ศรีวราห์อย่าตัดไฟ ยื้อลมหายใจพระอาพาธ

ขอได้ไหม..โปรดให้โอกาสพระมีชีวิตอยู่ต่อไป

ตัดน้ำตัดไฟ 

เป็นการทรมานอย่างหนึ่ง

ผิดหลักสิทธิมนุษยชน

อย่างร้ายแรง.!

จากข้อความในเฟสบุคของ Psanittwong wuttiwangso ได้กล่าวถึง กรณีตัดน้ำ ตัดไฟวัด ว่ามีความแตกต่างจากกรณีไม่มีผู้ใช้ไฟ หรือไม่จ่ายค่าไฟ แต่ต้องการตัดไฟวัดด้วยเจตนาเพื่อให้วัดเดือดร้อน ถือเป็นการทรมานแบบหนึ่ง #ผิดหลักสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง #ผิดกฎบัตรสหประชาชาติ วัดเป็นสถานที่ปฎิบัติธรรม รัฐทราบดีว่าขณะนี้มี พระ สามเณร และคนถือศีลอยู่ในวัดเป็นหมื่น 

รวมทั้งมี #พระรูปอื่นที่นอนอาพาธ และ #โยมที่นอนป่วย อยู่ในวัดหลายท่าน หากตัดไฟย่อมเกิดความเสียหายต่อชีวิต รัฐต้องเข้ามาจัดการ หากนิ่งเฉยและมีใครในวัดได้รับอันตราย ต้องดำเนินคดีกับผู้ที่ตัดไฟ หรือ ผู้สั่งการ #HumanRightsWatch

ภาพเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 15 ธันวาคม 2559 

บริเวณรั้วด้านนอกของวัดพระธรรมกาย

"ท่านศรีวราห์" อย่าตัดน้ำตัดไฟวัดพระธรรมกายเลย.!

Click > ที่ภาพเพื่อรับฟังถ้อยคำ จากหัวใจของพระ

นี่คือเสียงขอร้องจากพระสงฆ์รูปหนึ่งที่หวังว่าจะดังไปถึงนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลังจากที่มีกระแสข่าวว่ากำลังมีการประสานเพื่อตัดน้ำ ตัดไฟภายในวัดพระธรรมกาย.!

ทุกๆ 10 - 15 นาที ไม่ว่ากลางวันยามที่มีแสงสว่าง หรือว่ากลางคืนที่ต้องอาศัยความสว่างจากแสงไฟฟ้า พระรูปนี้ท่านต้องคอยดูแลดูเสมหะให้กับ พระอาจารย์ไพรัช อนาวิโล ที่นอนป่วยด้วยโรคกล้างเนื้ออ่อนแรงเป็นเวลาร่วม 10 ปี

แม้ว่าร่างกายของพระป่วยจะนอนไร้เรี่ยวแรง ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แต่หัวใจของท่านยังทำหน้าที่ของ สมณสัญญาอย่างสมบูรณ์ 

การสื่อสารระหว่างกันกับพระเพื่อนที่ดูแลคือการกระพริบตาซึ่งถือเป็นเรี่ยวแรงสุดท้ายของร่างกายที่ยังทำงานได้ดีที่สุด ในยามที่ร่างกายแข็งแรงพระท่านก็ตั้งปณิธานว่า หากสิ้นลมก็ขอให้ผ้ากาสาวพัสตร์เป็นผ้าสีสุดท้ายที่กายครอง 

แม้ถึงคราวเจ็บป่วยหัวใจอันเที่ยงแท้มั่นคงในชีวิตสมณะของท่านก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงไม่ว่า พระหรือฆราวาสก็รักและหวงแหนชีวิตของตนไม่ต่างกัน

คุณอาจจะไม่รักวัดพระธรรมกายก็ไม่เป็นไร แต่ได้โปรดเห็นใจและสวมหัวใจที่มีสามัญสำนึกของความเป็นมนุษย์ที่อยู่ร่วมโลกเดียวกันเถิด

ไฟฟ้า และน้ำท่าต่างๆ สำหรับบางคนอาจเป็นเพียงเครื่องอุปโภคบริโภคประจำวัน แต่ลำหรับใครอีกหลายคนนั้น "มีค่าความสำคัญเท่ากับหนึ่งชีวิต" 

"พระอาจารย์ไพรัช อนาวิโล ท่านป่วยด้วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ท่านเป็นพระภิกษุวัดพระธรรมกายเป็นเวลา 19 พรรษา หลังจากสำเร็จการศึกษาจากคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย "

ขอบคุณภาพประกอบจาก
Fb Psanitwong wuttiwangso

Fb พระครูสังฆรักษ์อนุรักษ์ โสตฺถิโก
Fb ข่าวบุญใจสว่าง

เพราะความลับไม่มีในอากาศ

>Talk--secert.blogspot.com