มส. ไม่มีมติ..สั่งสึกพระธัมมชโยเพราะ.?




การวางแนวปฏิบัติเช่นนี้ก็เพื่อป้องกันไม่ให้ พระถูกกลั่นแกล้ง ใส่ความโดยง่าย และยังเป็นการเปิดโอกาสให้พระได้ต่อสู้ความบริสุทธิ์ตามขั้นตอนของพระธรรมวินัย

มิเช่นนั้นใครร้องเรียนมาพระก็ถูกจับสึกเลยโดยยังไม่ได้ตรวจสอบตามขั้นตอน.!



มส.ไม่มีมติ สึกพระธัมมชโย

คงเป็นที่สงสัยกันมากว่าทำไม.? 
กรรมการมหาเถรสมาคมจึงไม่มีมติ “สึก” พระไชยบูลย์ อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย

เหตุผลหนึ่งก็คือ มส. ไม่มีสิทธิสึกพระ! ไม่ว่าจะเป็นพระรูปใดก็ตาม แม้ว่าจะได้รับอำนาจในการใช้กฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 21 พ.ศ. 2538 อย่างเต็มที่แล้วก็ตาม

ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น..

ตามกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2521) ว่าด้วย การลงนิคหกรรม ในพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 นั้นหมายถึง

การลงโทษตามพระธรรมวินัย คือ ถ้ามีพระในวัดหนึ่งวัดใดในจังหวัดทำความผิดเจ้าคณะจังหวัดก็จะเป็นผู้ตัดสินก่อน 

ถึงแม้ว่าจะส่งเรื่องไปที่มหาเถรสมาคม ทางมหาเถรสมาคมก็จะมีคำสั่งกลับไปที่เจ้าคณะจังหวัดอยู่ดีว่าให้ดูเรื่องนี้ ให้ตัดสินเรื่องนี้ ให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเรื่องนี้

โดยหลักของมหาเถรสมาคม ตัดสินเองไม่ได้ เพราะจะผิดกฎ พ.ร.บ.สงฆ์ ข้อนิคหกรรม.!



ดังนั้น ท่านจึงต้องส่งเรื่องกลับไปยังศาลขั้นต้นของพระ ก็คือผู้ปกครองที่ใกล้ชิดที่สุดก็คือ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ซึ่งท่านเป็นผู้ที่รู้เรื่องวัดพระธรรมกายมากที่สุด ใกล้ชิดท่านมากที่สุด ซึ่งก็เข้าตามหลักพระธรรมวินัย ก็คือ ผู้ปกครองตัดสินผู้ที่อยู่ใต้ปกครอง

โดยลำดับการปกครองก็คือ เจ้าอาวาส ดูแลพระลูกวัด มีอำนาจในการปกครอง ในการตัดสินในการวินิจฉัย เจ้าคณะตำบลก็ปกครองวัดต่างๆ ในตำบล เจ้าคณะอำเภอก็ปกครองวัดต่างๆ ในอำเภอ เจ้าคณะจังหวัดก็ปกครองวัดต่างๆ ในจังหวัด

เพราะฉะนั้นการตัดสินเบื้องต้นจึงกลับไปที่เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ซึ่งในรายละเอียดก็ต้องมีการไต่สวนเป็นลำดับๆ ไป 

เหตุนี้ในพระลิขิตของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช เกี่ยวกับกรณีพระธัมมชโยเมื่อ ปี 2542 มหาเถรสมาคมก็ทำอะไรไม่ได้ เช่นเดียวกับ พ.ศ.นี้ 

ที่่แม้จะมีพระบัญชาจากสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (อัมพร อมภโร) ออกมาให้กรรมการมหาเถรสมาคมดำเนินการในเรื่องนี้ก็ตาม แต่กรรมการมหาเถรสมาคมก็ไม่สามารถตัดสินได้ เพราะถ้าตัดสิน ก็ผิดกฎนิคหกรรม หรือละเมิดกฎนิคหกรรม

กฎนิคหกรรม ใครเป็นคนตั้ง.?

ก็คณะสงฆ์เป็นผู้ออกกฎ กลายเป็นกฎหมายพ.ร.บ.คณะสงฆ์ ถ้าท่านทำก็เป็นการละเมิดกฎเอง.!

ซึ่งมติของกรรมการมหาเถรสมาคมในการประชุมครั้งที่ 6/2560 ณ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ที่พุทธมณฑล จ.นครปฐม เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2560  โดยมี สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (อัมพร อมภโร) เป็นประธานในที่ประชุม ก็ได้ทำถูกแล้ว ที่ไม่สึกพระธัมมชโย

แต่ส่งเรื่องกลับไปที่เจ้าคณะหนใหญ่กลาง แล้วก็ลงมาสู่เจ้าคณะจังหวัดในที่สุด.!


ขอบคุณข้อมูล และภาพจาก
เจาะประเด็นร้อน คม ชัด ลึก ออนไลน์
Fb วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร
มส. ไม่มีมติ..สั่งสึกพระธัมมชโยเพราะ.? มส. ไม่มีมติ..สั่งสึกพระธัมมชโยเพราะ.? Reviewed by สารธรรม on 03:01 Rating: 5

13 ความคิดเห็น:

  1. คนทำดีต้องได้ดีไม่ต้องกลัว
    คนทำชั่วชอบทำชั่วมั่วจนบ้า
    คนทำดีมีความสุขสมอุรา
    คนชั่วช้าหาแต่ทุกข์อยู่ร่ำไป
    คนทำดีย่อมได้ดีมีอยู่ทั่ว
    คนทำชั่วย่อมได้ชั่วมั่วอยู่ได้
    คนทำดีมีความสุขสบายใจ
    คนชั่วช้าไม่ได้สุขตลอดกาล
    คนทำดีจึงได้ดีที่สุดชัวร์
    คนทำชั่วจึงได้ชั่วน่าสงสาร
    คนทำดีมีที่สุดคือนิพพาน
    คนชั่วมารอวสานสู่โลกันต์...

    ตอบลบ
  2. ทุกเรื่องมีที่มามีที่ไป ถ้าตั้งสติแล้วคิด ทำไมถึงรีบแถลงข่าวจับสึกหลวงพ่อต้องทำให้ได้ ทำไมต้องบุกปิดล้อมธรรมกาย ไม่ทำไม่ได้ เพราะอะไร ไปค้นคำตอบกันเองนะ ใครมีบุญจะรู้คำตอบทั่ถูกต้องร่องลอยความเป็นจริง แล้วท่านจะดีใจว่า ท่านไม่ได้ทำร้ายตัวเอง ในชีวิตหลังความตาย

    ตอบลบ
  3. คนดีตกนํ้าไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้

    ตอบลบ
  4. ธรรมต้องชนะอธรรม

    ตอบลบ
  5. สาธุ นึกถึงหลวงปู่ด้วยใจใสๆ ด้วยบุญที่สวดธรรมจักรฯ และแผ่เมตตา ขอให้ผู้ที่ทำลายศาสนาพุทธกลับตัวกลับใจ ถ้ากลับไม่ได้ก็ขอให้แพ้ภัยตนเองไป อย่าได้มาเบียดเบียนกันเลย สาธุ

    ตอบลบ
  6. คณะสงฆ์ท่านทำหน้าที่ถูกต้องแล้ว หยุดว่า หยุดทำร้าย และขอให้เชื่อใจคณะสงฆ์ว่าท่านทำสิ่งที่ถูกต้องที่สุดแล้ว

    ตอบลบ
  7. กราบนมัสการพระเดขพระคุณหลวงพ่อเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี และพระวินยาธิการทุกรูปเจ้าค่ะ กราบขอบพระคุณที่ทุกท่านให้ความเมตาทาเยี่ยมชทวัด ทุกรูปให้ความเมตาต่อวัดและลูดศิษย์มากเจ้าค่ะ
    เงินทุกบาท ที่ทุกตารางนิ้ว อาคารทุกหลัง เกินจากจากความศรัทธาของญาติโยมล้วนๆ.....พวกเรารักวัด รักพระพุทธศาสนา พวกเราอย่ากเป็นสวนหนึ่งในงานเผยแผ่งานของพระพุทธศาสนาค่ะ

    ตอบลบ
  8. พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า "ธรรมะ ย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม"ฯ

    ตอบลบ
  9. ความจริง เป็นแบบนี้เอง..

    ตอบลบ
  10. หลวงพี่ไม่มีความผิด สึกทำไม? การบวชอุทิศชีวิตไม่ใช่เรื่ืองง่าย ต้องผู้มีบุญบารมีแก่กล้า ถึงจะทำได้ อย่าไปเอาความไม่ชอบของคนใส่ร้ายมาเป็นเครื่องตัดสินให้ก่อบาปหนักเอย.

    ตอบลบ
  11. พฤติกรรมส่อเจตนาคน กรรมจำแนกสัตว์โลก
    สิ่งที่มนุษย์เหนือกว่าสัตว์เดรัจฉาน ก็โดยที่มนุษย์มีศีล 5 ในพระพุทธศาสนา
    "กฏแห่งกรรม ไม่เคยลืมผู้กระทำ"

    ตอบลบ
  12. ไม่ระบุชื่อ17 มีนาคม 2560 เวลา 18:04

    กลุ่มพวกขี้เรื้อนทางคุณธรรมเหล่านี้ แสดงถึงความเป็นผู้ไม่มีความรู้ในหน้าที่ของพุทธมามกะ...ส่ออาการถึงความมั่วในการสร้างกระแสต่อสังคม ชนิดไม้หลักปักขี้เลน ไม่มีหลักเกณฑ์ในความนักวิชาการ และนักการเมือง นับวันยิ่งกระทำตราบาปแห่งชีวิตให้หนาขึ้นในชาตินี้ คือการล่วงเกินพระธรรมวินัยของพระอนุตรสัมสัมโพธิญาณ พระศาสดาเอกของโลก ผู้ทรงมีพระบริสุทธิคุณ #ซึ่งตัว พวกมารศาสนาเหล่านี้ยังอยู่ในสภาวะที่ปนเปอยู่กับกิเลส มี กิน กาม มัวเมาในเกียรติ ลาภ ยศ สรรเสิรญอยู่ ซึ่งไม่อาจเปรียบเทียบกับพระพุทธองค์ได้ แม้เสี้ยวของธุลี ถือว่า พวกฆราวาสขี้เรื้อน(ไร้กุศลธรรม)เหล่านี้ได้สร้างตราบาปในวาทกรรม ล่วงเกินพระธรรมวินัย ในเรื่องการลาสิกขาของพระภิกษุสงฆ์ ผู้เป็นเนื้อนาบุญ และสืบทอดพระพุทธศาสนา ซึ่งจัดเป็น “อุปวาทกัมมันตรายิกธรรม” คือกรรมที่เป็นอันตรายต่อสวรรค์และนิพพาน เพราะเหตุว่าร้ายพระสงฆ์ผู้ดำรงคุณานุปการต่อชาวโลก

    เรื่องการลาสิกขานี้ พวกความรู้ไก่อ่อนหล่านี้ ต้องไปศึกษาพระวินัยปิฎก ตมหาวิภังค์ ปฐมภาค

    ในเรื่อง ลักษณะสิกขาที่ไม่เป็นอันบอกคืน [มี๑๖๐ บท] และต้องศึกษาเรื่องการบอกคืนสิกขาที่พึงทราบมีวินิจฉัย ๑๔ บทเป็นอาทิ พร้อมทั้งต้องศึกษาวาระว่าด้วยทำให้แจ้งความเป็นผู้ทุรพล ด้วยอาการต่างๆ และสิ่งสำคัญต้องศึกษารายละเอียดของพระวินัยให้ลึกซึ้งตั้งแต่ปฐมปาราชิกกัณฑ์จนกระทั้งถึงจตุตถปาราชิกกัณฑ์อย่างถ่องแท้ เพื่อมิให้ผิดพลาดเป็นโทษแก่ผู้วินิจฉัย ซึ่งจะต้องศึกษาอรรถกถาขยายความแห่งอรรถและพยัญชนะให้รู้ชัดแจ้ง และยังต้องเทียบวินีตวัตถุ คือเรื่องที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงวินิจฉัยแล้ว เป็นต้น

    เพราะฉะนั้นการจะชี้ขาดเรื่องพระธรรมวินัย หรือจะให้พระภิกษุลาสิกขา โดยเฉพาะพระมหาเถระผู้ใหญ่ที่ท่านอุทิศชีวิตเพื่องานพระศาสนามายาวนาน จนกระทั่งปฏิปทาของท่านเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของชาวโลก ต้องเป็นเรื่องที่ระมัดระวังอย่างยิ่ง มิฉะนั้นจะเป็นบาปอย่างมหันต์แก่ผู้กระทำร้ายต่อท่าน แม้กระทั่งเพียงแค่คิด(จิตตุปบาท)ยังกระทำอันตรายต่อสวรรค์และมรรคผลนิพพานของตน หรือส่งผลไปสู่ทุคติได้.

    ตอบลบ
  13. เพราะ มส ทราบดีว่าอะไรทำได้อะไรทำไม่ได้
    ไม่ใช่รู้แค่ครึ่งเดียวแล้วมาตอบได้ทุกโจทย์

    ตอบลบ

ขับเคลื่อนโดย Blogger.