เจ้าคุณพิพิธ กระเทาะปมพระคว่ำบาตร ผอ.มือปราบแห่งชาติ


ผอ. พศ.ไม่มีสิทธิ์มาตัดสินพระ 

คือคำกล่าวที่ทำให้ชาวพุทธต้องย้อนกลับมาไตร่ตรองถึงบทบาทหน้าที่ในตำแหน่ง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

ว่ากำลังปฏิบัติหน้าที่ด้วยความย้อนแย้งต่อประโยชน์ของพระศาสนาและการคณะสงฆ์หรือไม่?  

อีกทั้งการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน กรณีการสอบสวนประเด็นทุจริต "เงินทอนวัด" มีความเหมาะสมดีงามตามบทบาทหน้าที่เพียงใด ติดตามบทสัมภาษณ์ความคิดเห็น และความรู้สึกของ "เจ้าคุณพิพิธ" พระเทพปฏิภาณวาที ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดสุทัศนเทพวราราม กทม. โดยท่านกล่าวว่า


งบประมาณอุดหนุนวัดมี 3 แบบ

   1.  วัดทำรายการนำเสนอขอเงินอุดหนุน ไปยังสำนักพุทธฯ ประจำจังหวัด จากนั้นเรื่องจะถูกส่งต่อไปยัง สำนักพุทธฯ  เมื่อพิจารณาแล้วจะอุดหนุหรือไม่ก็ได้

   2.  สำนักพุทธฯ จะจัด เงินอุดหนุนให้เอง ตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้

   3.  งบฉุกเฉิน กรณีเกิดภัยพิบัติ เป็นเงินก้อนที่ พระสงฆ์ไม่ได้ร้องขอ แต่ ผอ.สำนักพุทธประจำจังหวัดส่งรายงานเข้าไปยังส่วนกลาง


เงินทอนไม่ใช่ความผิดของพระเพราะอะไร ?

สำนักพุทธตั้งงบเองเป็นการคุยกันระหว่าง สำนักพุทธฯ จังหวัด กับ สำนักพุทธฯ แห่งชาติ โดยอาจจะไปตกลงกับวัดนั้นๆ ว่างบอุดหนุนก้อนนี้ไม่ตรงนะ ขอให้ตีกลับมาที่สำนักพุทธฯ

โดยให้พระโอนเข้าบัญชีชื่อใครก็ไม่รู้ ขั้นตอนนี้จะเป็นการตกลงด้วยวาจา อาศัยความเชื่อใจของพระ ที่มีต่อ ข้าราชการ ว่าต้องมีความสุจริตซื่อตรง

ใครทำผิดให้แยก

พิจารณาเป็น 2 ระบบ

คือภาครัฐต้องเช็คว่า สุดท้ายแล้วเงินก้อนนี้กระจายไปที่ใครบ้าง หากปลายทางคือเจ้าอาวาสคนเดิม จึงจะถือว่า “พระผิด” แต่ถ้าไม่ใช่ก็ถือว่า “ข้าราชการผิด”






งบเหลื่อมล้ำวัดใหญ่ได้งบเยอะ วัดเล็กอัตคัดขัดสน?

โดยปกติ กฎเกณฑ์ในการจัดสรรเงินอุดหนุนวัด มีอยู่ว่าพระอารามหลวง หรือวัดที่มีโบราณวัตถุที่ต้องทำนุบำรุง จะได้รับเงินอุดหนุนจากสำนักพุทธฯ บ้างนิดหน่อย

ยกตัวอย่างเช่น ปีนี้วัดนี้ควรได้รับเงินอุดหนุนสัก 5 ล้านบาท ก็มีการเซ็นเช็คถวายมา 5 ล้าน 

แต่ในความเป็นจริง ในแต่ละปีวัดส่วนใหญ่ ท่านได้ทำได้ก่อสร้างไปแล้ว 95 ล้าน ด้วยวิธีการบอกบุญญาติโยม ผู้มีความศรัทธาเป็นหลัก

เรื่องกลโกง ร.ร.พระปริยัติธรรม 

เป็นการประเคนคำกล่าวหา มองพระแบบหาเรื่อง? 

เพราะพระไม่มีสิทธิ์ ทำงบประมาณในส่วนนี้ได้เลย สำนักพุทธฯ จังหวัด เป็นฝ่ายเข้าไปตรวจสอบจำนวนนักเรียนว่ามีอยู่เท่าไหร่ โดยแยกเป็น นักธรรม บาลี ปริยัติสามัญ ถ้าพระเณรหนึ่งรูปท่านเรียนทั้ง 3 อย่าง ก็จะคิดเป็น 1 รูป 3 รายหัว ในขณะที่จำนวนครูสอนแบ่งตามชั่วโมงการสอน

การกล่าวหาว่า ร.ร.พระปริยัติธรรม โกงกินเงิน ขอย้ำว่าพระไม่มีสิทธิ์ทำ แต่อาจจะมีกรณีที่ว่ามี พระภิกษุ สามเณร บางรูปสึกออกไปกลางครันถ้าจะเอาเงินคืนก็เอาคืนไป 
แต่ถามว่า "โรงเรียนฆราวาส" เคยคืนหรือไม่ ในเมื่อมันเป็นงบที่จ่ายขาดไปแล้ว?

สืบเนื่องจากแถลงการณ์

พระสังฆาธิการไม่รับเงินอุดหนุนฯ ต่อต้านพฤติกรรมปากปราศรัยน้ำใจเชือดคอ ?

ปรากฏว่าข้อความส่วนหนึ่งในบทแถลงการณ์ ซึ่งพาดพิงถึงท่าน ผอ. ว่า

“ให้ข่าวเสมือนพระสังฆาธิการได้ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติทุจริตเงินอุดหนุนฯ ”

ยอมรับว่ามันเป็น ความอึดอัดใจของคณะสงฆ์ทั่วประเทศ ว่านี่คือการส่งเสริมพระพุทธศาสนา หรือทำลายภาพลักษณ์กันแน่? 

โดยฐานะหน้าที่ของ ผอ.พศ. คือการสร้างประโยชน์ ประสาน ประชาสัมพันธ์ เป็นกันชนไม่ให้คนเข้ามาโจมตีพระสงฆ์

ย้ำว่า ผอ.สำนักพุทธ ไม่มีสิทธิ์มาตัดสินพระ แต่ ณ ปัจจุบันดูเหมือนมาเป็นมือปราบเสียเอง?

ที่ผ่านมาพระสังฆาธิการทำงานร่วมกับสำนักพุทธฯ แบบพระให้เมตตาธรรม มีมือเปล่าไปจัดกิจกรรมงานสำคัญต่างๆ 

พระท่านก็ให้เกียรติ ให้บทบาท ช่วยเหลือทั้งส่วนตัวและส่วนราชการ แต่ปัจจุบันความสัมพันธ์ขาดลงแล้ว เพราะอะไรไปคิดกันเอาเอง

กรณีที่ ผอ. อยากสอบสวนข้าราชการตัวเองว่า ฉ้อฉลโกงกิน ก็ควรทำเป็นการภายใน ไม่ใช่แถลงข่าวผ่านสื่อโดย เปิดเผยข้อมูลให้คนมาโจมตีคณะสงฆ์ อย่างสาดเสียเทเสีย มันเป็นการ กัดกร่อนศรัทธาชาวพุทธ

ถามว่า...โดยกติกา มารยาท มันเป็นหน้าที่ของ ผอ. หรือไม่ แล้วใครควรจะออกมารับผิดชอบ?



ถ้าวัดไม่โกง โปร่งใส 

แต่ทำไมไม่โชว์บัญชีวัด

หากอยู่ดีๆ มีคนมาขอดูเงินในบัญชีครอบครัวคุณ คุณจะให้เขาดูไหม?

ถ้าสงสัยว่ามีการทุจริตก็ไปทำเรื่องสอบสวนมา กรณีเงินเป็นของหลวงสามารถแจ้งหน่วยงานรัฐ ซึ่งอาจจะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบขึ้นมา

วัดเป็นนิติบุคคล มีอนุโมทนาบัตร มีคณะกรรมการบริหารวัด ไม่มีพระรูปไหนบวชเข้ามาเพื่อโกงกินเงินวัด มีแต่มาทำความดี บูรณะวัดจัดการศึกษาฟรี ขนาดนิตยภัตที่รัฐบาลตั้งมาให้ พระยังสละรูปละ 1 เดือนไว้เป็นกองกลางยามวัดมีภัย 

เรื่องรายรับรายจ่ายเป็นสิทธิของวัด การนำเงินออกมาใช้จ่ายก็มีคณะกรรมการ มีไวยาวัจกรดูแลตรวจสอบกันเป็นการภายใน ไม่ใช่อยู่ดีๆ จะมาโจษอาบัติปราชิกพระด้วยข้อหาเรื่องเงิน




ส่วนบุคคลที่รังเกียจวัด

ยิ่งไม่ไม่สิทธิโวย เพราะไม่ได้ทำบุญกับวัดอยู่แล้ว!


วาทกรรมพระอมเงินวัด ยักยอกเงินทำบุญ?

มีที่ไหนในโลกนี้ที่ไม่มีการโกง แม้แต่ข้าราชการก็มีคนโกง “เจ้าอาวาสรูปไหนโกง อยู่ไม่ได้สักองค์ เลขานุการวัดโกง ไวยาวัจกรอมเงิน อยู่ไม่ได้หรอก” 

ชาวบ้านกับพระในวัดทำหนังสือร้องเรียนได้ จะมีการตรวจสอบกันตามลำดับ แต่ต้องปิดเป็นความลับจนกว่ากระบวนการจะสิ้นสุด การมาชี้เป้าว่าตำรวจจะบุกที่นั่น วันนั้นวันนี้ไม่ใช่สิ่งที่ควรทำ

ส่วนการวิพากษ์วิจารณ์สามารถทำได้ 

แต่ถ้าวันหนึ่ง คุณตกเป็นจำเลยสังคม แล้วจะรู้ว่าเจ็บปวดที่สุด สิ่งที่อาตมาพูดคือเสียงสะท้อนของคณะสงฆ์ต่อรัฐบาล ห่วงว่าจะเป็นไฟสุมขอน.!



อ่านบทความฉบับสมบูรณ์ได้จาก 
➤สาวปมขัดแย้งวงการผ้าเหลือง จากอุณหภูมิร้อน ‘เงินทอนวัด’ สู่แถลงการณ์เมินงบสำนักพุทธฯ
https://www.matichon.co.th/news/599862
➤เจ้าคุณพิพิธ เผยสังฆาธิการ คว่ำบาตรสำนักพุทธฯ บอกสัมพันธ์สะบั้นเพราะอะไรคิดเอาเอง https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=10156434388467729&id=200355362728

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก
Matichon online
ไทยรัฐออนไลน์
ไทยโพสต์ออนไลน์
manager online
http://www.77jowo.com
เจ้าคุณพิพิธ กระเทาะปมพระคว่ำบาตร ผอ.มือปราบแห่งชาติ เจ้าคุณพิพิธ กระเทาะปมพระคว่ำบาตร ผอ.มือปราบแห่งชาติ Reviewed by สารธรรม on 04:10 Rating: 5

12 ความคิดเห็น:

  1. กราบนมัสการพระเดพระคุณเจ้าคุณพิพิธเจ้าค่ะ

    #ขอเขียนข้อความถึงกลุ่มพศและพวกทุกคนโดยมีไพบูลย์วิษณุฯลฯ
    #ท่านได้จัดเที่ยวทัวร์พิเศษประเทศ(นรก)แน่นอนท่าน

    ตอบลบ
  2. เป็นเจ้าหน้าที่ที่ลืมตัวทึ่สุด สร้างความเดือดร้อนให้คณะสงฆ์ไปทั่วเลย ไปตรวจมะเร็งในสนพก่อนเถอะคะ

    ตอบลบ
  3. กราบนมัสการท่านเจ้าคุณพิพิธเจ้าค่ะ ขอกราบขอบพระคุณที่ท่านออกมาชี้แจงความจริงให้ปชช. ได้รับทราบไม่หลงเหยื่อของสื่อที่นำเสนอโจมตีพระ เมิ่อจนท.บางคนในสำนักพศ.ทุจริต ก็ควรลงโษตามความผิด ไม่ใช่พยายามยัดเยียดความผิดให้พระ เงืนวัดสาธุชนจบหัวอธิษฐาน รัฐไม่มีสิทธิ์ตรวจสอบม เพราะไม่ใข่เงินภาษี

    ตอบลบ
  4. นี่แหละที่มาจากเหตุของเรื่องที่ฆารวาสไม่แยกแยะเรื่องต่างๆแล้วม่ลุ่มด่าว่าพระสงฆ์ ไม่พอยังด่าเหม่รวมออกสื่อให้ยาติโยมเข้าใขพระผิดๆ แล้วยาติโยมก็ลุ่มด่าว่าพระ ถ้า ทางพศ.ชี้แจงแก้ไขเรื่องตรงจุดตรงประเด็น อะไรๆ ก็จะไม่บานปลายอย่างนี้ เมื่อเจ้าหน้าที่ข้าราชการทุจริต ก็ต้องไปแก้ไขตรงนั้น ไม่ใช่เหมาพระไปด้วยพระเป็นเหยื่อของการทุจริตไม่เกี่ยวกันเลย ถ้าพศ.ไมรีบแก้ไขจุดข้าราชการของตัวเอง เห็นทีว่าเรื่องจะไม่จบง่ายๆ

    ตอบลบ
  5. ผู้ควรแก่การคว่ำบาตร

    ชาวพุทธที่หากเป็นคนไร้ศรัทธาในศาสนาของตน เมื่อพบเจอสื่อเสนอข่าวเกี่ยวกับพระในทางไม่ดี การพูดการวิจารณ์พระสงฆ์ก็เป็นไปในทางโทสะ จ้องแต่จะหาโทษโดยไม่สืบสาวสาเหตุแท้จริงก่อน ก็น่าเสียดายที่เกิดมาพบพระพุทธศาสนา (แต่เป็นพุทธเพียงทะเบียน) ซึ่งเป็นศาสนาของผู้รู้ที่พบเจออะไรก็ต้องมีโยนิโสมนสิการคือคิดสืบสาวมองหลายมิติและรักษาจิตของตนให้อยู่ในคลองของกุศล จึงสมเป็นชาวพุทธ(ผู้รู้)

    การที่คณะสงฆ์คว่ำบาตร ก็ได้ทำตามคำสอนของพระบรมศาสดาไว้แล้ว คือ
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สงฆ์พึงคว่ำบาตรแก่อุบาสกผู้ประกอบด้วยองค์ ๘ คือ :-
    ๑. ขวนขวายเพื่อมิใช่ลาภแห่งภิกษุทั้งหลาย
    ๒. ขวนขวายเพื่อมิใช่ประโยชน์แห่งภิกษุทั้งหลาย
    ๓. ขวนขวายเพื่ออยู่ไม่ได้แห่งภิกษุทั้งหลาย
    ๔. ด่าว่าเปรียบเปรยภิกษุทั้งหลาย
    ๕. ยุยงภิกษุทั้งหลายให้แตกกัน
    ๖. กล่าวติเตียนพระพุทธเจ้า
    ๗. กล่าวติเตียนพระธรรม
    ๘. กล่าวติเตียนพระสงฆ์.
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้คว่ำบาตรแก่อุบาสกผู้ประกอบด้วยองค์ ๘ นี้.
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แล สงฆ์พึงคว่ำบาตรอย่างนี้ ภิกษุผู้ฉลาด ผู้สามารถ พึงประกาศให้สงฆ์ทราบด้วยญัตติทุติยกรรมวาจา

    ทีนี้พวกเราชาวพุทธก็ลองมาเปรียบเทียบดูซิว่า การกระทำของสำนักพุทธตั้งแต่เปลี่ยนเป็นคนใหม่นี้ สมควรที่คณะสงฆ์จะคว่ำบาตรหรือไม่ ชาวพุทธทั้งหลายหากยังเชื่อในคำสอนของพระบรมศาสดาตน ไม่มีอคติในภิกษุสงฆ์ และมองคณะสงฆ์ด้วยปิยจักขุ(สายตาอันมีจิตไมตรี)เหมือนมองดูคนที่เราเคารพรัก ท่านทั้งหลายก็จะได้คำตอบที่ถูกต้องเอง

    ตอบลบ
  6. สมควรแล้วแหละ เพราะทำอะไรไม่เคยปรึกษาคณะสงฆ์ หน้าที่ตัวเองทำไม่ถูกต้อง หน้าที่ที่แท้จริงคือสนองงานคณะสงฆ์ ไม่ใช่ทำอะไรตามอำเภอใจ

    ตอบลบ
  7. ขอกราบถวายกำลังใจแด่พระคุณเจ้าที่ออกมาคว่ำบาตรกลุ่มคนบาปเหล่านี้

    ตอบลบ
  8. กราบเห็นด้วยอย่างยิ่งครับ

    ตอบลบ
  9. ผู้นำดีเป็นศรีเชิดชูหน้า
    ผู้นำบ้าเอาหน้ามุดดินหนี
    ผู้นำคนอดทนรู้ชั่วดี
    ผู้นำผีชั่วดีไม่สนใจ
    ชาติจะดีคนดีมีศีลธรรม
    ชาติตกต่ำผู้นำทำเสียหาย
    ชาติจะดีผู้นำดีเรื่อยไป
    ชาติสลายหายสิ้นเพราะผู้นำ
    ถ้าคิดดีทำดีมีสิทธิ์ช่วย
    ถ้าคิดห่วยทำห่วยซวยซ้ำซ้ำ
    ถ้าคิดใหม่ทำใหม่ใส่ใจทำ
    ถ้าคิดนำคุณธรรมทำชาติเจริญ...

    ตอบลบ
  10. ข้าราชการแสดงหาประโยชน์จากวัด ควรให้ความยุติธรรมกับวัด ไม่ใช่เอาผิดกับวัดค่ะ

    ตอบลบ
  11. ที่สร้างความเสียหายให้กับรัฐก็คือข้าราชการ พศ.ที่ทุจริตเงินงบประมาณอุดหนุนวัด แต่การสร้างกระแสออกข่าว จงใจใส่ชื่อวัด ทำให้วัดต่างๆ เสียหาย ทั้งๆ ที่ความจริง วัดดังกล่าว ตกเป็น "เหยื่อ" ของ ขรก.พศ. ที่เอางบมาให้เยอะๆ แล้วเรียกเงินคืน จึงได้ชื่อว่า "เงินทอน"
    วัดเป็นผู้เสียหาย ไม่ใช่ผู้ร้าย เพราะฉะนั้นการเอ่ยชื่อวัดต่างๆ ก็ควรจะชี้แจงให้ถูกต้องด้วย อย่าทำให้สังคมเกิดความสับสนและเข้าใจผิดว่า พระมีส่วนรู้เห็นเป็นใจ
    การออกข่าวดังกล่าวนี้จึงทำให้ เกิดกรณี ที่พระสังฆาธิการออกมาคว่ำบาตรไม่ขอรับงบประมาณสนับสนุนวัดจาก พศ.

    ตอบลบ
  12. ทุกการกระทำของคนเรา ถ้าพูดดี ทำดี คิดดี เกิดเป็นบุญ และสิ่งดีๆในชีวิต แต่ถ้าพูดไม่ดี ทำไม่ดี คิดไม่ดี เกิดเป็นบาป และสิ่งร้ายๆในชีวิต ไม่มีใครหนีกฎแห่งกรรมพ้นเอย.

    ตอบลบ

ขับเคลื่อนโดย Blogger.