราชว่าต้องเริ่มต้น

ที่นายกรัฐมนตรี และให้ มส.เห็นชอบ
ก่อนที่นายกฯจะนำชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ 

ซึ่งการพิจารณาของผู้ตรวจการฯ 

"ไม่ได้ดูว่าใคร ?
จะเป็นผู้เหมาะสม หรือไม่เหมาะสม "

 ดูเฉพาะกระบวนการ 
ดังนั้นยืนยันว่าสิ่งที่ผู้ตรวจการฯ 
ดำเนินการไปถูกต้องแล้ว 
เพราะได้มีการพิจารณากลั่นกรอง
ข้อมูลด้วยความรอบคอบ "


นายรักษเกชา แฉ่ฉาย 

เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน 



ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม
ผู้ตรวจการแผ่นดิน กรณีที่คณะกรรมการ
กฤษฎีกาได้ตีความว่าขั้นตอนการเสนอชื่อ
สมเด็จพระสังฆราชของมหาเถรสมาคม(มส.)
ไม่ขัดมาตรา 7 ของ พ.ร.บ.คณะสงฆ์


Cr. มติชนออนไลน์



พระโสภณพุทธิวิเทศ (เจ้าคุณเบอร์ลิน)
เจ้าอาวาสวัดพุทธาราม นครเบอร์ลิน
ประเทศเยอรมนี

      1.

" มส. มีอำนาจ เป็นผู้เริ่มต้นในการ
พิจารณาผู้ที่จะได้รับการสถาปนา 
เป็นสมเด็จพระสังฆราช ตาม ม.7 
แห่ง พ.ร.บ. สงฆ์  2505 (2535)
ตรงนี้หมายถึง อำนาจการคัดเลือก
ผู้ที่จะได้รับการสถาปนาขึ้นเป็น
สังฆราชนั้นก็คือ มส.เป็นผู้เริ่ม
ตั้งต้น เป็นปฐม ..

"ไม่ใช่เริ่มจากนายกรัฐมนตรี "

นี้เป็นข้อที่ 1 ที่ตีความออกมาที่
ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงกับการ
ตีความของผู้ตรวจการแผ่นดิน 

ที่เคยรับเรื่อง 
จากคุณไพบูลย์ นิติตะวัน 
แล้วนำมาตีความ ทั้งๆ ที่ไม่ใช่
อำนาจหน้าที่ของตนเรื่อง 

"อำนาจว่า ใครจะเป็นผู้เริ่มต้นก่อน 
ระหว่าง มส. และนายกรัฐมนตรี
ตรงนี้ถือว่า "ยุติ" ทันที.! "

      2.

" มส. มีมติเป็นเอกฉันท์ในการเสนอนาม
ผู้ที่ได้รับคัดเลือกที่จะขึ้นเป็นสมเด็จ
พระสังฆราชในครั้งนี้..

"ไม่ขัดต่อกฎหมาย"

นั้นหมายถึงว่า มติ มส. เมื่อเดือน
มกราคม 2559 ที่ผ่านมาเพื่อเสนอให้ 
สมเด็จช่วง วัดปากน้ำขึ้นเป็นสมเด็จ
พระสังฆราชนั้น..

ไม่ขัดต่อข้อกฎหมาย คือถูกต้อง 
ไม่ผิดกฎหมายใดๆ ทั้งสิ้น "

นี้เป็นข้อที่ 2 ที่กฤษฎีกาได้ตีความ
ออกมา และก็ตรงข้ามอย่างสิ้นเชิง 
กับการตีความ ของผู้ตรวจการ
แผ่นดิน ที่ตีความออกมาว่า.. 

"มติ มส. ครั้งนี้ขัดต่อกฎหมายใน ม.7"

      3.

" รัฐบาลไม่จำเป็นต้องปฎิบัติตาม 
ในข้อเสนอแนะ ของผู้ตรวจการแผ่นดิน

เป็นการชี้ชัดในความผิด และประจาน
ถึงความดันทุลังจนเกิดความผิดพลาด
มหันต์ ที่ไม่รู้อำนาจ และหน้าที่ของตนเอง 
ของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน 

ที่จริงข้อนี้กฤษฎีกา ไม่ต้องตีความ
ออกมาก็ได้ เพราะรัฐบาลเขาคงรู้หน้าที่
ตนเองและก็รู้อำนาจหน้าที่ ของหน่วยงาน
ในสังกัดของรัฐบาลตนเองอยู่แล้ว "


ผู้ตรวจการแผ่นดินที่จะต้องออกมา
รับผิด และรับชอบ ในผลงานอัปยศ
ครั้งนี้ของตนเอง โดยไม่สามารถ
ปฎิเสธได้ และอาจถึงขั้น 

"เป็นคดีอาญา จากทางสงฆ์ก็ได้ "

ในส่วนรัฐบาล ก็จะถูกสังคมจ้องมองว่า

 " หน่วยงานในสังกัด ที่ใช้อำนาจเกิน
หน้าที่สร้างความเสียหายให้เกิดขึ้น 
วงกว้างขนาดนี้จะพิจารณาและมี
มาตรการลงโทษอย่างไร "

เจ้าคุณเบอร์ลิน
14 ก.ค. 2559

Cr. ขอบคุณข้อมูลจาก
Fb เจ้าคุณเบอร์ลิน , มติชนออนไลน์



บทความแนะนำกรณีธรรมกาย



เพราะความลับไม่มีในอากาศ

Post เด่นประเด็นเด็ด ! ตอน ใครตีความจนไม่ได้ความ พ.ร.บ.สงฆ์ ม.7 Post เด่นประเด็นเด็ด ! ตอน ใครตีความจนไม่ได้ความ พ.ร.บ.สงฆ์ ม.7 Reviewed by สารธรรม on 21:09 Rating: 5

1 ความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.