รู้จริงปะ! เรื่องใบรับรองแพทย์ มาฟังจากหมอกรณีพระธัมมชโย : กรณีธรรมกาย


นานาทัศนะ..
จากบุคลากรทางการแพทย์
ผู้มีจรรยาบรรณ
แม้บางท่านจะไม่ประสงค์ออกนาม
แต่อย่างน้อยถ้อยคำที่ถ่ายทอดออกมา
ก็เป็นการจุดประกาย ให้เกิดปัญญา
เมื่อตรองตามจากเหตุไปสู่ผล บนเวที
ความคิดอันเป็นสาธารณะ!


ผม นพ. บุญศักดิ์ หาญเทอดสิทธิ์
แพทย์ผู้เชียวชาญสาขานิติเวชศาสตร์

ได้พบข้อความทางโลกโซเชียล
เกี่ยวกับอาการอาพาธของหลวงพ่อธัมมชโย
ที่กล่าวว่าอาการหนักขนาดนี้ทำไมไม่ไป
รพ.การรักษาตัวภายในวัดเป็น

การรักษาที่ผิดหลักการแพทย์
แสดงให้เห็นว่าผู้พูดไม่มีความไม่เข้าใจ
ในหลักกฎหมายทางการแพทย์
เรื่องสิทธิผู้ป่วยและสถานพยาบาล
ผมในฐานะแพทย์นิติเวช


จึงขออนุญาตแสดงความคิดเห็นดังนี้
เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง

แก่สาธารณชนครับ!

การที่ผู้ป่วยจะตกลงปลงใจในการรักษา
กับแพทย์คนไหน หรือไปโรงพยาบาลไหน?

เป็นเรื่องสิทธิของผู้ป่วยโดยแท้
ไม่สามารถไปบังคับให้ไปรักษาได้

แม้แพทย์มีหน้าที่ดูแลรักษาโดยผู้ป่วย
ไม่ได้ร้องขอก็ตาม..

แต่ไม่สามารถไปละเมิดผู้ป่วยได้
หน้าที่รักษาผู้ป่วยนี้สามารถทำ
ได้โดยไม่ต้องขอความยินยอมใน

กรณีที่เป็นความจำเป็นและเร่งด่วน
เท่านั้น (ภาวะฉุกเฉิน)

และเมื่อผู้ป่วยยินยอมให้รักษาแล้ว

ไม่ว่าเป็นที่ไหน ..แพทย์ก็รักษาได้
ไม่ขึ้นกับสถานที่ เวลา และสถานการณ์
ในป่าแพทย์ก็รักษาคนได้ !

พญ.จิรายุ พุทธให้ 
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาอายุรกรรม
โรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต
ซึ่งได้ช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุรถชนได้รับบาดเจ็บ
เหตุเกิดเมื่อเวลา 16.45 น. วันที่ 3 ก.พ. 2559

โดยทั่วไปแพทย์มีพื้นฐานจิตใจเมตตามาก
อยู่แล้ว จึงมีความยินดีที่จะรักษาคนทั่วไป
เป็นปกติอยู่แล้ว แต่ถ้าผู้ป่วยเป็นบุคคล
ที่มีบุญบารมีอย่างยิ่งแล้ว
แพทย์ผู้มีจิตเมตตา และมีความสามารถ

ท่านใดทราบ ก็อยากได้บุญกันทั้งนั้น

จึงไม่แปลกที่เขาเหล่านั้นจะไป
รักษาหลวงพ่อธัมมชโยถึงวัดพระธรรมกาย
และเมื่อแพทย์ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม
ได้ตรวจรักษาผู้ป่วยแล้ว

 ก็ย่อมสามารถออกใบรับรองแพทย์
ที่แสดงภาวะสุขภาพของผู้ป่วยได้เสมอ
โดยไม่ขัดต่อหลักกฎหมายใดๆ
 

ในมุมมองของการประกอบวิชาชีพเวช
ในสถานพยาบาลไม่ว่าของรัฐหรือเอกชน
ทั้งโรงพยาบาลและคลินิก
ถ้าได้จัดตั้งและจดทะเบียน

ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว
ก็สามารถให้บริการทางการแพทย์ได้ทั้งสิ้น!

บุญศักดิ์ หาญเทอดสิทธิ์
พ.บ. ว.ว.(นิติเวชศาสตร์)
น.บ., น.บ.ท.สฃ



การได้รับความไว้วางใจจากคนไข้นั้น
ถือเป็นคุณลักษณะสำคัญอย่างหนึ่ง
ของความเป็นแพทย์



เป็นเสมือนยาอันวิเศษ
ได้ผลคือผู้ป่วยจะปฏิบัติตามทุกอย่าง
ในการรักษาสุขภาพให้ดีขึ้น
ซึ่งความไว้วางใจนี้ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ
กับแพทย์ผู้หนึ่งผู้ใด


แต่จะเกิดขึ้นได้จากคุณลักษณะอันดีงาม
หลายๆ ด้านของแพทย์ท่านนั้นๆ
ทั้งจากความรู้ความสามารถความเอาใจใส่
การสื่อสารกับผู้ป่วยและเมื่อเกิดขึ้นแล้ว
จะไม่แปลกใจเลยที่ผู้ป่วยท่านนั้น
จะร้องขอให้แพทย์ผู้ได้รับความไว้วางใจ
ทำการตรวจรักษา และยกชีวิต
ให้อยู่ในความดูแลของแพทย์


เวลานี้มีข่าวเกี่ยวกับใบรับรองแพทย์
ที่หลายๆคนให้ความสนใจ ซึ่งดิฉันเชื่อว่า
หากแพทย์ผู้ได้รับความไว้วางใจจากผู้ป่วย
และถูกร้องขอให้ตรวจรักษา
ไม่ว่าจะเป็นเวลาและสถานที่ใด
ซึ่งหากแพทย์ท่านนั้นอยู่ในฐานะที่สามารถ
ทำการตรวจรักษาได้
และทำการตรวจรักษาผู้ป่วยแล้ว


ใบรับรองแพทย์ ก็คือเอกสารประเภทหนึ่ง
ที่ออกโดยแพทย์ผู้หนึ่งผู้ใด
ที่ทำการตรวจร่างกายผู้ป่วยนั้น
และบันทึกความจริง

และความเห็นแพทย์ลงไป
การออกใบรับรองแพทย์

เพื่อแสดงความจริง
ต่อหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง
ก็เป็นการกระทำที่ประกอบด้วย
ความเมตตาและความสุจริต

ความเห็นเล็กๆ

จาก ... แพทย์  24/7




พระเถระหลายรูปดังเช่นหลวงพ่อคูณ
ที่เคารพรักของชาวโคราช
ท่านอาพาธยาวนานซึ่งแพทย์จาก
รพ.มหาราชโคราชต้องนั่งรถของรพ.
ไปตรวจรักษาท่านที่วัดมาเป็นเวลานาน
เพราะเคารพและให้เกียรติในการปฎิบัติ
ต่อพระด้วยความเคารพ

และถ้าวันนั้นมีเหตุให้ต้องออกใบรับรองแพทย์
ขอถามคำเดียวว่าต้องนิมนต์ท่านขึ้นรถ
เพื่อมานั่งรอรับใบรับรองแพทย์ที่ รพ.หรือไม่
คำตอบคือไม่ เพราะแพทย์ตรวจจริง
วินิจฉัยจริงจึงรับรองอาการป่วยจริง


กรณีหลวงพ่อธัมมชโย
แพทย์มาตรวจรักษาท่านที่วัดมาตลอด
ไม่เคยบอกเลยว่าท่านไปตรวจรักษา

ที่โรงพยาบาล แต่ตรวจโดยแพทย์ท่านนี้
ที่ทำงานอยู่ ณ รพ.แห่งนี้ แพทย์ท่านนี้
ตรวจรักษาจริงและรับรองการป่วยจริง

แต่การกระทำของ DSI คือเอามาโยงว่า
ใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลนี้

ไหนบอกเดินทางไม่ได้ ?

แล้วเอาใบมาจาก ราชบุรีได้ไง DSI
กำลังพยายามโยงความสับสนให้ประชาชน

ประเด็นหลักคือDSIไม่เคยยอมพิสูจน์อาการป่วย
ของหลวงพ่อเลยสักครั้ง

แต่กลับเอาประเด็นทั้งหลาย
มาโยงกันเพื่อให้สังคมมองว่าวัดให้ความเท็จ

ทั้งที่จริงๆ DSI ไม่เคยพิสูจน์
ความเห็นจาก..คนโซในเชียล



ความเห็นของหมอคนหนึ่ง
จากการที่คณะแพทย์
ได้มาตรวจอาการหลวงพ่อ
เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2559
 


และพบว่าอาการของท่าน
มีความรุนแรงมากขึ้นและมีความจำเป็น
ต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้าน
ศัลยศาสตร์หลอดเลือด
เมื่อศัลยแพทย์หลอดเลือดได้มาตรวจประเมิน
พบว่ามีท่านมีภาวะเสี่ยงสูง
ที่จะมีลิ่มเลือดไปอุดตันที่เส้นเลือดขั้วปอด
ซึ่งถือว่าเป็นภาวะอันตรายถึงชีวิต
แพทย์จึงแนะนำให้ท่านเข้ารับ
การรักษาในโรงพยาบาล

แต่ท่านประสงค์ที่รับการรักษาภายในวัด
ซึ่งเป็นการตัดสินใจในภาวะที่ท่าน

มีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์

และถือว่าการตัดสินใจ
ที่จะเลือกรักษาที่ใดนั้นเป็นสิทธิผู้ป่วย
ทีมแพทย์ที่ดูแลจึงลงความเห็นว่า
ควรปรึกษาอายุรแพทย์โรคเลือดร่วมด้วย
เพื่อรักษาและควบคุมภาวะแทรกซ้อน
ที่อาจเกิดขึ้นได้ !!
ซึ่งอายุรแพทย์โรคเลือดได้ตรวจประเมิน
และสั่งการรักษารวมถึงออกใบความเห็นแพทย์
ตามต้นสังกัดที่ตนเองปฏิบัติหน้าที่อยู่

คำถาม ..?

ถ้าผู้ป่วยไม่สามารถเดินทางไปโรงพยาบาลได้
ไม่มีสิทธิ์ในการได้รับใบความเห็นแพทย์เลยหรือ???

คำตอบ..

ในประเด็นใบความเห็นแพทย์
1. ใบความเห็นแพทย์สามารถออกโดยผู้ป่วย
    ไม่ต้องเดินทางไปโรงพยาบาลได้หรือไม่?
    แพทย์สามารถทำได้โดยความสุจริต
    และถูกต้อง
       
ตัวอย่างเช่น..
การออกใบความเห็นแพทย์
ให้กับผู้พิการที่ไม่สามารถเดินทางมา รพ.ได้ 

2. ทางวัดร้องขอโรงพยาบาลให้ส่งแพทย์
    มาตรวจหรือไม่?

คำตอบ..

ไม่ได้ร้องขอโดยตรงกับ รพ. แต่ทางทีมแพทย์
ได้ขอร้องให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ปฏิบัติงาน
อยู่ใน รพ. นั้นมาช่วยตรวจประเมินจริง

และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ให้ความอนุเคราะห์
โดยเห็นแก่ผู้ป่วยตามหลักมนุษยธรรม
และจรรยาบรรณแพทย์ !

3. แพทย์ที่มาตรวจต้องขออนุญาต
    ทางโรงพยาบาลหรือไม่

คำตอบ..

ไม่จำเป็นต้องขออนุญาต
ถ้ามานอกเวลาราชการ
เพราะมีสิทธิและความชอบธรรม
ในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม

4. ใบความเห็นแพทย์จำเป็นหรือไม่
   ที่ต้องออกโดยความเห็นชอบ
    ของโรงพยาบาล ?

คำตอบ..

1.) โดยปกติแล้วแพทย์จะออกใบ
      ความเห็นแพทย์จากโรงพยาบาลที่ตนสังกัด
      และในการออกใบความเห็นแพทย์
      แต่ละครั้งไม่จำเป็นต้องให้ผู้อำนวย
      การโรงพยาบาลเซ็นรับทราบทุกครั้ง !

2.) แพทย์ผู้ออกใบความเห็นแพทย์ต้องเป็นผู้
     รับผิดชอบต่อความเห็นของตนเอง
     ในฐานะผู้ถือใบอนุญาต
     ในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม

DSI ยังไม่ได้ส่งแพทย์ที่เป็นกลางมา

ตรวจหลวงพ่อเลย!!

แถมเชิญหมอไปชี้แจงแต่ก็ไม่กล้าคุยมาก
คงกลัวความจริงที่ตัวเอง
ก็เคยมาเห็นเมื่อปีที่แล้ว
ก็เลยรีบรัดข้ามขั้นตอนจะฟ้องให้ได้
น่าสงสัยว่าทำตามใบสั่งใครหรือไม่?
ความเห็น..จากหมอคนหนึ่ง


ประเด็นใบรับรองแพทย์
ที่กำลังเป็นข่าวดังอยู่ขณะนี้
น่าสนใจครับว่าแพทย์ตรวจจริงหรือไม่?

ในภาพข่าวจะเห็นคุณหมอ
ตรวจหลวงพ่อ..ชัดเจน !!

แถมผอ.โรงพยาบาลค่ายฯ
มายืนยันว่าหลวงพ่อ ไม่ได้ไปที่ราชบุรี
เพียงแค่แพทย์ออกเอกสารตาม
ความเห็นของแพทย์ซึ่งเป็นความเห็น
ตามความชำนาญเฉพาะทางของแพทย์


ต้องขอบคุณท่านนายกแพทยสภา
ที่มายืนยันอีกว่าการออกใบรับรองแพทย์
ผู้ป่วยอาจไม่ต้องมาที่รพ.ก็ได้

เท่านี้ก็คงยืนยันได้ว่าดีเอสไอคงมึน ?!?
และคาดไม่ถึงว่า..


จะเห็นใบรับรองแพทย์จากรพ.รัฐ
เลยวินิจฉัยผิดพลาด 

และหาทางดิสเครดิต
หมอเป็นการใหญ่ทั้งๆ ที่

หมอทำตามจริยธรรมของแพทย์ !
 ความเห็น..จากคนในโซเชียล

เมื่อเป็นหมอ ก็เป็นทุกเวลา..ทั้งชีวิต!

 
คุณหมอ ฉี เซิ่งหยง นายแพทย์วัย 36 ปี
ที่ออกตรวจคนไข้ในหมู่บ้านห่างไกลความเจริญ
ในเมืองฉงชิ่ง ประเทศจีน มาเป็นเวลากว่า 12 ปีแล้ว
หมอฉีเดินขาเดียว หอบอุปกรณ์การแพทย์

และยารักษาโรคเพื่อมารักษาคนในหมู่บ้าน

หมอท่านนี้ใช้หัวใจ นำพาชีวิตไเดินไปสู่

จุดหมายปลายทางแสนยิ่งใหญ่

นั่นคือการช่วยเหลือ และชุบชีวิตใหม่

ให้เพื่อนมนุษย์ โดยไม่เลือกว่าที่แห่งนั้น

จะเป็นโรงพยาบาล หรือบ้านป่า

แม้เส้นทางคดเคี้ยว

แต่หมอยังตรงไปด้วยใจมุ่งมั่น

เพราะนี่คือสำนึกสามัญในหน้าที่

ด้วยหัวใจที่มีอุดมการณ์เต็มเปี่ยมของ

"หมอ"

 อ่านบทความตอนที่ 1 > Click
 เขย่าวงการแพทย์! หมอตกเป็นผู้ต้องสงสัย ถูกสั่งให้เป็นจำเลยสังคม
ขอบคุณภาพข่าวจาก Website  และข้อมูลจากกลุ่ม Line
เพราะความลับไม่มีในอากาศ
> talk--secret.blogspot.com

------------------------------------







รู้จริงปะ! เรื่องใบรับรองแพทย์ มาฟังจากหมอกรณีพระธัมมชโย : กรณีธรรมกาย รู้จริงปะ! เรื่องใบรับรองแพทย์ มาฟังจากหมอกรณีพระธัมมชโย : กรณีธรรมกาย Reviewed by สารธรรม on 02:25 Rating: 5

10 ความคิดเห็น:

  1. ใบรับรองแพทย์ของหลวงพ่อไม่เป็น "เท็จ"
    เพราะ
    1. มีการตรวจรักษาจริง
    2. ผู้ป่วยอาพาธจริง
    ทั้งนี้
    1. แพทย์สามารถให้การรักษาผู้ป่วยที่บ้านได้
    2. แพทย์สามารถออกใบรับรองแพทย์จากโรงพยายาลที่ตนสังกัดได้

    ทั้งนี้
    หมายเรียก
    หมายจับ
    หมายค้นใด ๆ อันเนื่องด้วยคดี 27/2559
    ควรเป็นโมฆะแต่แรกแล้ว
    เพราะมันฟ้องซ้ำกรรมเดิม

    หลวงพ่อมีเจ้าภาพหลากหลายอาชีพ
    ใช่ว่าจะไปสมคบคิดในธุรกิจของเจ้าภาพทุกคนซะเมื่อไหร่

    หลวงพ่ออยู่ในฐานะ "ผู้รับบริจาค"

    แล้วทำไมคนอื่น ๆ ที่รับเช็คศุภชัยไม่โดนฟ้อง
    รับของโจร

    ืทำไมมีแต่วัดพระธรรมกาย
    โดนข้อหา
    รับของโจร

    สังคมอยากรู้

    แต่ DSI ตอบไม่ได้

    ตอบลบ
  2. ใบรับรองแพทย์ของหลวงพ่อไม่เป็น "เท็จ"
    เพราะ
    1. มีการตรวจรักษาจริง
    2. ผู้ป่วยอาพาธจริง
    ทั้งนี้
    1. แพทย์สามารถให้การรักษาผู้ป่วยที่บ้านได้
    2. แพทย์สามารถออกใบรับรองแพทย์จากโรงพยายาลที่ตนสังกัดได้

    ทั้งนี้
    หมายเรียก
    หมายจับ
    หมายค้นใด ๆ อันเนื่องด้วยคดี 27/2559
    ควรเป็นโมฆะแต่แรกแล้ว
    เพราะมันฟ้องซ้ำกรรมเดิม

    หลวงพ่อมีเจ้าภาพหลากหลายอาชีพ
    ใช่ว่าจะไปสมคบคิดในธุรกิจของเจ้าภาพทุกคนซะเมื่อไหร่

    หลวงพ่ออยู่ในฐานะ "ผู้รับบริจาค"

    แล้วทำไมคนอื่น ๆ ที่รับเช็คศุภชัยไม่โดนฟ้อง
    รับของโจร

    ืทำไมมีแต่วัดพระธรรมกาย
    โดนข้อหา
    รับของโจร

    สังคมอยากรู้

    แต่ DSI ตอบไม่ได้

    ตอบลบ
  3. ชัดไหมพี่.....
    ความเห็นของเลขาแพทยสภา
    นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขาที่ว่า
    "ใบรับรองแพทย์สามารถออกได้
    โดยที่คนป่วย ไม่ต้องไปโรงพยาบาลก็ได้ แต่แพทย์ต้องตรวจผู้ป่วยจริง"
    ชัดหรือยังพี่......?

    ตอบลบ
  4. ชัดไหมพี่.....
    ความเห็นของเลขาแพทยสภา
    นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขาที่ว่า
    "ใบรับรองแพทย์สามารถออกได้
    โดยที่คนป่วย ไม่ต้องไปโรงพยาบาลก็ได้ แต่แพทย์ต้องตรวจผู้ป่วยจริง"
    ชัดหรือยังพี่......?

    ตอบลบ
  5. ชัดไหมพี่.....
    ความเห็นของเลขาแพทยสภา
    นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขาที่ว่า
    "ใบรับรองแพทย์สามารถออกได้
    โดยที่คนป่วย ไม่ต้องไปโรงพยาบาลก็ได้ แต่แพทย์ต้องตรวจผู้ป่วยจริง"
    ชัดหรือยังพี่......?

    ตอบลบ
  6. ความจริงคือความจริง ไม่สามารถทำให้เป็นความเท็จได้ แต่จนท.รัฐกำลังจะทำสีขาวให้เป็นสีดำ อนิจจา นรก-สวรรค์มีจริง

    ตอบลบ
  7. ไม่ระบุชื่อ21 พฤษภาคม 2559 เวลา 06:05

    ทำไม DSI ต้องทำข้อมูลขัดกับความเป็นจริง..และสร้างความสับสนให้ประชาชนมากขึ้น..หรือเพราะต้องการจะกลบความไม่ชอบธรรมของตนที่เกิดขึ้น..ยอมรับความจริงเถิดน๊ะ ตราบาปของชีวิตจะไม่ได้เพิ่มขึ้นมากกว่านี้..จงหยุดทำร้ายพระผู้บริสุทธิ์เถิด..

    ตอบลบ
  8. คนทั่วๆไป ย่อมเข้าใจได้ง่าย ถ้าไม่มีอะไรจิ้มตูดอยู่ ?เช่นช่างซ่อมรถที่ชำนาญ ถ้ามีเครื่องมือพร้อม รถจะเสียที่ไหน
    ย่อมตามไปซ่อมฉุกเฉินได้ทุกที่. ไม่จำเป็นต้องเข็นมาซ่อมที่อู่เสมอไป. ถ้าไม่ไช่ยกเครื่องใหม่ นายว่า จริงมั้ย?

    ตอบลบ
  9. น่ายกย่องคุณหมอทุกคนที่เปี่ยมด้วยคุณธรรม

    ตอบลบ
  10. น่ายกย่องคุณหมอทุกคนที่เปี่ยมด้วยคุณธรรม

    ตอบลบ

ขับเคลื่อนโดย Blogger.