สังคมจับตา.! มหากาพย์ธรรมกายคดีธรรมดาหรือวาระซ่อนเร้น

มหากาพย์วัดพระธรรมกาย

เรื่องของวัดพระธรรมกาย เรื่องของพระธัมมชโยเป็นเป็นมหากาพย์ซึ่งอยู่คู่ประเทศนี้มาเป็นเวลาหลายปี
วันนี้คนทั้งประเทศจับตามองว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะว่าฝั่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายอำนาจรัฐบอกว่าเป็น Dead line เป็นเส้นตายที่หลวงพ่อธัมมชโยต้องออกมามอบตัว

ปฏิกิริยาของสังคม

น่าสังเกตว่าปฏิกิริยาของสังคม ของสื่อ ของคนหลายกลุ่มไม่ได้ออกมาในเชิงสนับสนุนเห็นด้วยกับฝ่ายใดอย่างชัดแจ้ง แตกต่างกับรอบอื่นๆ ที่ผ่านมา

ซึ่งเราจะเห็นว่าค่อนข้างรุนแรง กรณีหลวงพ่อธัมมชโยในด้านหนึ่งซึ่งมีปัญหาด้านกฎหมาย ทุกคนเห็นด้วยว่าปล่อยให้กระบวนการทางกฎหมายดำเนินการต่อไป

คดีปกติธรรมดา หรือวาระซ่อนเร้น

แต่เหตุที่ทำให้เรื่องนี้กลายเป็นปัญหาทางการเมือง ทางสังคม ในแง่ความรู้สึกนึกคิดคนจำนวนมากก็คือ

การดำเนินคดีกับพระธัมมชโยเป็นเรื่องเกิดขึ้นตามปกติ หรือว่าจริงๆ เป็นส่วนหนึ่งของความประสงค์ที่จะล้มธรรมกาย ต่อต้านธรรมกายหรือเปล่า?

เพราะว่าคนหลายกลุ่มซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับอำนาจรัฐในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นคุณไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตสมาชิกสภาปฏิรูป  ไม่ว่าจะเป็น การทำงานของ DSI ในอดีตที่ผ่านมาซึ่งมีการเชิญบุคคลที่ประกาศตัวชัดเจนว่าอยู่ฝ่ายตรงข้ามวัดธรรมกาย เช่น คุณหมอมโน ไปอยู่ในที่ประชุมกับ DSI ในความพยายามจะจับกุมพระธัมมชโยในรอบที่แล้วก็ดี หรือแม้กระทั่ง หลวงปู่พุทธอิสระก็ดี

คนจำนวนมากมอง

คดีพระธัมมชโยไม่ใช่คดี

ตามกฎหมายปกติ.!

ในช่วงที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าคนจำนวนมากในสังคมซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับวัดธรรมกาย มองว่าคดีพระธัมมชโยไม่ใช่คดีตามกฎหมายปกติแต่มีวัตถุประสงค์ มีความคาดหวังซ่อนเร้นที่จะใช้

คดีพระธัมมชโย เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการยุติธรรมกาย กระชับพื้นที่ธรรมกาย และนี้เป็นเหตุให้คนในสังคมกังวลถึงความความรุนแรงที่จะเกิดขึ้น

ในสื่อมวลชนหรือแม้กระทั่งคนที่ติดตามเรื่องนี้มีการอธิบายเรื่องนี้ไว้ว่า

  1.  การส่งเจ้าหน้าที่ของดีเอสไอเข้าไปในวัดธรรมกาย อาจจะเกิดความรุนแรงเกิดขึ้น ผู้ที่นับถือหลวงพ่อธัมมชโยซึ่งจำนวนมากอยู่ในวัดจะตอบโต้ และทำให้เกิดความไม่สงบขึ้นมา นี้เป็นมุมมองจากฝั่งที่ไม่ค่อยชอบธรรมกาย


  2.  หรืออีกมุมมองหนึ่งที่ว่า ผู้เกี่ยวข้องกับกระบวนการทั้งหมดนี้อาจจะมีวาระแฝงเร้นบางอย่าง

ตอนนี้ในหมู่คนที่เชื่อธรรมกาย ลูกศิษย์วัดธรรมกาย มีความเชื่อว่าการดำเนินคดีกับวัดธรรมกายเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามจะทำให้พุทธศาสนาอยู่ไม่รอดในสังคมไทยต่อไป เมื่อธรรมกายล่มสลายพุทธศาสนาก็อาจจะล่มสลายไป

สิ่งที่จำเป็นจะต้อง

บริหารจัดการในเวลานี้ 

ไม่ว่าจะเป็นฝั่งผู้มีอำนาจก็ดี หรือว่าฝั่งผู้ที่ติดตามข่าวเรื่องนี้อยู่ก็ดี คือการสื่อสารอย่างชัดเจนว่า

คดีหลวงพ่อธัมมชโย ต้องไม่มีความเกี่ยวข้องเลยแม้ในด้านหนึ่งด้านใดความพยายามจะกำจัดธรรมกายความพยายามจะเหยียบย่ำธรรมกาย หรือแม้กระทั่งการดูหมิ่นดูแคลนคนที่นับถือธรรมกาย

คนจำนวนมากที่ไปวัดธรรมกายไม่ใช่คนที่ทำอะไรผิด เขาจะมีวิถีปฏิบัติอย่างไรก็แล้วแต่ๆ เขาเป็นพุทธศาสนิกชน เป็นคนดี คนเหล่านี้เป็นผู้หญิง ผู้สูงอายุ เขาไม่ใช่อาชญากรของแผ่นดิน

ในมุมมองขอสื่อที่พยายามจะปั่นเรื่องนี้ จะเล่นเรื่องนี้ หรือมุมมองของผู้มีอำนาจที่พยายามจะดำเนินการกับเรื่องนี้ ต้องเข้าใจความอ่อนไหวเปราะบางให้ดีๆ ต้องตั้งหลักให้ชัดเจนว่า

คดีของพระธัมมชโยก็เรื่องหนึ่ง
วัดธรรมกายก็เรื่องหนึ่ง
ผู้นับถือหลวงพ่อธัมมชโย
ผู้ปฏิบัติตามพุทธศาสนาแบบธรรมกายนั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง

แล้วต้องให้แยกออกจากกันอย่างสิ้นเชิง เพราะถ้าไม่วางแยกกัน เรื่องของคดีความก็จะไปกระทบกระเทือนจิตวิทยาของมวลชน และจะทำให้การดำเนินการทางกฎหมายไม่จบและถูกมองว่า

เป็นการใช้กฎหมายเพื่อตอบสนองมุมมองทาการเมือง มุมมองทางศาสนาของคนบางกลุ่มซึ่งต้องยอมรับว่ามีอยู่ในสั่งคมไทยจริงๆ

แล้วก็เป็นผู้ที่ใกล้ชิดกับผู้มีอิทธิพลทางสังคมไทยอยู่ในปัจจุบัน กระบวนการทางกฎหมายดำเนินต่อไป

แต่สิ่งที่สังคมไม่อยากเห็น คือการใช้กระบวนการทางกฎหมาย เป็นเครื่องมือในการกำจัดธรรมกาย.!


ขอบคุณข้อมูลจาก
รายการ OVERVIEW ช่อง VoiceTv21
โดย อ.ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์

ขอบคุณภาพจาก
Fb ภาพดีๆ 072 และชาอุ่นTeam
Google.com

เพราะความลับไม่มีในอากาศ
>Talk--secret.blogspot.com