อัญเชิญพระคัมภีร์โบราณประดิษฐาน ณ อินโดนีเซีย

อินโดนีเซีย
เป็นแผ่นดินพุทธศาสนา

มากว่า 2200 ปี สงฆ์ไทยอัญเชิญ
พระคัมภีร์โบราณย้อนรอยธรรม


ผมเคยพูดให้คนสนใจฟังในที่ต่างๆ
มาตลอดว่า ..

บรรดาในหมู่เกาะสำคัญๆ 
และเมืองที่สำคัญๆ ตามชายทะเล 
ในคาบมหาสมุทรอินเดียนั้น
ล้วนนับถือพุทธศาสนามาก่อนทั้งสิ้น !

ทางภาคพื้นดิน ในตะวันออกกลางก็เช่นเดียวกัน
ทั้งยังมีความเจริญรุ่งเรื่องมากด้วย
นั้นคือ เจ้าผู้ครองแผ่นดินนั้นๆ
ได้นับถือ และเป็นผู้สนับสนุน
ทำให้การแผ่ขยาย
ของพระพุทธศาสนา ได้เจริญก้าวหน้า
อย่างรวดเร็ว ถึงขีดสูงสุด
โดยเฉพาะในสมัย พระเจ้าอโศกมหาราช
ช่วงราวปีพุทธศักราช 300
ที่พระธรรมทูตถูกส่งไปที่ต่างๆ ถึง 8 สาย
รวมทั้งสุวรรณภูมิเราด้วย

ทางภาคพื้นดินก็ปรากฏชัด ก็ที่โน้นครับ 
บนเส้นทางสายไหม แถบตะวันออกกลาง
บริเวณพื้นที่เหล่านี้ ล้วนนับถือพุทธทั้งนั้น 
ตั้งแต่ยังไม่มีประเทศอัฟริกานิสถาน 
ปากีสถาน กลุ่มตามลุ่มแม่น้ำไทกิส 
บริเวณหุบเขาบามิยัน ทั้งนั้นแหละครับ


ทางทะเล ก็เช่นกันครับ ก่อนที่จะมาถึงชายฝั่ง
ที่นครศรีธรรมราช นครปฐม
ก็พักเผยแพร่เจริญรุ่งเรืองตามเกาะใหญ่ๆ
เช่น เกาะชวา เกาะยอกยาการ์ต้า เป็นต้น
นี้นับเป็นผลงานของพระธรรมทูต
ฝ่ายต่างประเทศในยุคนั้น.!

สิ่งที่เป็นหลักฐานที่ปรากฏชัดเจน
ก็คือโบราณสถานต่างๆ วัดโบราณ
พุทธรูปโบราณ คัมภีร์โบราณต่างๆ
ที่แม้จะถูกทำลายไปจำนวนมาก
แต่ก็มียืนยันได้ในทุกวันนี้





กล่าวเฉพาะที่หมู่เกาะของอินโดนีเซีย
ก็คือเกาะชวา อันเป็นที่ตั้ง "บุโรพุทโธ"
ซึ่งห่างจากเกาะยอกยาการ์ต้า
ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 40 กม.
บุโรพุทโธนั้น สร้างขึ้นราว 
พ.ศ. 1293 - 1393 
โดยกษัตริย์แห่ง ราชวงค์ไศเรนทร์ 
ที่นับถือ พุทธศาสนานิกายมหายาน
ก่อนที่จะสร้างได้ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ได้นั้น 
แสดงว่าพุทธศาสนาก็ต้องฝังรากลึก
อย่างมั่นคงเสียก่อน



ในปี พ.ศ. 2534 องค์การยูเนสโก
ได้ยกบุโรพุทโธ ให้เป็น "มรดกโลก"
กล่าวกันว่า หากไม่มีนครวัด ที่กัมพูชา 
ที่นี่จะเป็นพุทธศาสนสถาน
ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
อิทธิพลพระพุทธศาสนาในอินโดนีเซีย 

ในทุกวันนี้ก็ยังปรากฎอยู่เช่น ..
ชื่อผู้คนสำคัญๆ เก่าแก่ก็ออกเสียงคล้าย
ภาษาบาลี เช่น ซูฮาร์โต้
ประธานาธิบดีคนที่ 2 เป็นต้น


มาวันนี้ที่ 4 พฤษภาคม 2559
คณะสงฆ์ไทย โดย มหาเถรสมาคม
นำโดย..

"พระพรหมสิทธิ" 
เจ้าอาวาสวัดสระเกศ ภูเขาทอง กทม.
กรรมการมหาเถรสมาคม
ประธานสำนักงานกำกับดูแล พระธรรมทูต
ไปต่างประเทศพร้อมคณะ
ก็ได้อัญเชิญพระคัมภีร์พระพุทธศาสนา 
ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก อายุกว่า 2000 ปี
ที่ได้ค้นพบ จากหุบเขาบามิยัน 

ผ่านการรับรองจากสถาบันฯ ในประเทศนอร์เวย์
สู่อินโดนีเซีย อย่างเป็นทางการ
ซึ่งจะเรียกว่าย้อนรอย ย้อนยุค
ย้อนเวลาถอยหลังไปกว่า 2000 ปี เลยที่เดียว
ดังมีรายละเอียดดังนี้ครับ


คณะสงฆ์มหายาน และพุทธศาสนิกชน
ชาวอินโดนีเซียได้ประชุมพร้อมกัน 
เวลา 19.00 น. วันที่ 4 พฤษภาคม 2559
เพื่อต้อนรับธรรมเจดีย์ 
อัญเชิญรอบอาเซียนสู่อินโดนีเซีย
โดยมีพุทธศาสนิกชนแต่งกาย
ชุดประจำชาติอินโดนีเซีย
เข้าร่วมงานประมาณ 1,000 คน
ท่านเจ้าคุณ พระอาจารย์จีนวิเทศศาสนานุสาสน์
(ซิก ฮุ่ย สง) เจ้าอาวาส
วัดวิหารมหาวิหารระคระหะปูสัก
ได้กล่าวต้อนรับว่าการต้อนรับธรรมเจดีย์



เหมือนการต้อนรับพระพุทธเจ้า 
นับเป็นพระคุณอย่างสูงที่ 
พระพรหมสิทธิ
ได้พิจารณาให้ความเมตตา
ต่อประเทศอินโดนีเซีย 

จากนั้น ฯพณฯ นายภาสกร ศิริยะพันธุ์ 
เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงจาการ์ต้า 
กล่าวสุนทรพจน์ ชื่นชมการทำงาน
ของคณะสงฆ์ไทย
นอกจากจะเป็นการเผยแพร่พระพุทธศาสนาแล้ว
เป็นการสร้างความสัมพันธ์อย่างดี
ในประชาคมอาเซียน

ผู้อำนวยการ กองศาสนวิเทศอินโดนีเซีย
กล่าวถึงการอัญเชิญสิ่งที่เก่าแก่
ของพระพุทธศาสนาสู่อินโดนีเซีย
ไม่เคยปรากฏมีมาก่อน..
เป็นโชคดีของทุกท่าน!

ผู้แทนสถานทูตลาว ศรีลังลา พม่า และเวียดนาม
ได้ร่วมพิธีตัดริบบิ้นเปิดงาน
การต้อนรับธรรมเจดีย์
และพระพรหมสิทธิ พร้อมคณะ
ได้จัดมีการแสดงวัฒนธรรมพื้นบ้านนอินโดนีเซีย
และการแสดงรำบูชาพระแม่กวนอิม
การตีกลองถวายเป็นพุทธบูชาเป็นต้น



พระพรหมสิทธิได้กล่าวขอบคุณ
ผู้จัดงานและร่วมงานทุกท่าน
และกล่าวถึงประเทศอินโดนีเซีย
ดินแดนที่เคยเจริญรุ่งเรือง
ด้วยพระพุทธศาสนามาก่อน
ปัจจุบันเป็นสถานที่ตั้งของสำนักงาน
เลขาธิการอาเซียนด้วย
ซึ่งคณะได้ไปชม และร่วมพิธีต้อนรับ
เมื่อตอนบ่ายวันนี้ ก่อนจะเข้าร่วมพิธีตอนเย็น




โชคดีมีชัยทุกท่านครับ
เจ้าคุณเบอร์ลิน
05.05.2016

อัญเชิญพระคัมภีร์โบราณประดิษฐาน ณ อินโดนีเซีย อัญเชิญพระคัมภีร์โบราณประดิษฐาน ณ อินโดนีเซีย Reviewed by สารธรรม on 04:18 Rating: 5

1 ความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.