บุกจับพระธัมมชโย! เจ้าคุณเบอร์ลินจี้ฤาแผนหมกเม็ด พรบ.สงฆ์ ม.7 นายกฯตั้งสังฆราช? : กรณีธรรมกาย

ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

สถาบันหลักของชาติ 

แยกร้าวฉานถึงฐานราก


บทความเพื่อความมั่นคง
ของสถาบันประเทศ
บทความนี้ มีทั้งหมด 2 ภาคนะครับ
ไม่ต้องรำมวยมาก ขออนุญาต
เข้าเรื่องเลยนะครับผม



สถานการณ์โดยรวม 

ของพระศาสนา ในวินาทีนี้ 

ยังวางใจอะไรไม่ได้ทั้งสิ้น.!

    ภาคที่ 1   

วันนี้ ผมเจ้าคุณเบอร์ลิน ขอบอกว่า
หลังจากผมได้สนทนาแลกเปลี่ยนทัศนะ
กับผู้หลักผู้ใหญ่ ผู้รักแผ่นดินไทยจริงๆ
ด้วยใจ ไม่ใช่ด้วยปาก ซึ่งมีทั้งฝ่ายสงฆ์
และฝ่ายคฤหัสถ์ ตลอดมาอย่างต่อเนื่องแล้ว
ทุกคนต่างล้วนรู้สึกตรงกัน
นั่นคือเกิดความรู้สึก..

"เป็นกังวลต่อสถานการณ์ 
ของสถาบันหลักของไทยอย่างยิ่ง"

ในอารมณ์ที่เป็นยังไง ก็บอกไม่ถูกครับ.!
เกิดมาก็เพิ่งเป็นแบบนี้ครั้งแรก

ยิ่งเห็นข่าวจากเมืองไทยว่า DSI 
และ ฯพณฯไพบูลย์ ที่ได้ตั้งหน้า
ตระเตรียมกองกำลัง เพื่อจะบุกจับ 
ท่านธัมมชโย!

ให้ได้ ก็ยิ่งให้รู้สึกว่า ..

"ศาสนาบ้านเมืองเรานี้ ฤๅจักถึงกาลวิบัติ
ย่อยยับลง ณ บัดนี้เสียแล้ว 
ด้วยไม่เคยมียุคไหน สมัยไหนที่จะ 
เหตุการณ์มันเป็นได้ถึงเพียงนี้"

   เกิดผลกระทบเป็นลูกโซ่     
       สิ่งที่ไม่อยากให้เกิด        

        แต่มันคือความจริง.!     

สถาบันศาสนา สถาบันพระมหากษัตริย์
เป็นฐานรากของชาติไทย เป็นรากเหง้า
แห่งความเป็นชาติไทยทุกๆ ด้าน
มาแต่โบราณนั้นสิ่งนี้..
ถือเป็นความภูมิใจของชาติไทย
ที่ไปที่ไหนในโลกนี้ ก็แตกต่างจากชาติอื่น
คือการที่ชาติไทยมีสถาบันศาสนา
และสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่เคียงคู่กัน
ตลอดมายาวนาน ต่างเกื้อกูล ส่งเสริมกัน

มาบัดนี้สถาบันหลัก อันถือเป็นความมั่นคง
ของชาติ ได้ถูกผลกระทบอย่างรุนแรง
จนแตกร้าวฉานไปถึงฐานรากแก้ว
ที่จริงผมก็ไม่อยากจะพูดว่า..

อันชาติ คือ ประชาชนนั้น 
ถึงวันนี้ มันได้ถูกทำให้แตกแยก
ออกเป็นเสี่ยงๆ เพราะน้ำมือคนไทยเอง
มานานแล้ว ทุกวันนี้เห็นได้ทั่วว่า 
เพื่อนทะเลาะเพื่อน ญาติพี่น้อง
บ้านเดียวกัน ถึงกับมองหน้ากันไม่ติด
ในสังคมนอกบ้าน ต่างคนต่างก็ใช้สื่อ 
ที่มีอยู่ในมือ ทำการปลุกปั่น 
สร้างความเกลียดชังระหว่างกัน 
และกัน อย่างต่อเนื่อง

เหล่านี้มันเกิดขึ้นแล้ว ในสังคม
ที่ยิ่งกว่ายุคไหนๆ
จนถึงขนาด จิตวิญญาณ อันอ่อนโยน
ของผู้คนในสังคม อันถือเป็นเอกลักษณ์
ของคนไทย ที่ถูกหล่อหลอมขึ้นจาก
สถาบันศาสนา ซึ่งต่างชาติ
ก็ยังยกย่อง ให้เกียรติ

มาบัดนี้สิ่งเหล่านี้ มันได้แหลกละเอียดลง
แตกย่อยยับไปจนแทบหมดสิ้นแล้ว
ถึงจุด ณ บัดนี้ เหมือนมันมีเหลือ
แต่เพียงความอาฆาตแค้น ชิงชัง
ซึ่งกัน และกัน เข้ามาแทนที่


ความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้.!

อุบัติการณ์ดังกล่าวนี้ ยังได้ลุกลาม
เข้ามาถึง สถาบันพระศาสนา
ที่เสมือนคอยเป็นสื่อกลาง
สมานจิตใจของผู้คน ไปแล้วด้วย
ซึ่งแน่นอน ที่จะต้องหลีกเลี่ยงไม่ได้คือ

"ย่อมจะมีผลกระทบ และสั่นคลอน
ไปถึง สถาบันพระมหากษัตริย์ 
อันเป็นที่เทิดทูน ของคนไทยทุกคน 
อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้อีกด้วย"

เนื่องจากพระพุทธศาสนานั้น
ถือเป็นหนึ่งในสถาบันหลักของชาติไทย
ทั้งยังผูกโยงอยู่กับ สถาบันพระมหากษัตริย์
อย่างแนบแน่นนับแต่โบราณมาแล้ว อีกด้วย
ทั้งนี้ เราต้องยอมรับความจริงกันเสียทีว่า

ในขณะนี้.. สถาบันพระศาสนา 
ได้ถูกกระทบอย่างรุนแรงที่สุด 
มากกว่ายุคไหนๆ ที่ผ่านมา.!

ที่ซ้ำร้าย.. ที่ถือเป็นความโชคร้าย
ของประเทศในปัจจุบัน นั่นคือ..

"ผู้หลัก ผู้ใหญ่ ในบ้านเมืองเอง 
ก็ไม่ใส่ใจที่จะแก้ไขอะไรเลย
ทั้งยังดูเหมือน จะมีส่วนในการสร้าง 
ความสับสน ไปเสียเองอีกด้วย
จนเป็นห่วงกังวลว่า จะกระเทือนไปถึง 
สถาบันชาติ และสั่นคลอนไปถึง 
สถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นที่สุด"

หน่วยงานรัฐอาจสร้างปัญหาเสียเอง 
เตือนกันก่อนที่จะถลำลึกไปกว่านี้.!

ขอยกตัวอย่างในกรณี ของกฤษฎีกา
ที่วันนี้ ผมก็ไม่รู้ว่าพวกท่านเกิดไปกินยาผิด
ขนานไหนขึ้นมาก็ไม่ทราบ ทำให้เหมือน
ลืมหน้าที่ตนเอง

มาวันนี้.. 
กลับพากันพยายามที่จะหาทาง
มาตีความ มาแก้ไขพระราชบัญญัตติ 
คณะสงฆ์ มาตรา 7 แบบชนิด
ปัจจุบันทันด่วนไปเสียงั้น.!

ที่แม้แต่คณะสงฆ์ ซึ่งเป็นเจ้าของเรื่องเองแท้ๆ
ท่านก็ยังไม่รู้เรื่องรู้ราวมาก่อนด้วยซ้ำ
ทำเช่นนี้ เบื้องต้นก็เห็นมีแต่บรรยากาศ
แห่งความหวาดระแวงเกิดขึ้น
แล้วอย่างนี้จะเอาความไว้ใจซึ่งกันและกัน
มาจากไหนละครับ จะอยู่กันได้อย่างไร
ซึ่งผมพิจารณาดูเหตุผลแล้วยังไง
ก็คงหนีไม่พ้น ที่จะมีก็เพียงแค่เพื่อ ..

"จะสกัดการสถาปนา
สมเด็จพระสังฆราช เท่านั้นเอง"

ซึ่งไม่แน่ หากสามารถแก้ไขมาตรา 7 ได้
ก็คงเป็นบันไดก้าวไปสู่การรื้อระบบ
การปกครองสงฆ์ทั้งระบบ ก็เป็นได้.!

        อย่านึกนะครับว่า       

   "พระท่านตามไม่ทัน"    

อยากถามว่า... มันเกิดอะไรขึ้น?
กับยุคนี้สมัยนี้ไปหมดครับ
มีผีห่าซาตานอะไรมันมาสิง?

พวกท่าน ทราบหรือไม่ว่า..
การกระทำเช่นนี้มันคือ

"ลางร้าย และเป็นหายนะ
ของประเทศอย่างรุนแรง"

มันเป็นการสร้างความแตกร้าว
ให้สถาบันหลัก..
คือ สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
อย่างเกินที่จะเปรียบไปแล้ว
ไปพิจารณากันดีๆ ก็แล้วกัน


พระมหากษัตริย์ 

ได้ทรงมีเจตนาที่จะถวาย 

พระราชอำนาจของพระองค์

แก่สงฆ์ให้ปกครองกันเอง.!

เรื่องที่ไม่ต้องตีความแบบนี้ 
ผมก็อยากจะถามว่า ..
ก็ทำไมละครับ ในเมื่อพระมหากษัตริย์ 
พระองค์ท่านได้ทรงพิจารณา ไตร่ตรอง
โดยรอบคอบแล้วและได้ทรงมอบ 
อำนาจการปกครองสงฆ์ของพระองค์
ให้แก่พระสงฆ์ไปแล้ว

ทั้งยังทรงมอบให้คณะสงฆ์ปกครองกันเอง
ตามพระธรรมวินัย ภายใต้กฏหมาย
คือพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ที่ทรงตราขึ้น
และยังทรงมอบอำนาจให้คณะสงฆ์ ..

"ได้พิจารณาเลือก
ผู้นำสงฆ์กันเองไปแล้ว"

และหลักนี้ ก็ยึดถือแบบนี้กันมาตลอด
นับแต่โบราณมาแล้ว อีกทั้งคณะสงฆ์
ก็ยึดพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ปกครองกันเอง
อย่างปกติสุขมาต่อเนื่อง
ทั่วในสังฆมณฑลมายาวนาน
เป็นลักษณะการปกครองที่เป็นเรื่อง

     "เฉพาะสงฆ์"     

เพราะเนื่องด้วยพระธรรมวินัยอีกขั้นหนึ่งด้วย
เรื่องเช่นนี้ ทุกอย่างก็ไม่เห็นจะมีปัญหา
อะไรเลยนี่ครับ หรือมันยากใน
การเข้าใจมากมายกันหรือไงครับ
นายกบิ๊กตู่ที่เคารพ.
ชักเริ่มจะหมดอารมณ์พูดต่อแล้วละครับ.!

ฤๅ ณ วันนี้ มันมีใครกำลังคิด
การใหญ่ในแผ่นดินนี้อยู่
เรื่องการปกครองสงฆ์นั้น
ง่าย ๆ ก็ขนาดพระมหากษัตริย์เอง
พระองค์ท่าน ก็ยังทรงไว้วางพระราชหฤทัย
ให้คณะสงฆ์ปกครองกันเอง
ด้วยทรงเห็นว่า มีพระธรรมวินัย
เป็นหลักดีอยู่แล้ว ทั้งยังตรา พรบ.
กำกับไว้ชัดเจน เพื่อกันไว้อีกชั้น
อย่างรอบคอบดีแล้ว

ดังนั้นตรงนี้ ก็ต้องถามดังๆ
ในแผ่นดินนี้ว่า..

แล้วคุณเป็นใครหรือคุณ 
"คณะกฤษฎีกา"
ทำไมคุณจึงคิดบังอาจ 
ที่จะมาก้าวล่วงละเมิด
พระราชอำนาจนี้เสียเองด้วยเล่า
พวกคุณพากันคิดอะไรใ
นใจอยู่หรือครับ?

เหตุผลทำไมต้องตีความ
สมมติ กฤษฎี จะตีความว่า ..

"ต้องให้นายกรัฐมนตรี 
เป็นผู้เสนอนาม
สมเด็จพระราชาคณะ 
เพื่อเสนอตั้งพระสังฆราช"

หากเป็นเช่นนี้จริงๆ ก็ต้องถามว่า ..
มันจะไม่เป็นการที่ตัวนายกรัฐมนตรีเอง
ได้ไปก้าวล่วงละเมิดพระราชอำนาจ
ของพระมหากษัตริย์เสียเอง
หรอกหรือ?




สำคัญสุดเช่นนี้ ขอให้ท่านกฤษฎีกา
จงตอบมาให้ชัดๆ เสียก่อน
หากคิดจะแก้ตรงนี้.!

มิเช่นนั้น ขอบอกตรงนี้สั้นๆ
ก่อนว่า..


    "เรื่องใหญ่ตามมาแน่"   

ทำไมละครับ ก็ในเมื่อพระมหากษัตริย์
พระองค์ท่านได้ทรงมอบให้สงฆ์
ปกครองกันเองไปแล้ว.!
ก็ย่อมชัดเจนว่า..

"ไม่ได้ทรงมอบให้
นายกรัฐมนตรีมาปกครองสงฆ์ 
และไม่ได้ทรงมอบให้
นายกรัฐมนตรีเลือกประมุขให้สงฆ์"

หาเหตุผล..มาตอบซิว่า
มันมีตรงไหนที่เกินจากตรงนี้ไป
ชัดๆ แจ้งๆ แบบนี้ ยังจะมาตีความกันอีก
เพื่ออะไรกันครับ?

พระราชอำนาจ จะต้องศักดิ์สิทธิ์
เหนือสิ่งอื่นใด.!
อำนาจการสถาปนา 
สมเด็จพระสังฆราชนั้น
ในเบื้องต้นแห่งการเริ่มต้น
ย่อมเป็นไปตามพระราชอำนาจ
ที่ทรงมอบให้แก่ สงฆ์ปกครองกันเอง
และเจตนาเพื่อเลือกประมุขสงฆ์
กันเองในขั้นแรก

โดยมีขั้นตอน..
ที่ผ่านพระราชบัญญัติคณะสงฆ์
ซึ่งทุกอย่างก็ชัดเจนอยู่แล้ว
มาวันนี้ ทำไมยังมีคนบางกลุ่ม
ที่ได้ร่วมกันวางแผน เพื่อพยายาม
ล่วงละเมิด ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
อย่างต่อเนื่อง ทำไมครับ.?

แถมมุ่งพยายามมาสร้างความร้าวฉาน
ขึ้นในสถาบันสงฆ์ ที่มีพฤติกรรม
สร้างความกังขาแก่สังคมว่าเหมือน


  "ไม่ใช่คนไทย

    ไม่ใช่คนพุทธ"  

แถมยังมีพฤติกรรมลามปาม
ถึงขนาดพยายามแยก เพื่อไม่ให้
สถาบันพระศาสนา มายึดโยงกับ
สถาบันพระมหากษัตริย์ไปโน้น
พฤติกรรมเช่นนี้ จะเป็นการสร้าง
ความแตกร้าวของชาติ อย่างร้ายแรง
ยากแก่การเยียวยาไปทุกวันอย่างแน่นอน
ก็ต้องถามดังๆ อีกครั้งว่า..

"พวกคุณกำลังคิดอะไรกันในใจ
หรือครับ? หรือกำลังคิดการณ์ใหญ่
เพื่อทำร้ายประเทศชาติกัน"

คำถามสำคัญของสังคม.??

ทุกวันนี้ผู้คนในสังคม เกิดความ
คลางแคลงสงสัยกันว่า..
เรื่องสำคัญขนาดนี้ ก็ในเมื่อ
ทั้งๆ ที่รู้อยู่ว่าอะไรเป็นอะไร
แต่เหตุใด..

ท่านนายกรัฐมนตรี
ซึ่งเป็นทหารที่มีหน้าที่
ซ้อนหน้าที่อยู่นั้น.!
ซึ่งท่านจะต้องสละชีพเพื่อปกป้อง
สถาบันหลักของประเทศ
ดังคำที่เปล่ง ต่อหน้าธงชัยเฉลิมพล
ต่อหน้าพระพักตร์..
ของทหารทุกท่านไปแล้วนั้น.!

มาวันนี้แล้วทำไม ท่านนายกรัฐมนตรี ..
จึงยังปล่อยให้คนเหล่านี้
ได้ทำเรื่องชั่วร้ายอย่างยิ่งเหล่านี้
ต่อแผ่นดิน อย่างซ้ำซาก
ได้เล่าครับทำไม?

     ทำไม.. ไม่ออกมาปกป้อง    

    สถาบันหลักของประเทศ.?   

ฤๅ คิดจะใช้จะแผน ลับ ลวง พลาง
แบบชั่วๆ แม้แต่กับพระสงฆ์ก็ไม่เว้น.!
มีกลุ่มคนที่มองเกมส์
ข้ามช๊อตไปอีกขั้น ได้ตั้งข้อสงสัยว่า..

"หรือวันนี้.. การดำเนินการสารพัด
กับท่านธัมมชโย นั้นเป็นการ
กลบกระแสการแก้ไข มาตรา 7
แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์
ถึงที่มาของสมเด็จพระสังฆราช"

พยายามหาเหตุ เพื่อเบี่ยงกระแส
หลบหลีก "เป้าหมายหลัก"
ทำให้คนไปมุ่งจับจ้อง "เป้าหมายรอง"
เพื่อจะได้แก้ไขมาตรา 7
ได้สะดวกหรือไม่?

พราะหากสามารถแก้ไขมาตรา 7 
ได้ก็ไม่ต้องพูดถึงการ รื้อระบบ
การปกครองสงฆ์หมดทั้งระบบ
อันจะนำมาซึ่งความอ่อนแอ
ของคณะสงฆ์ตามมา.!

หากเช่นนั้นจริง.!
คราวนี้สถาบันพระศาสนา
ก็คงเหลือเพียงตำนานไว้ให้ลูกหลาน
ได้เล่าขานเป็นแน่แท้แหละ
พี่น้องชาวพุทธไทยเอ๋ย..

เรื่องที่ผมตั้งข้อสังเกตกันนี้
หากจริงดังว่า..
ก็ภาวนาว่า ขออย่าได้ให้สังคม
เขาทราบกันนะครับว่า..เรื่องนี้จริงๆ แล้ว
มันเป็นแผนการชั่วร้ายที่สร้างถูกขึ้น
มาบังหน้าเท่านั้น.!
เมื่อถึงวันนั้น ผมไม่อยากคิดแทน
เลยครับว่า


   "อะไรมันจะเกิดตามมา"   

ทำไม ?
อยากชี้จุดให้ชาวพุทธได้จับตาดู
การออกหมายจับ ท่านธัมมชโย
มาพร้อมกับข่าวที่เล็ดลอดออกมาว่า..

"กฤษฎีกา กำลังพิจารณา
เพื่อตีความแก้ไข มาตรา 7
จึงเป็นเรื่องน่าคลางแคลงสงสัยยิ่ง"

เบื้องต้น เห็นได้ชัดว่ามีความพยายาม
ที่จะแก้ไขมาตรา 7 อย่างต่อเนื่อง
ซึ่งไม่ว่า จะแก้ไขไปอย่างไร
ผลที่ออกมาก็คือ ..

"กูไม่เอาสมเด็จวัดปากน้ำ
เป็นพระสังฆราช"

เท่านั้น! เป็นเช่นนี้ใช่ไหมครับ
ท่านผู้มีอำนาจทั้งหลาย.?

ชาติจะย่อยยับ เพราะสิ่งนี้..
เมื่อพิจารณาโดยถี่ถ้วนแล้ว
ผมก็เห็นมีแต่ สิ่งเดียวนี้เท่านั้น
ที่เป็นเหตุผล ที่เจ้าคุณเบอร์ลิน
จะขอบอกว่า ..

"จะทำให้ชาติแตกเป็นเสี่ยงๆ
เพราะฐานรากของชาติ
คือ ศาสนานั้นเอง ลองถ้าศาสนา
ได้แตกเสียแล้ว
สถาบันพระมหากษัตริย์
ซึ่งกำลังถูกคนกลุ่มนี้ล่วงละเมิดอยู่นั้น
ก็จะมีผลกระทบไปด้วยแน่นอน"

ตรงนี้ ผมขอให้ผู้เกี่ยวข้อง
จงได้จดคำพูดของผม
ที่กล่าวข้างต้นนี้ไว้..
ขอให้หน่วยงานความมั่นคง
กรุณาไปเขียนปิดประกาศ
ท่องกันไว้ได้เลยครับ.!
แล้วในอนาคตท่านจะแจ้งเองว่า
มันเป็นดังที่ผมเคยเตือนไว้ในวันนี้หรือไม่.?

ทำไม ? จึงหน้ามืดตามัวกันได้ถึงขนาดนี้.!
ผมขอเป็นตัวแทนคณะสงฆ์ไทย
ทั้งประเทศถามภาครัฐทุกส่วนว่า..
"ผีห่าซาตานอะไรมันมา
ปิดหูบังตา หรือครับ ที่ทำให้ภาครัฐ
เกิดมืดมิด ไปหลงเชื่อว่า ..

"คณะสงฆ์เป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐ"

จนเชื่อสนิทว่า ..

"คณะสงฆ์ เป็นอันตราย
ต่อความปลอดภัยของรัฐ"

ว่าง ๆ ทีมงานนายกรัฐมนตรีก็ได้
จงช่วยอธิบายสังคมทีครับ
       อันลางร้ายสุดประมาณ      

   ที่เชื่อเช่นนี้พวกท่านภาครัฐ   

   รู้ไหมครับว่า..   

"ในวันนี้ มันได้ตั้งเค้าขึ้น
ในหัวใจพระสงฆ์ทั้งประเทศ
และชาวพุทธ ผู้รักพระพุทธศาสนา
ทั้งโลกไปแล้ว"
ผมบอกได้คำเดียวว่า..

   อันตราย   อันตรายยิ่ง!    

ถึงวันนี้ ขอบอกไปยังภาครัฐว่า..

"ต้องตั้งหลักไว้ดีๆ 
ตั้งสติให้มั่นคง"

จงเลิกถูกพระบ้าการเมือง
กับ แก๊งค์ และทิดด๊อกเตอร์
อะไรเพี้ยนๆ นะหลอกเอาได้แล้วครับ.!

มิเช่นนั้น ระบบทั้งหมดของประเทศ
มันจะพังพินาศย่อยยับไป
ผมคงพูดได้แค่นี้แหละครับ
ไปคิดต่อเอาเอง.!

สุวรรณภูมิ 

เมืองพุทธศาสนาโลก

หรือจะเหลือเพียงอดีต

หากขัดแย้งไม่รู้จบ

บทบาท และความสำคัญ
ของพระสงฆ์ต่อสังคมไทย

ทั้งๆ ที่ประเทศชาตินี้เมืองนี้
แต่โบราณมา..

สถาบันพระศาสนา โดยมีพระสงฆ์
เป็นตัวขับเคลื่อน กับสถาบัน
พระมหากษัตริย์ ร่วมกันสร้างขึ้นมา
นับตั้งแต่ตั้งกรุงสุโขทัยมาถึงกรุงศรีอยุธยา
จนทุกวันนี้ ถือว่าเป็นชาติอันได้ชื่อว่า
"เมืองพุทธ"

ปรากฏเป็นเกียรติยศ ในปัจจุบัน
ที่ขจรไกลไปทั่วโลกจนได้รับ
การยอมรับว่า ประเทศนี้เมืองนี้
ได้ชื่อว่า..

          เป็นศูนย์กลาง         

    พระพุทธศาสนาโลก    

ซึ่งเมื่อชาวโลกพูดถึงประเทศไทย
ก็มักจะพูดถึงพระพุทธศาสนา
กับพระมหากษัตริย์ไปทุกครั้ง

แต่วันนี้ กลับมีกลุ่มคน 
"พยายามเสี้ยม"
ให้รัฐแตกร้าวจากสถาบันศาสนา
มันเป็นไปได้อย่างไร.?

ทั้งยังล่วงละเมิดก้าวล่วงเหิมเกริม
ไปจนถึง มีความพยายามที่จะให้
สถาบันพระศาสนา ได้แยกออก
จากการยึดโยงกับสถาบัน
พระมหากษัตริย์ให้ได้อีกด้วย


   ถามว่า..?  

   หน่วยงานความมั่นของชาติ   

ท่านไปนอนหลับอยู่ที่ไหนกันครับ
ท่านไม่รู้เรื่องแบบนี้บ้างหรือ..
หรือมีก้อนไขมันในสมองส่วนปัญญาท่าน
มันถูกคำหลอกลวงโกหกพกลม
จากปากของพระบ้าๆ
กับทิดดอกเตอร์เพี้ยนปิดบัง
กันหมดแล้ว.?
ตัวอย่าง ชัดเจนก็เช่นกรณี ..

ที่เกิดขบวนการที่พยายาม
เล่นเกมซ้อน ลับ ลวง พลาง
ไม่ยอมให้มีการสถาปนา
สมเด็จพระสังฆราช ให้เป็นไป
ตามพระราชบัญญัตติคณะสงฆ์
นั้นแหละครับ.!

และที่เลวร้ายยิ่งไปกว่านั้น ..
รัฐธรรมฉบับใหม่นี้ ก็ดันกลับ
ยิ่งดูเหมือนบิดเบี้ยว ผิดเพี้ยน
พยายามจะริดรอนสถาบันศาสนา
เข้าไปเสียอีกแม้จะมีพยายาม
อธิบายว่ามี "บทคุ้มครอง" ย่อยก็ตาม

จบก่อน เกรงจะยาวไป
ผมขอจบภาคที่ 1 เพียงแค่นี้ก่อนนะครับ
ส่วนภาคที่ 2 เกี่ยวกับรัฐธรรมนูญที่มาตัด
อนัมนิกาย จีนนิกายออกไป
ที่ผมเขียนไว้แล้วนั้น..
จะมีรายละเอียดเช่นไร โปรดตามต่อ
ในโพสต์หน้านะครับ
หากนำเอามาลงตรงนี้เลย เกรงจะยาวไป
จึงขอยกไปในโพสต์หน้าครับผม!


โชคดีมีชัยทุกท่านครับ
เจ้าคุณเบอร์ลิน
Berlin,den 28.05.2016

พลาดไม่ได้!
บทความ : เพื่อความมั่นคง
ของสถาบัน ตอนที่ 2
Click > ทุบพุทธมหายาน! 
            ตีกระทบธรรมกาย
ในร่างใหม่ รธน.ปู่ชัยจริงรึ?

ปฐมภาค 
Clickเสียงที่ DSI ต้องฟัง!
   ผศ.ร.ท.ดร.บรรจบ บรรณรุจิ
   & ชินวัฒน์ หาบุญพาด
          
ทวิภาค 
Clickเสียงที่ DSI ต้องฟัง!
อรรถชัย อนันตเมฆ & พานทองแท้ ชินวัตร
                         
ไตรภาค 
Clickเสียงที่ DSI ต้องฟัง!
  นพ.ประเวศ วะสี &ดร.สิโรจน์ คล้ามไพบูลย์                      

แนบภาพประกอบเรื่อง หนังสือท่านทูต
สุบรรณ เศวตมาลย์


เพราะความลับไม่มีในอากาศ
Talk--secret.blogspot.com

-----------------------------------












บุกจับพระธัมมชโย! เจ้าคุณเบอร์ลินจี้ฤาแผนหมกเม็ด พรบ.สงฆ์ ม.7 นายกฯตั้งสังฆราช? : กรณีธรรมกาย บุกจับพระธัมมชโย! เจ้าคุณเบอร์ลินจี้ฤาแผนหมกเม็ด พรบ.สงฆ์ ม.7 นายกฯตั้งสังฆราช? : กรณีธรรมกาย Reviewed by สารธรรม on 08:20 Rating: 5

10 ความคิดเห็น:

  1. แผนการชั่วร้ายสุดๆ ขอให้คนพาลแพ้ภัยตัวเองโดยเร็วไว

    ตอบลบ
  2. ขอบคุณที่แจ้งแผนการอันชั่วร้ายให้โลกรู้ คนไทยควรเปิดหูเปิดตาเพื่อช่วยพระศาสนาให้อยู่คู่กับสังคมไทยต่อไปนะคะ

    ตอบลบ
  3. พลังศัทธาของเราชาวพุทธเมื่อถึงคราวต้องปกป้องพระดีๆ เพื่อเป็นเนื้อนาบุญให้ลูกหลานสืบไป เพราะทนต่อความอยุติธรรมไม่ได้คงไม่ต่างกับในอดีตสมัยศึกบางระจันทั้งหญิงชายเด็กต้องออกมาปกป้องอย่างถึงที่สุด พวกไว้ศึกบ่อนทำลายประเทศมันจะไม่ได้อะไรไปง่ายๆแน่ถึงเวลาที่จะออกจากมุมมืดกันเสียที

    ตอบลบ
  4. คิดไดแบบเลวบริสุทธิ์จริงๆ

    ตอบลบ
  5. กราบอนุโมทนาบุญค่ะ ที่ท่านเจ้าคุณได้เขียนบทความที่มีประโยชน์เผยแพร่ให้ทุกคนได้รับรู้แผนการของผู้ไม่หวังดีต่อพระพุทธศาสนา ศาสนาพุทธต้องอยู่คู่ประเทศไทยและคู่โลกใบนี้ตลอดไปค่ะ

    ตอบลบ
  6. พวกมารศาสนาแผนมันน่ากลัวนะ
    เราช่วยกันอธิฐานให้ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ
    และอยู่คู่แผ่นดินไทยตลอดไป

    ตอบลบ
  7. สาธุ กับท่านผู้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ศาสนิกชนได้หวนกลับมาทบทวน ว่านี่เราเมืองพุทธ บัดนี้เราทำอะไรอยู่...

    ตอบลบ
  8. สาธุ กับท่านผู้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ศาสนิกชนได้หวนกลับมาทบทวน ว่านี่เราเมืองพุทธ บัดนี้เราทำอะไรอยู่...

    ตอบลบ
  9. พระพุทธศาสนามีภัยโดยรัฐเผด็จการ

    ตอบลบ
  10. ผมขออนุโมทนาบุญ...กับท่านคุณเบอร์ด้วยนะครับ...อยากให้พระในประเทศได้ตื่นตัวก่อนที่จะมีภัยมาประชิดวัดกันนะครับ

    ตอบลบ

ขับเคลื่อนโดย Blogger.