ยิ้มออก.! พระหล่อขอร้องพระเอกยกเลิก ม.44 เพื่อความสะดวกญาติโยม

วัดพระธรรมกายแถลงสรุปภาพรวมการตรวจค้นวัดพระธรรมกาย 2 วัน เหตุการณ์ราบรื่น ทุกฝ่ายทำดีที่สุดแล้ว

วันที่ ( 17 ก.พ. 2560) พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส และพระมหานพพร ปุญญชโย ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวหลังจากเจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ เข้าตรวจค้นอาคารต่างๆ ครบทุกโซนภายในวัดพระธรรมกายในวันนี้โดยพระสนิทวงศ์ ชี้แจงว่า

การเข้ามาตรวจค้นอาคารต่างๆ ภายในวัดในครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ และทางวัดต่างก็ให้ความร่วมมือกันด้วยดี ไม่ได้มีปัญหาว่าวัดทำร้ายเจ้าหน้าที่ หรือเจ้าหน้าที่ทำร้ายพระ ภาพในโซเชียลอาจจะเกิดจากความเข้าใจผิดกันเล็กน้อย

พระมหานพพรชี้แจงการ

ตรวจค้นราบรื่น ไร้เหตุรุนแรง..

ส่วนเรื่องรายเละเอียดของการตรวจค้นนั้นพระมหานพพรได้กล่าวว่า ขอบคุณพี่น้องสื่อมวลชนที่มาเป็นประจักษ์พยานในการตรวจค้นวัดพระธรรมกาย ของ จนท.กรมสอบสวนคดีพิเศษร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

สรุปภาพรวมการตรวจค้นที่เริ่มต้นตั้งแต่เมื่อวานคือวันที่ 16 ก.พ. 2560 นำโดยท่าน พ.ต.อ.สุริยา สิงหกมล โดยรอบนอกมีเจ้าหน้าที่ทหารตรึงกำลังประมาณ 500 นาย เจ้าหน้าที่ตำรวจที่รักษาความปลอดภัยประจำประตูต่างๆ เพื่อการระงับเหตุ ประมาณ 3 พันนาย

เบื้องต้น จนท.ดีเอสไอ ได้นำเอกสารมาชี้แจงกรอบข้อกฎหมายที่ใช้ในการเข้ามาตรวจค้นวัดพระธรรมกาย จากนั้นก็ได้เรียกบุคคล 10 ท่าน ที่มีรายชื่อในเอกสารมารายงานตัว พร้อมกับประชุมกำหนดวิธีการปฏิบัติการตรวจค้นพื้นที่ ซึ่งทางวัดพระธรรมกายก็ได้อำนวยความสะดวกให้เข้าในทุกโซนพื้นที่

ส่วนกรณีที่ท่านอธิบดีดีเอสไอ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง และท่านปานเทพ เสสะเวส ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ได้นำกำลังจนท.ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนเข้ามาตรวจพื้นที่ในประตู 1 โซน 196 ไร่ โดยได้ใช้อุปกรณ์ตัดกุญแจที่ประตู 1 แต่เมื่อเข้าไปแล้วทางเจ้าหน้าที่เองก็ได้ให้โอกาส และให้เวลาในการทำความเข้าใจกับพระภิกษุจำนวนมากที่จำวัดปฏิบัติศาสนกิจด้านในวัดเพราะเป็นเขตสังฆวาส

เมื่อทำความเข้าใจกันดีแล้วก็ไม่ได้มีเหตุขัดขวาง หรือเหตุรุนแรงเกิดขึ้นซึ่งทั้งสื่อมวลชน เจ้าหน้าที่ตำรวจก็นำตรวจค้นไปด้วยกันพร้อมกับเจ้าคณะจังหวัดซึ่งท่านเมตตามาเป็นพยาน ในการเข้าตรวจค้นทุกอาคารจนเสร็จเรียบร้อย

ปิดล็อคพื้นที่ตามกฎ ม.44

หลังจากนั้นก็ได้ไปตรวจพื้นที่โซน B คืออาคาร 100 ปีคุณยายอาจารย์ฯ แต่เวลาหมดก่อนการตรวจค้นเสร็จสิ้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้วางกำลังปิดล็อคพื้นที่ ตามกำหนดของ ม.44 ทุกประตูทางเข้า-ออกหลัก คือประตู1 ประตู 3 ประตู 4-5-6-7 และประตู 8 โดยวางกำลัง จนท.ตำรวจ 40-50 นายเฝ้าอยู่ตลอดทางซึ่งเป็นรอยต่อพื้นที่ 196 ไร่ กับ 130 ไร่ เพื่อให้แน่ใจว่าพื้นที่นี้ถูกปิดล็อคอย่างแท้จริง

ส่วนการเข้าตรวจค้นพื้นที่ในวันนี้ ได้กำลังจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมทีมสุนัขตำรวจปูพรมตรวจค้นพื้นที่ทั้งโซน B (130 ไร่) และโซน C (2,000 ไร่) ไปพร้อมกันหลังจากทำการตรวจค้นเสร็จสิ้นแล้ว ก็ทราบข่าวจากดีเอสไอว่า

จะมีแผนการปรับลดกำลังลงในพื้นที่ควบคุมต่างๆ โดยพื้นที่รอบนอกเจ้าหน้าที่ทหารประมาณ 500 นาย ก็จะยกเลิกจุดสกัดโดยรอบนี้ทั้งหมด

ลดกำลังลง

เฝ้ารักษาการ 1 อาทิตย์

ส่วน จนท.ตำรวจ ที่อยู่ตามประตูทางเข้าต่างๆ ก็จะปรับลดกำลังลงโดย ประตู 1 กับประตู 4 และประตู 5-6 ก็จะเหลือ จนท. ตำรวจเพียงหน่วยเดียว โดยจะเปิดให้ประชาชน สาธุชนได้เข้าออกกันตามปกติ ส่วนประตู 7 ก็จะมี จนท.ตำรวจจำนวนหนึ่งเฝ้ารักษาการตลอดเวลาเป็นเวลา 1 อาทิตย์

ไร้อุโมงค์ลึกลับ

ขอความเห็นใจยกเลิกใช้ ม.44

พระสนิทวงศ์ ได้กล่าวยังยืนยันว่า..
วัดพระธรรมกายไม่มี "อุโมงค์ลับ" ตามที่เป็นข่าว แต่สถานที่ต้องสงสัยนั้นเป็นแค่ "อาคารติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อทำน้ำตกเพิ่มความเย็นใหกับพื้นที่เท่านั้น "

และแม้ว่าจะพอใจกับการปฏิบัติหน้าที่ของดีเอสไอ แต่ก็ไม่สบายใจที่ยังม ม.44 อยู่ก็ขอเรียกร้องขอความเมตตาไปยังรัฐบาลและ คสช. ว่าเพื่อความการปฏิบัติศาสนกิจของพระภิกษุสามเณรเอง ที่ตอนนี้กำลังสอบบาลีอยู่ รวมทั้งญาติโยมจะได้มาประพฤติปฏิบัติธรรม สวดธรรมจักร นั่งสมาธิในวัดได้อย่างสะดวก รวมทั้งญาติโยมที่พักอาศัยโดยรอบวัดจะได้สะดวก

จึงขอเรียกร้อง ขอความความเห็นใจจากทาง คสช. และรัฐบาลขอให้ ยกเลิก ม.44 เพราะที่ผ่านมา 2 วันทางวัด และสาธุชนก็ให้ความร่วมมือด้วยด้วยดีเสมอมา

โดยท่านยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า 2 วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตรวจค้นละเอียดมากๆ ทุกที่ นำกำลังเข้าค้นพร้อมกัน 8 ทีม อาคารไปทุกชั้น ทุกห้อง ห้องพักพระก็ไป ที่ฉันก็ไป ห้องน้ำก็ไป ส่วนรายละเอียดตรงนี้น่าจะฟังความจากเจ้าหน้าที่ว่าเขาตรวจสอบยังไง

ให้ความร่วมมือ จริงใจ

เปิดให้ตรวจละเอียดทุกที่

ซึ่งเราก็แสดงความจริงใจบางสถานที่เจ้าหน้าที่แจ้งล่วงหน้าแค่ 15 นาที แม้บางสถานที่ไม่มีการใช้งานก็หากุญแจมาเปิดให้อำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่สบายใจ อยากเห็นอะไรก็พาไป ส่วนพระเดชพระคุณหลวงพ่อยังขอไม่ยืนยันว่าท่านอยู่ที่ไหน เพราะพระสนิทวงศ์เองก็ไม่เจอท่านมาตั้งแต่เดือน พ.ค. 2559 แต่ท่านอาพาธจริง

การพักและดูแลสุขภาพโดยคุณหมอ ก็เป็นส่วนที่คุณหมอดูแล หากทางดีเอสไอจะเข้ามาตรวจค้นอีกก็ยินดีแต่ถ้าดีกว่านั้นก็ขอให้ยกเลิก ม.44 เพื่อความสะดวกของทุกฝ่าย