เมื่อรัฐจัดต่อ.! ม.44 วัดธรรมกายปรากฎการณ์คมขวาน และความหอม

...หาก ม.44 คือคมขวาน ที่กำลังฟาดฟันแก่นจันทร์อันหมายถึงวัดพระธรรมกาย ความหอมอันเป็นผลจากคมขวานที่จามลงไปครั้งแล้วครั้งเล่านั้น ก็คงจะเป็นกระแสเสียงของผู้คนอีกมากมายที่ส่งผ่านในโลกโซเชียล.! 

ย้อนไปเมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2560 

หัวหน้า คสช. ได้ตัดสินใจใช้มาตรา 44 แห่ง รธน.ฉบับชั่วคราว พ.ศ.2557 ประกาศให้วัดพระธรรมกาย และพื้นที่โดยรอบเป็น "พื้นที่ควบคุม" โดยมอบหมายอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นผู้รับผิดชอบปฏิบัติการปิดล้อม-ตรวจค้นสนธิกำลังกับตำรวจ ทหารรวมกว่า 4 พันนายควบคุมพื้นที่ของวัด และพื้นที่รอบนอก

แน่นอนว่ามีลูกศิษย์วัดพระธรรมกาย อยู่ภายในวัดขณะนั้นจำนวนเรือนหมื่นได้รับอานิสงส์จากมาตราการขั้นเด็ดขาดนี้ ทั้งการถูกตัดสัญญาณโทรศัพท์ จำกัดอาหารเพราะขาดวัตถุดิบในการปรุงภายในพื้นที่ เกิดเหตุปะทะกันจนมีพระและลูกศิษย์วัดบาดเจ็บ

 รวมถึงออกหมายเรียก หมายจับพระภิกษุหลายรูป และทุกวันจะมีการคัดกรองคนเข้าออกที่ประตู 7 และตรวจยึดอาหารบิณฑบาตของพระภิกษุอย่างเข้มงวดเป็นเวลา 23 วัน 

สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย

เหตุการณ์ความตึงเครียดต่างๆ ได้คลี่คลายลงในช่วงเย็นของวันที่ 10 มี.ค. 2560 หลังดีเอสไอประสานการเข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกายอีกครั้งโดยมีตัวแทนคนกลางเข้าร่วม เช่น คกก.สิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และผู้สื่อข่าวนับร้อยเข้าไปด้วย แต่เมื่อไม่พบตัวพระธัมมชโย ดีเอสไอจึงลดกำลังเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจ และเปิดให้เข้าออกวัดได้ แต่ยังคง ม.44 ไว้ให้วัดเป็นพื้นที่ควบคุมต่อไป

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้รับความสนใจในวงกว้างจนเกิดเสียงวิพากย์วิจารณ์ในทุกวงการที่ปรากฏชัดเจนที่สุดก็คงจะเป็นพื้นที่ความคิดสาธารณะทางโซเชียลเนตเวิร์คทั้งมิติที่เป็นคุณ และโทษที่มีต่อเจ้าหน้าที่ภาครัฐ และวัดพระธรรมกาย

หาก ม.44 คือคมขวาน ที่กำลังฟาดฟันแก่นจันทร์อันหมายถึงวัดพระธรรมกาย ความหอมอันเป็นผลจากการจามขวานลงครั้งแล้วครั้งเล่าก็คงจะเป็นกระแสเสียงของผู้คนผ่านโลกโซเชียลนี้หรือไม่.?

คำเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่..

ความจริงและคำจริงนี้แม้จะเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ในโลกโซเชียลอันกว้างใหญ่ แต่ทุกคำได้ถูกบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์อันเกิดจากการปกป้องพระพุทธศาสนาเหนือชีวิต ให้ปรากกฏสืบต่อจากรุ่นสู่รุ่นไม่มีวันสิ้นสุด

ขอบคุณข้อมูลและภาพ

จากเจ้าของเฟสบุคทุกท่าน