ตอบโจทย์ครั้งแรก..เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีกรณีวัดพระธรรมกาย Full version


อ่านบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มของ

พระเทพรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี 
ในฐานะที่ท่านถูกวางบทบาทที่อาจเรียกได้ว่าเป็นคีย์แมนสำคัญ เพื่อจัดการปัญหาวัดพระธรรมกายฝ่ายปฏิบัติอย่างแท้จริงท่ามกลางข้อสงสัยที่ว่า..

คณะสงฆ์ช่วยกันหรือไม่.? 
พระธัมมชโยปกครองได้หรือไม่.? 

ตอบโจทย์..ชัดทุกคำถาม.!


---ที่ผ่านท่านเจ้าคุณได้ดำเนินการอะไรเกี่ยวกับวัดพระธรรมกาย พระธัมมชโยไปบ้างครับ.?

โดยหน้าที่ของการปกครอง ที่เป็นเจ้าคณะจังหวัดก็ดูแลวัดวาอารามของท่านมาเป็นลำดับๆ  แต่ว่ากระบวนการเรื่องกฎหมายที่ว่าเข้าสู่กระบวนการของกรมสอบสวนคดีพิเศษที่ว่านี้ที่จริงแล้วเป็นเรื่องทางฝ่ายโลก

ก็อยากจะบอกว่าเมื่อเดินไม่ได้ก็มาหาพระ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาตมาเริ่มทำงานเรื่องนี้ตั้งแต่วันที่ 27 พ.ค. 2559 โดย ท่านเจ้าคุณท่านสมเด็จเจ้าคณะใหญ่ ท่านบัญชาลงมาผ่าน ท่านเจ้าคุณพระพรหมโมลี ว่าให้แจ้งเจ้าคณะจังหวัดให้ดำเนินการเรื่องนี้

เพราะมีข่าวเรื่องนี้ปรากฏว่าท่านเจ้าคุณธัมมชโยต้องข้อหาคดีที่ว่านี้ ในวันนั้นเองเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้มาพบอาตมาเอาหนังสือมาส่งเพื่อขอให้อาตมานำตัวของท่านพระธัมมชโยเข้าสู่กระบวนการ

อาตมาได้ต่อว่าไปหน่อยหนึ่งว่าไอ้ตอนออกหมายเรียก พวกคุณไม่ได้เคยมาหาอาตมาเลยแม้แต่น้อยถ้าออกหมายเรียกแต่แรก อาตมาก็จะได้เจรจาคุยกันป่านนี้ก็คงจะเรียบร้อยไปแล้ว 

มาสู่กระบวนการนี้เนียะมันก็ยากอยู่มา ออกหมายจับแล้ว แต่ว่าก็มีการเจรจากันเกิดขึ้น วันที่ 27  ก็เจรจากันส่วนหนึ่งแล้วนิดหน่อยแต่ว่ามาตกลงกันว่าเอาอย่างนี้กก็แล้วกันใหม่ ก็มาเจรจากันวันที่ 31 พ.ค. อีกครั้งหนึ่ง

อาตมาได้แต่งตั้งท่าน สมศักดิ์ โตรักษา เป็นตัวแทนฝ่ายกฎหมายของอาตมาช่วยเจรจากับวัดพระธรรมกาย...

ในช่วงนั้นตอนบ่ายเกือบจะตกกันแล้วคือจะให้ไปรับข้อกล่าวหากันในวัดแต่เช็คไปเช็คมาว่า ทางเบื้องบน หมายถึงทางผู้ใหญ่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษท่านบอกว่าไม่ได้ ต้องมีการตรวจเช็คร่างกายกันก่อนว่าป่วยต้องไปดูกันก่อน 

สุดท้ายก็นั่งคุยกันอยู่นานเป็นเวลานานท่าน ผู้ใหญ่ในกรมสอบสวนคดีพิเศษก็มากัน 3 ท่านด้วยกัน ก็มาคุยเจรจากันไปเจรจากันไปเจรจากันมาจนกระทั่งมืดค่ำก็ไม่ตกลง ตกลงกันไม่ได้ แต่ในทางปฏิบัติก็นัดกันใหม่ว่ามาคุยกันใหม่น่าจะเป็นวันที่ 3 มีมิตตกลงกันขอสงวนไม่พูด

สุดท้ายจาก 1-2-3-4-5 นี่เราตกลงกัน (วันที่ 6 )..เหลือหนึ่งเดียวจากการที่เราได้คุยคณะสงฆ์ได้เจรจากันกับท่าน

คณะสงฆ์ได้เจรจากันกับท่านๆ ยินดีทุกอย่างที่จะเข้ามอบตัว ทั้งการให้ประกันตัวอะไรต้องทำกันให้เสร็จในวัด มาทำประวัติอะไรกันทำให้เสร็จในวัดท่านก็ยินดีหมดทุกอย่าง 

แต่ทางฝ่ายวัดพระธรรมกายขอไว้อย่างหนึ่ง ขอเปลี่ยนพนักงานสอบสวนท่านหนึ่งเพราะเอาบุคคลที่มีปัญหากับทางวัดพระธรรมกายนั้นเข้ามาพูดจาปราศรัยด้วยท่านก็คงไม่พอใจ อาตมาก็บอกว่ามันเป็นสิทธิของผู้ต้องหาก็ขอเจรจากันว่า เรื่องนี้จะต้องจัดการในวันที่ 14 มิ.ย. นะ

ตกลงกันอย่างที่ว่านี้แล้วให้วัดพระธรรมกายทำหนังสือไป แล้วก็จะต้องเสร็จสิ้นกันในวันที่ 14 แต่ปรากฏว่าวันที่ 13 นั้นทางกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ส่งสำนวนการฟ้องทั้งหมดไปให้อัยการ 

อาตมากับที่ปรึกษาของอาตมา ก็เอะ..เราจะเดินกันยังไงนี่มันไปถึงนั่นแล้วเพราะว่าตอนนี้นี่ในทางปฏิบัติผู้ต้องหาต้องไปพบอัยการอย่างเดียว... 

ก็เจรจากันตลอดมาเรื่อยมาประชุมกันเรื่อยมาก็ทำอย่างนี้คณะสงฆ์ ก็เจรจาจนกระทั่งนิมนต์ท่าน ผู้ช่วยเจ้าอาวาสไปคุยกันต่อหน้าที่วัดพิชญาติฯ ท่านสมเด็จหลวงพ่อท่านก็บอกว่า..เอ้าก็เข้าสู่กระบวนการซะเราก็ได้รับคำตอบว่า..

เขาไม่ไว้วางใจเจ้าหน้าที่เขาก็พูดอยู่อย่างนี้..ไม่ไว้วางใจ กลัวว่าเมื่อนิมนต์เขาไปสู่กระบวนการแล้วเขาจะจับท่านให้ลาสิกขา หรือลาสึก มันก็เป็นประเด็นมาอย่างนี้ตลอด



---แปลว่าจากปีที่แล้วมีความพยายามเจรจามาต่อเนื่องเหรอครับ.?

ตลอด..ต่อเนื่องเลย


---แต่ว่าข้างนอกเขาวิพากษ์วิจารณ์ว่าคณะสงฆ์ไม่ทำอะไรเลยไม่มีความคืบหน้า..ทางโลกก็เลยมาถึงมาตรา 44 .?

เจรจากันมาต่อเนื่องจนกระทั่ง คือครั้งสุดท้ายเลยนะ.. เอาครั้งสุดท้ายแล้วกันผู้ใหญ่ในฝ่ายรัฐบาลก็ได้โทรศัพท์คือมาประชุมกันอีกที่หนึ่ง อันนี้อีกที่หนึ่งนะท่านบอกว่า

...ท่านบอกว่าเราคุยกันไม่รู้เรื่องหรอก เราคุยกันเฉพาะพวกเรา เอาให้ตัวคู่กรณีเขามาคุยกันดีกว่าก็คือเอากรมสอบสวนคดีพิเศษมาคุยกัน กับทางวัดพระธรรมกายมาคุยกัน 

ก็ตกลงเจรจาคุยกันๆ ที่ วัดสายสุวพรรณ วัดที่อาตมาสร้างใหม่ คุยก็ไม่ตกลงอีกเพราะเหตุผลก็คือว่าทางวัดพระธรรมกายขอให้ท่าน..ขอความเป็นธรรมไอ้การขอความเป็นธรรมนี่

ท่านรัฐมนตรีก็บอกว่า จะขอได้ก็ต่อเมื่อผู้ต้องหาเข้าสู่กระบวนการแล้ว แล้วก็ต้องลายมือชื่อของตัวเองก็ไม่ตกลงกันอีก

จนกระทั่งเจรจาจนกระทั่งสุดท้ายนี่ ทางฝ่ายบ้านเมืองท่านก็เมตตาพอสมควรนะ ท่านเมตตาพอสมควร คือว่าขอให้ทางฝ่ายวัดพระธรรมกาย คือท่านเจ้าคุณธัมมชโยแสดงหนังสือก็ได้ ทำเป็นหนังสือก็ได้แสดงจิตจำนงค์ในอันที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทุกประการ แต่เนื่องจากว่าตอนนี้ป่วยอยู่อาพาธขอให้ส่งแพทย์ไปรักษาพยาบาลก่อนดูแลรักษาพยาบาลก่อน

ก็คุยกันหลายครั้งหลายหน จนกระทั่งถึงวันที่ 14 ตอนเที่ยง..อาตมาก็พูดอัดไปว่าเราจะเอาอะไรไปสู้กับกฎหมายบ้านเมืองเขา สุดท้ายกลางคืนเขาก็ประกาศ ม.44 ทันที .!


---แปลว่าก่อนจะประกาศ ม.44 ก็มีความพยายามจะเจรจาครั้งสุดท้าย โดยยื่นเงื่อนไขว่าให้วัดยื่นหนังสือแสดงความจำนงค์มาว่าต้องการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้วก็แสดงความบริสุทธิ์ใจให้แพทย์จากภายนอกเข้ามาตรวจร่างกายถ้าหากว่าป่วยจริง แต่ก็ตกลงกันไม่ได้อีก.? 

ยังตกลงกันไม่ได้..ไอ้ตรงนี้ต้องบอกอย่างนี้ว่า เหตุผลคือว่าเขากลัว (กลัวสึกอย่างเดียว.?) กลัวสึกด้วยแล้วก็นอกจากกลัวสึกก็คือ เขาไม่ไว้วางใจที่เราติดตามมาตั้งแต่ทีแรกกับฝ่ายบ้านเมือง


---พอพระอาจารย์เล่าให้ฟังตั้งแต่ทีแรกจนถึงวินาทีที่จะประกาศมาตรา 44 ก็เห็นอยู่ว่ากระบวนการทางสงฆ์พยายามที่จะเจรจาทั้งแบบเปิดเผย และแบบไม่เปิดเผยแต่ว่ามันก็ยิ่งสะท้อนหรือเปล่าว่าสงฆ์ปกครองสงฆ์ไม่ได้ พระธัมมชโยใครจะปกครองท่านได้.?

เขาเชื่อ..เขาเชื่อเรานะเขาเชื่อคณะสงฆ์นะ แต่เขาไม่เชื่อใจทางฝ่ายบ้านเมือง เมื่อเขาไปสู่กระบวนการแล้วนี่เขาจะเป็นอย่างไร..เขาไม่ยอมแม้กระทั่งวันที่เข้าไปตรวจครั้งสุดท้ายนี่ถ้าไม่ได้คณะสงฆ์..ไม่ได้

---ขนาดท่านเจ้าคณะใหญ่มีรับสั่งมานี่.?

เราทำปฏิบัติตามคำสั่งของท่านๆ  แต่ว่าถามว่าท่านยอมไหม..ถ้าเป็นพระสงฆ์เช่นกัน แต่บังเอิญมีขบวนการเจ้าหน้าที่ทางฝ่ายบ้านเมือง โดยเฉพาะก็ของสอบสวนคดีพิเศษนี่ท่านไม่ไว้วางใจ


---แต่คนมองว่าพอท่านไม่ยอมปุ๊บคนฝากความหวังไว้ที่กระบวนการทางสงฆ์ว่าสงฆ์ปกครองกันไม่ได้ก็เลยมองอย่างนั้น ที่จริงเงื่อนไขคือเพราะท่านไม่ไว้วางใจ.?

ไม่ไว้วางใจ ใช้คำว่าอย่างนี้ไม่ไว้ใจ เพราะท่านไม่ไว้วางใจเจ้าหน้าที่ของรัฐ.!


---มันมีความพยายามช่วยเหลือกันไหมครับพระอาจารย์ครับ..ในทางสงฆ์.?

ไม่มีทางเลย เพราะฉันปฏิบัติหน้าที่ของฉันมานี่ โดยเฉพาะหน้าที่ของฉันที่ปฏิบัติมานี่สงฆ์ไม่ทำอะไร คุณก็ต้องย้อนกลับไปว่าเมื่อมีคดีเรื่องนี้เกิดขึ้นนี่วันที่ 5 ธันวาคม (พ.ศ.2559)

ฉันก็ยกท่านเป็นกิตติมศักดิ์ แล้วจะว่าสงฆ์ไม่ทำงานได้อย่างไรให้ท่านหมดสภาพหน้าที่ของการเป็นเจ้าอาวาส 



---ก็เป็นมีรักษาการเจ้าอาวาสขึ้นมา.?

มีรักษาการฯ ขึ้นมาแล้วจะบอกว่าสงฆ์ไม่ทำงานได้ยังไง สงฆ์ทำงานมาตลอด แต่ว่าการทำงานของพระสงฆ์นั้นก็ต้องบอกว่าไม่ใช่ว่าจะไปโฆษณาประชาสัมพันธ์ออกข่าวซะเมื่อไหร่


---ถ้าเราลำดับการปกครองของสงฆ์นี่ ถ้าสูงกว่าท่านธัมมชโย ก็ต้องเป็น จค.ตำบล จค.อำเภอ  จค.จังหวัด จค.ภาค ถ้าสูงสุดเลยก็คือ เจ้าคณะหน ท่านเจ้าคุณก็คงไม่ปฏิเสธว่ามีกระแสวิพากษ์วิจารณ์สมเด็จท่านอาจจะนิ่งหรือเปล่า ข้อเท็จจริงเป็นยังไง.?

ไม่นิ่งนะ ท่านสั่งตลอดแล้วก็.. ฉันก็เอ้อ  (เพียงแต่ว่าฝ่ายปฏบัตินี่อาจจะมาลงที่เจ้าคณะจังหวัดมากกว่า.? ) คนที่ทำงานมากที่สุดก็คือเจ้าคณะจังหวัดนะ ดังที่ท่านวิษณุท่านว่านั่นละ


---พระที่สายการปกครองท่านธัมมชโยนี่เกรงกลัวบารมีสิ่งที่ท่านทำมาตลอดไหมครับ.?

ก็ถามว่าตรงนี้..ฉันก็บอกว่าอย่างน้อยก็ 90 เปอร์เซ็นต์อย่างนี้ดีกว่าถ้า ณ วันนี้ไม่มีอาตมาไม่รู้อะไรไมันจะเกิดขึ้นเหมือนกัน ( อาจจะยิ่งกว่านี้.? ) อาตมาตอบไม่ได้




---จุดเปลี่ยนสำคัญที่อาจจะทำให้ท่านเจ้าคุณพาดีเอสไอเข้าไปตรวจสอบภายในวัดพระธรรมกาย เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (10 มี.ค. 2560) ได้จนนำไปสู่การยุติปฏิบัติการมันคืออะไรครับมีข่าวล่ำลือกันมากว่าภายในวัดพระธรรมกายมีคล้ายๆ การยึดอำนาจการปฏิวัติผู้นำ ผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจภายในวัดพระธรรมกายทำให้ดีเอสไอเข้าไปตรวจได้.?

จุดเปลี่ยนสำคัญนี่อาตมานึกว่า..คือก็ได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับท่านว่า เพื่อให้เกิดความสงบ และเพื่อความปรองดองสามัคคีกัน หลวงพ่อขอร้องใช้คำว่าขอร้อง ให้พวกเรานี่ไปบอกกับชาวบ้าน ประชาชนเขาได้ทราบถึงเจตนารมณ์ว่าที่เราทำอย่างนี้เพื่ออะไร

เราไม่ต้องการให้มีปัญหาเกิดขึ้นภายหลัง เอ่อ.. ก็คือเจรจาให้ฟังว่าขอให้เรานี้เข้าสู่กระบวนการเสียอะไรทำนองนั้นนะทีนี้สุดท้ายนี่เจรจาครั้งสุดท้ายก็คือ

ตกลงกันว่าลดเจ้าหน้าที่โดยเฉพาะกรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้น้อยลงแต่ขอเพิ่มพระให้มากขึ้นโยมก็ดีใจ

คือเพิ่มพระให้มากขึ้นอาตมาก็ไม่รู้จะทำยังไงก็ต้องใช้ เจ้าคณะฯ แล้วก็ พระวินยาธิการ ของจังหวัดปทุมธานี คือที่พวกเราผู้สื่อข่าวเรียกกันว่า ตำรวจพระ นี่คือเข้าไปช่วยนะไม่ใช่ตรวจ ข้าไปช่วยเจ้าหน้าที่เขา


---การตรวจยังคงเป็นของเจ้าหน้าที่ เพียงแต่ว่ามีพระสงฆ์เดินนำ มีเจ้าคณะเดินนำ ญาติโยมเขาอาจจะ..สบายใจ.?

พวกเราเข้าไปช่วยเขา เขาดีใจเขาสบายใจ เขายกมือสาธุกันหมดพอเห็นพระเราเข้าไปทำงาน แล้วเหตุการณ์จากวันนั้นที่มันอืมครึมมาตลอดพอพระเข้าไปตรวจนี่เขาจบด้วยดีหมดทุกสิ่งทุกอย่าง


---ตกลงไม่ได้มีเหตุผลว่า ภายในเขายึดอำนาจเขาปฏิวัติ ถึงตัดสินใจให้เข้าไปตรวจ.?

ไม่มีๆ ไม่มีลึกลับซับซ้อน..ไม่มี



---ทีนี้การตั้งเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายรูปใหม่นี่เชื่อว่าคงจะไม่ง่ายๆ เหมือนวัดทั่วไปแน่นอนที่นี่วัดใหญ่พระสงฆ์ก็เยอะ ญาติโยมก็เยอะคนที่สนับสนุนก็เยอะจะต้องเป็นที่ยอมรับทั้งภายใน และภายนอกด้วย คุณสมบัติเป็นอย่างไรครับ .?

คุณสมบัติโดยทั่วไปก็คือ ประการแรกเลยเป็นที่เคารพนับถือของคฤหัสถ์ และบรรพชิตมีความรู้สมควรแก่ตำแหน่ง นี่คือหลักทั่วไปที่ปรากฎทั่วไปที่ว่าคุณสมบัติของคนที่จะเป็นเจ้าอาวาส

แต่ว่าในวัดพระธรรมกายนี่ ขอให้พวกเราได้รู้ว่า..

มีพระผู้รู้มากเปรียญธรรม ๙ ประโยคนี่ 60 กว่ารูป แต่ว่าการปฏบัติหน้าที่ของเขานั้นเขาเคารพครูบาอาจารย์

หลวงพ่อธัมมชโย นักธรรมชั้นโท หลวงพ่อทัตตชีโว นักธรรมชั้นตรี แต่ทำไมเขาเคารพได้คือเขาเคารพครูบาอาจารย์ที่นี้เขาเชื่อฟังครูบาอาจารย์ 

วัดพระธรรมกายนี่เขาใช้คำว่าเขาทำงานเป็นทีมงาน เมื่อเขาตกลงว่ารูปหนึ่งรูปใดแล้วนี่เขาก็ทำของเขาอย่างนั้น

แต่การคัดเลือกวัดธรรมกายไม่ได้คัดเลือก แต่คุยกันโดยเฉพาะก็คือ ท่านเจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบล รองฯ เจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบลนี่จะเป็นผู้ที่คัดเอาคุณสมบัติของผู้ที่จะเป็นเจ้าอาวาส และนำเสนอเจ้าคณะจังหวัดเป็นผู้พิจารณาแต่งตั้งนี่คือขั้นตอนในการแต่งตั้งนี่คือขั้นตอนในการแต่งตั้ง

ถามว่ามีปัญหาอะไรไหม..

อาตมานึกว่าไม่มีปัญหาอะไร เหตุผลที่ว่าไม่มีปัญหาเพราะว่าเขาทำงานเป็นรูปแบบในระบบแบบการจัดการมีการวางแผนมีการจัดตั้งองค์กร


---จริงๆ เขาวางตัวตายตัวแทนได้แล้ว .?

ได้เลยๆ ก็คืออย่างถ้าพูดกันตรงนี้ก็คือ เจ้าคุณทัตตะ ที่เขาวางไว้ถ้าหากว่าท่านเจ้าคุณธัมมชโยเป็นอะไรไปก็จะเป็น ก็คงจะเป็นท่านเจ้าคุณทัตตะเพราะเป็นรองเจ้าอาวาสแล้วก็จาก ผู้ช่วยฯ เขานี่ 20 กว่ารูป นะที่มีความรู้ทั้งนั้นแล้วเป็นพระราชาคณะก็ตั้งหลายรูป


---แหม.. แต่ถ้าพูดถึงหลวงพ่อทัตตะนี่อาจจะยากแล้วหรือเปล่าเพราะว่าคดีความก็มีถอดสมณศักดิ์ก็มี.?

อันนี้ไม่ขอพูดดีกว่านะ ของด.! 


---กระแสข่าวก็เลยพูดออกมาว่าอาจจะเป็นท่านสมชาย ฐานวุฒฺโฑ ท่านเจ้าคุณมีความเห็นอย่างไรครับ .?

คือได้ทั้งหมดละ ..ในวัดน่ะเขาได้ทั้งหมดที่ฉันบอกเขาทำงานเป็นทีม






---จริงไหมที่พระมหาสมชาย ฐานวุฒฺโฑ สามารถประสานได้กับภายนอก เช่น ดีเอสไอก็ดี สำนักพุทธฯ ก็ดีได้มากกว่ารูปอื่นๆ.?

ที่ประสานได้มากกว่ารูปอื่นก็คือ อาตมากับท่านพระครูปลัดสุวัฒนโพธิคุณ คือท่านพระสมชายก็คือประสานกับท่านมาตลอดในการที่เราจะเข้าสู่กระบวนการ


---การที่ประสานจากข้างนอกได้ มันหมายถึงการพยายามจะเปลี่ยนแปลงอำนาจอะไรบางอย่างของวัดพระธรรมกายหรือเปล่า.?

คงไม่ใช่ ..อาตมานึกว่าไม่ใช่.! 

เพราะว่าก็ยืนยันว่าวัดพระธรรมกายเขาทำงานเป็นรูปทีมงานๆ เหมือนอย่างกับเป็นคณะรัฐบาล ใครก็ได้ที่มาเป็น


---ยังไงก็เป็นคนใน.?

ยังไงก็ต้องเป็นคนใน คนนอกเป็นไปไม่ได้ (เพราะคนในไม่ยอมรับ.?) เอ้อ ..เขาไม่ยอมรับยิ่งอันตรายใหญ่


---แต่คนในนี่ แหม..มันก็อาจจะมีการเมืองข้างในวัดพระธรรมกาย.?

อาตมาคงจะไปรู้ลึกๆ ไม่ได้นะเพราะว่าบางทีมันก็ไม่ใช่เรื่อง..



---ลูกศิษย์ลูกหาบางคนเขาก็เลยมองว่าแต่งตั้งใครมา ถ้าจะเข้าไปพยายามเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างภายในวัดมากเกินไปสุดท้ายก็จะกลายเป็นศึกในเกิดเป็นปัญหาความขัดแย้งภายใน.?

อันนี้คงไม่มีปัญหา ในความรู้สึกของอาตมาเขาทำงานเป็นระบบเขาวางอันดับของเขาวางงานเป็นขั้นตอนเอาไว้คือการบริหารจัดการของเขาน่ะมันเป็นระบบอยู่แล้ว


---ขั้นตอนการสึกพระธัมมชโยหลังจากที่สำนักพุทธฯ ยื่นเรื่องไปที่มหาเถรสมาคมให้ใช้ กฎ มส. ฉบับที่ 21 เจ้าคณะจังหวัดปทุมนี่ต้องมีบทบาทยังไงเกี่ยวกับเรื่องนี้ครับ.?

ถ้าถามว่าอาตมามีบทบาทอะไรไหมตอนนี้เป็นแต่เพียงส่งเรื่อง เมื่อเบื้องบนแจ้งมาอาตมาก็ส่งเรื่องไป ส่งเรื่องไปให้กับผู้ที่รับผิดชอบถ้าหากว่าจะเป็นลำดับก็คือ

เจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบล  เจ้าอาวาส หรือผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสของวัดพระธรรมกาย เหตุผลก็คือว่าขณะนี้ท่านอยู่ในลักษณะพระลูกวัด ในกฎหมาย กฎมหาเถรสมาคมท่านบอกว่าพระภิกษุรูปใดสังกัดวัดใดวัดหนึ่งประพฤติผิดธรรมวินัย เรื่องเดียวกันเป็นอาจิณหลายครั้งหลายหนก็ตาม

ก็ให้เป็นอำนาจหน้าที่ของเจ้าอาวาสวัดนั้นที่ภิกษุนั้นสังกัด ว่ากล่าวตักเตือนชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรในเบื้องต้นแล้วให้กำหนดเวลาให้แก่ท่านนี่ตัวบทนะ

เมื่อท่านไม่ปฏิบัติตาม จึงเป็นอำนาจหน้าที่ของท่านเจ้าอาวาสต้องชี้แจงทำรายงานไปถึงท่านเจ้าคณะอำเภอเพื่อให้พิจารณาวินิจฉัย..วินิจฉัยนะสละสมณเพศ


---จบที่เจ้าคณะอำเภอได้เลย.?

แค่นั้นเองไม่ต้องมาถึงที่อาตมา ..นี่หมายถึงกฎ 21 


---แต่แหมไม่แน่ใจนะ หรือว่าอาจจะมองว่าเพียงแค่เจ้าคณะอำเภอจะสึกท่านธัมมชโยจริงหรือครับ.?

ไอ้การสึกหาลาเพศนี่โยมก็ต้องเข้าใจอย่างหนึ่งว่าพระถูกให้สึกนี่มันถึงประหารชีวิตเหมือนกับประหารชีวิตเชียวนะ การที่จะให้ฉันสึกหาลาเพศท่านนั้นก็ต้องดูว่าท่านผิดอะไรมากมายไหม

แล้วมันเป็นผลกระทบ ต่อความมั่นคงของพระศาสนาหรือเปล่า.. เป็นผลกระทบต่อประเทศชาติบ้านเมืองไหม ถ้ามันไม่มีผลกระทบจนเกินไปก็ต้องดูกันให้ชัดเจน

อาตมาต้องขอยกตัวอย่างสักเรื่องหนึ่งเรื่องที่พระพุทธเจ้านี่แหละ 

การที่พระองค์จะตัดสินใครสักคนหนึ่งตัดสินลงโทษใครสักคนหนึ่งก็ต้องเรียกมาถามจนกระทั่งได้สอบสวนทวนความแล้วว่าผิดอะไร เสร็จแล้วพระองค์จึงได้ทรงบัญญัติสิกขาบท

แล้วก็แสดงโทษว่าหนักๆ ก็คือขาดจากความเป็นพระ เบาก็ต้องไปอยู่กรรม แล้วก็อีกเบาก็ต้องประจานต่อหน้าด้วยกันนี่คือ สมัยพระพุทธองค์

ฉะนั้นนี่เราก็ต้องดูให้ดีนะ การที่จะให้คนเขาสึกได้สักคนนี่แหมมันไม่ใช่ธรรมดา.! 

แล้วบวชมานี่ในชีวิตของความเป็นพระ 30 กว่าพรรษา 40 กว่าพรรษานี้มาถึงให้ท่านสละสมณเพศให้ท่านลาสิกขานี่มีเหตุผลอย่างไรบ้าง เหมาะสมๆ น้ำสมเนื้อกันไหมนะ 

ขณะนี้นี่พวกเราก็รักษาแผลกันขนาดหนักอยู่แล้ว คณะสงฆ์นี่แผลเต็มตัวไปหมดเลยก็เลยต้องรักษากันเต็มที่หน่อยก็ต้องระมัดระวัง




---มันจบที่เจ้าคณะอำเภอได้ก็จริงแต่แหมวัดพระธรรมกายวัดใหญ่ ท่านธัมมชโยก็มีคนสนับสนุนมาก มันจำเป็นไหมที่เบื้องบน ตามลำดับชั้นปกครอง อย่างน้อยๆ ก็จะต้องมีเจ้าคณะภาค เจ้าคณะหน สมเด็จท่านต้องส่งสัญญาณซิกแนลบางอย่างว่า..เอาละไม่ต้องกลัวสึกท่านธัมมชโยได้ถ้ามันผิดจริง.?

ถ้ามันผิดจริงมันก็เป็นไปได้ท่านจะใช้คำว่า ให้ดำเนินการปฏิบัติไปตามกฎมหาเถรสมาคม กฎหมายที่เขากำหนดไว้ นี้คือจะใช้คำพูดอย่างนี้ท่านจะไม่ใช้คำว่า เอาให้สึก ท่านจะไม่พูดหรอกให้เดินไปตามครรลองของมัน


---แต่ตอนนี้มีสัญญาณบางอย่างๆ ที่ผมถามมาจากเบื้องบนหรือยัง.?

ยัง..ยังไม่มีเป็นแต่เพียงว่าที่อาตมาทราบให้เข้าสู่ขบวนการเรื่องของกฎหมาย อย่าหนีเลยยังไม่ได้พูดถึงว่าต้องสึก..ตอนนี้คือมีหนังสือแจ้งมาให้อาตมาทราบ

อาตมาเป็นแต่เพียงแจ้งให้เขาทราบว่าให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม คือขบวนการของกฎหมายคือมันจะช่วยเราได้คือยังไงเสียพระเราก็หลีกหนีไม่พ้น โดยเฉพาะก็ต้องย้ำตรงนี้สักหน่อยหนึ่งว่าพระเราก็ต้องรักษากฎหมายรักษามากกว่าโยม

1. กฎหมายบ้านเมืองตามรัฐธรรมนูญที่กำหนดไว้
2. กฎ พ.ร.บ.คณะสงฆ์
3. กฎมหาเถรสมาคม กฎกระทรวง

นอกจากนี้แล้วยังมีจารีตประเพณีอีกต่างหากพระนี่มากๆ

ทีนี้โดยเฉพาะกฎหมายนี่ก็คือฝ่ายบ้านเมืองก็ขอให้ย้อนไปว่าแม้แต่พระพุทธเจ้าก็ยังสอนให้เราปฏิบัติตามกฎหมายบ้านเมือง อนุชานามิ ภิกฺขเว ราชูนัง อนุวัตติตุง ดูก่อนภิกษุทั้งหลายเราอนุญาตพวกเธอนั้นปฏิบัติตามพระราชา

ในครั้งก่อนโน้นนั้นกฎหมายก็คืออยู่ในลักษณะสมบูรณาญาสิทธิราชย์ คือพระเจ้าแผ่นดินในครั้งพุทธกาลท่านออกกฎหมายมายังไงก็ต้องปฏิบัติตาม แม้แต่พระพุทธเจ้าก็ยังต้องปฏิบัติตามนะ ปฏิบัติตามยังไงขอยกตัวอย่างเช่น

ครั้งหนึ่งพระเจ้าสุทโธทนะไปขอพรว่าอย่าบวชลูกเขาอีกเลยนะต่อไปนี้ อย่าบวชลูกใครอีกเลยขอให้ได้รับอนุญาตเสียก่อน คือพระองค์พระเจ้าสุทโธทนะน่ะเสียดายพระราหุล เหตุที่เสียดายพระราหุลเพราะลูกชายก็บวชแล้ว ไม่มีโอกาสที่จะเป็นพระเจ้าแผ่นดินอีกแล้วให้ราหุลบวชซะก็หมดเลยๆ ต้องไปขอพรพระพุทธเจ้าก็อนุญาต เราจะเห็นได้ว่าเวลาเราบวชจะมีคำหนึ่งว่า

อะนุญญาโตสิ มาตาปิตุหิ ได้รับอนุญาตจากมารดาบิดาหรือยัง นี่เราจะเห็นได้ว่าตั้งแต่พุทธกาลมาแล้วนี่พระสงฆ์ก็ต้องอนุวัติไปตามกฎหมายบ้านเมืองหลีกหนีไม่พ้น ไม่มีใครที่จะหลีกหนีกฎหมายบ้านเมืองพ้น

ในขณะเดียวกันกฎหมายพระธรรมวินัย ที่สำคัญที่สุดก็คือว่าเราต้องเข้าใจอย่างหนึ่งว่าตัวเองทำผิดหรือเปล่า บางทีเราไปกล่าวหาเขาโทษเขาว่าเขาเป็นอาบัตนั้นอาบัตินี้ หรือทำอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ ดีไม่ดีมันก็เข้าตัวเรา เหมือนอย่างกับฝ่ายโลกว่าเราไปฟ้องเขานั้นสุดท้ายเขาไม่ผิด เขาก็บอกว่าเราหมิ่นประมาทถูกไหม

ฉะนั้นนี่เราก็ต้องระมัดระวังเหมือนกัน แม้แต่พระพุทธเจ้าก็สอนไว้ว่า แม้แต่อาบัติชั่วหยาบของพระก็ยังไม่ให้ไปบอกแก่อนุปสัมบันเลย ปัจจุบันนี้ชาวบ้าน พระไปบอกอาบัติชั่วหยาบมันเป็นอาบัตินั้นอาบัตินี้กันนี่มั่วไปหมดเลย




---ในทางปฏิบัติการบังคับใช้กับพระธัมมชโยก็มีเสียงวิพากวิจารณ์ว่าท่านธัมมชโยนี่จริงๆ แล้วมองข้ามพระสังฆาธิการ พระลำดับการปกครองของท่านมาตลอด เจ้าคณะตำบล อำเภอนี่ไม่ต้องพูดถึง เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ถ้าพูดภาษาชาวบ้านก็มองไม่เห็นหัวเลยว่างั้นเถอะไปสนิทสนมกับพระชั้นผู้ใหญ่อย่างเดียว เพราะฉะนั้นใครจะกล้าปกครองท่าน .?

เรื่องนี้ไม่มีปัญหานะ ที่จริงที่ท่านปฏิบัติมานี่ท่านไม่มีปัญหากับอาตมานะท่านยังเชื่อรับฟังอยู่.! 

แต่กระบวนการครั้งนี้นี่มันเป็นกระบวนการที่แปลกประหลาดคือ มันไม่ไว้วางใจกัน

ขอย้อนกลับไปเมื่อปี 41 

อาตมาก็อยู่ในเรื่องนั้น เหตุการณ์คล้ายกันทำไมท่านไปมอบตัวละเมื่อคณะสงฆ์ให้มอบตัวทำไมท่านไปมอบตัวละ ครั้งนั้นยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย

ทำไมท่านไปมอบตัวละ 

ตอนนั้นเป็นท่านเจ้าคณะใหญ่วัดชนะสงคราม ท่านให้ไปมอบตัวท่านก็ไป คือไม่ได้หมายความว่าเจ้าคณะจังหวัดไม่รู้ ..รู้ทราบหมดละท่านก็ไปมอบตัวซะ ท่านก็ไปไม่เห็นมันผิดอะไรตรงไหนไม่ได้หมายความว่าไม่ได้ทำตาม..ท่านก็ทำได้

แต่ครั้งนี้นี่ให้คุณรู้ไว้ด้วยว่า 

มันเกิดความไม่ไว้วางใจกัน ย้ำตรงนี้เลยว่า ..ความไม่ไว้วางใจเป็นประการสำคัญเลยในการปฏิบัติงานครั้งนี้มันถึงได้มีเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้น.!


---มีช่วงเวลาไหนที่ท่านเจ้าคุณ รู้สึกอึดอัดอีหลักอีเหรื่อที่จะต้องปกครองพระธัมมชโยบ้างไหมฮะ.?

อาตมาไม่มีความหนักใจนะไม่เคยหนักใจเลย เพราะว่าเราปฏิบัติไปตามหน้าที่ของเราเขาให้อาตมาเป็นเจ้าคณะจังหวัดเราก็ทำหน้าที่เจ้าคณะจังหวัดไป แล้วเขาให้เราทำหน้าที่อะไรเราก็ทำหน้าที่นั้นให้มันสมบูรณ์ก็แล้วกัน

แต่ถามว่า.. อึดอัดไหมตอนนี้ ก็อึดอัดในการปฏิบัติหน้าที่โดยเฉพาะที่เขาออกมาตรา 44 มานี่ เหตุผลก็คือที่ว่าก็อยากจะพูดบอกไว้ตรงนี้เลยว่า

ทำไมถึงพูดบอกว่าไม่สบายใจ..

ใช้คำว่าไม่สบายใจดีกว่า อาตมาถามคุณวิษณุว่าการออกกฎหมายนี้มานี่ ถามพระบ้างหรือเปล่า..อาตมายังยืนยันว่าถามท่านจริงๆ ท่านก็บอกว่าไม่ได้ถาม
เพราะว่าบางข้อนี่มันเหมือนอย่างกับว่าเราต้องทำตามเขาให้พระสังฆาธิการเจ้าคณะผู้ปกครองพระภิกษุให้การสนับสนุนเจ้าหน้าที่หากขัดขวาง ขัดขืน มีความผิด.! 

..มีความผิด อาตมาเป็นเจ้าคณะ เจ้าคณะตำบลก็เป็นเจ้าคณะตอนนี้พระสังฆาธิการนี่ ขอโทษตอนนี้รวมไปถึงเบื้องบนด้วยซ้ำไป ถ้าดีเอสไอมีหนังสือไปขอความร่วมมือให้จับให้สึกให้จับทำอย่างนั้นอย่างนี้คุณจะทำยังไง ดังนั้นอาตมาบอกถ้าใช้คำว่าเฉพาะจังหวัดปทุมธานีอาตมาจะรับผิดชอบ


---ตกลงที่เจ้าคณะดำเนินการทุกอย่างที่ผ่านมาเป็นเพราะถูกบังคับโดยกฎหมาย หรือว่าทำตามลำดับการปกครองของสงฆ์.?

กฎหมายส่วนหนึ่งเพื่อให้เป็นไปตามกระบวนการของเขา (แต่พระอาจารย์ยอมรับว่ากฎหมายทำให้รู้สึกอึดอัดในทางปฏิบัติ.? ) โดยเฉพาะกฎหมายที่ว่านี้แต่ที่เราทำมานี่มันเกือบจะสำเร็จหลายสิ่งหลายอย่างแล้ว

แต่ว่ามันอยู่ที่ว่านี้ก็ย้ำว่า..ไม่ไว้วางใจกัน.! เราได้เจรจากันมาตลอดคุยกันมาตลอดเขาเชื่อพระนะ


---แต่ทางการปกครองของสงฆ์ทำแบบนี้คนเขาก็จะมองว่าช่วยเหลือกัน.?

ไม่มีการช่วยเหลือหรอก ถ้าช่วยเหลือฉันก็คงไม่ให้ท่านพักแล้วล่ะ ท่านก็คงไม่ได้อยู่ในตำแหน่งในขณะท่านมีเรื่องนี้ เราดูเหตุผลต่างๆ แล้วเราก็ให้ท่านพักแต่การให้พักของอาตมานั่นก็อาจจะเบาหน่อย คือไม่ใช่ปลดไม่ใช่ถอดถอน แต่ให้พักยกเป็นกิตติมศักดิ์ซะอย่างนั้น



---สุดท้ายแล้วพระอาจารย์มองอนาคตของวัดพระธรรมกายไว้ยังไงบ้างครับ จะเข้าไปจัดระเบียบเรื่องคำสอน เรื่องการขอให้คนมาทำบุญ เรื่องกิจกรรมทางศาสนาต่างๆ ที่เขาวิพากย์วิจารณ์กัน.?

ตอนนี้นี่อาตมาก็ได้รับบัญชาจากผู้ใหญ่ว่า..

หลักจากเหตุการณ์เรียบร้อยแล้ว ก็ให้เข้าไปช่วยดูแลควบคุมด้วยให้เต็มที่ ซึ่งกำลังหาคำแนะนำที่ท่านเจ้าคณะภาค 1 องค์เก่าที่ท่านวัดยานนาวาได้แนะนำไว้ยังหาไม่เจออยู่จะเอาคำแนะนำอันนั้นเป็นตัวอย่างเป็นบรรทัดฐานในอันที่จะให้ท่านได้ทำงานได้ปฏิบัติงาน

คือปกติแล้วไม่ได้หมายความว่าเจ้าคณะจังหวัดไม่ได้ควบคุม..ควบคุมมาตลอดครับเพราะว่าเราๆ เชื่อมือเขาในการปฏิบัติหน้าที่ในการทำงานทุกเรื่อง

ไม่ว่าจะเป็นการอบรม ไม่ว่าจะเป็นการจัดกิจกรรมอะไรต่างๆ นี่เขาทำได้ดีอยู่แล้วแต่เมื่อมีปัญหาอย่างนี้เกิดขึ้นเราก็จะต้องเพิ่มความสามารถขอบเขตในการปฏิบัติหน้าที่ให้มากขึ้น อย่างเช่น

เมื่อวันที่ 13 มี.ค. ที่ผ่านมาเราก็เข้าไปปฏิบัติงานไปประชุมกะเขาแล้วก็ให้เขารายงานถึงการปฏิบัติการเรื่องการปกครองก็ดี การเผยแผ่ก็ดี การศึกษาก็ดี การศึกษาสงเคราะห์ของเขาก็ดีเนียะ คือเขาทำดีอยู่แล้วเช่นการศึกษา
อาตมานึกว่าเป็นวัดหนึ่งที่มีนักเรียนสอบไล่ได้มากที่สุด นักเรียนบาลี คุณไปดูได้ไม่มีใครปฏิเสธเลย ศึกษาสงเคราะห์เขาก็ให้การสงเคราะห์กับบุคคลทั่วไปกับนักเรียนทั่วไป 

แล้วก็โดยเฉพาะเขาส่งรายได้เอ่อ..เกี่ยวกับเรื่องกิจกรรมตักบาตรนี่ส่งไปทางภาคใต้ คุณก็ดู (สิ่งใดที่ดีอยู่แล้วก็ให้เขาดำเนินการต่อไป.?) ..เขาดำเนินงานต่อไปๆ การเผยแผ่ของเขานั้นก็เราก็ยึดหลักอยู่แล้วว่าตามแนวสติปัฏฐาน 4  อาโลวกรรมฐานมีตั้ง 40 อย่าง

สัมมา อะระหัง ก็เป็นแบบหนึ่งก็เป็นหน้าที่ของเขา แต่ว่าเราต้องยึดไว้ว่าต้องปฏิบัติให้มันถูกต้องเท่านั้นเองอย่างออกนอกลู่นอกกรอบเท่านั้นเอง

ไอ้เรื่องการบริจาค ก็อยากจะพูดว่า..
มันเป็นศรัทธาของชาวบ้านไปห้ามเขาไม่ได้ เขาจะให้ทำบุญยังไงมันเรื่องของเขาอย่างสมมติว่า คุณบอกไปทำบุญกันหน่อย ถ้าคุณไม่มีศรัทธาคุณจะทำไหมก็ไม่ทำมันเรื่องศรัทธา


---แล้วพระอาจารย์คิดว่าไม่มีพระธัมมชโยแล้วนี่ จะคุมก็ง่ายกว่าเดิมไหมครับ.?

ก็เหมือนเดิมแหละ แล้วก็คนเขาก็ยังศรัทธาอยู่เหมือนเดิม อาตมาอยากจะบอกตรงนี้นะว่าอยากให้เขารวมคนสักแสนคนไหมละ.. 
อาตมาจะบอกเขานี่ เขารวมได้เพราะมันเกิดจากศรัทธาของเขา เกิดศรัทธาของชาวบ้าน และอาตมานึกต่อไปว่า ..

วัดพระธรรมกายนี่จะเป็นศูนย์ๆ หนึ่งนอกจากพุทธมณฑล ที่จะเป็นศูนย์รวมของพุทธศาสนาเพราะปัจจุบันนี้นี่ถ้าเราจัดระบบระเบียบให้ดี รัฐเข้ามาช่วยดูด้วย คณะสงฆ์เข้ามาช่วยดูแลด้วย
จะเป็นสิ่งที่เจริญรุ่งเรืองแห่งพระพุทธศาสนาอย่างมาก เจริญไปข้างหน้าอย่างมาก พร้อมทั้งสถานที่ บุคคลากรพร้อมหมด

คือมันคงจะทำดีมากเกินไปหรือไงไม่แน่ใจ.?

อาตมานึกว่าอย่างนั้นดีมากเกินไปหรือไงไม่แน่ใจถึงได้มีปัญหาอย่างนี้ คณะสงฆ์ไม่ได้.. คือคณะสงฆ์น่ะยินดีสนับสนุนเขา

แต่ว่าทุกอย่างนั้นมันมีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไปเป็นของธรรมดาอย่างนี้แต่เราก็ต้องหาโอากาสแก้ไขในการที่ให้การคณะสงฆ์เรานั้นเป็นไปด้วยดี เธออย่าลืมว่าพระเรานี้มีหน้าที่ 2 อย่างคือการพระศาสนากับการคณะสงฆ์

การพระศาสนา ก็คือทำหน้าที่ของพระในทางพระพุทธศาสนา คือสวดมนต์ไหว้พระ เจริญจิตภาวนา ศึกษาเล่าเรียนไป

ส่วนงานคณะสงฆ์ เราก็ต้องปฏิบัติตามกฎกติกาที่เขากำหนดไว้คือมีลำดับขั้นในการปกครองมีเจ้าอาวาส มีเจ้าคณะตำบล ก็ว่ากันไปตามนั้น

แต่ว่ายอมรับว่า..

ที่วัดเขามีบุคคลากรที่มีความรู้มีความสามารถเยอะ แต่ถ้าหากเราควบคุมแล้วนี่น่าจะเป็นผลดีกับพระพุทธศาสนา แล้วก็อาจจะทำให้พระพุทธศาสนาเจริญด้วยซ้ำไป  

ไอ้การที่เขาทำแบบนี้ได้นี่คงจะเป็นจุดหนึ่งที่ให้คนเขา เอ้อ ..นี่มันดีเกินไปมั้งเอาซะเลยนะ.!


ขอบคุณข้อมูลและภาพ
รายการตอบโจทย์ ช่อง Thai PBS
ตอบโจทย์ครั้งแรก..เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีกรณีวัดพระธรรมกาย Full version ตอบโจทย์ครั้งแรก..เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีกรณีวัดพระธรรมกาย Full version Reviewed by สารธรรม on 08:55 Rating: 5

12 ความคิดเห็น:

  1. คนพาลราวีพระมิยอมเลิกลา ---ให้ร้ายพระพุทธศาสนาต่อเนื้อง---เร่งมาสวดธรรมจักรฯกันเนืองๆ---ขอ+บรมกุศลและสาธุชนสืบเนื้อง---ปกป้องรักษาพระพุทธศาสนา---******สาธุ นึกถึงหลวงปู่ด้วยใจใสๆ ด้วยบุญที่สวดธรรมจักรฯ และแผ่เมตตา ขอให้ผู้ที่ทำลายศาสนาพุทธกลับตัวกลับใจ ถ้ากลับไม่ได้ก็ขอให้แพ้ภัยตนเองไป อย่าได้มาเบียดเบียนกันเลย สาธุ

    ตอบลบ
  2. ท่านเจ้าคณะจ.ปทุม สมกับเป็นพระผู้ใหญ่ชั้นปกครองจริงๆ มีความเป็นกลาง ไม่เขวตามคำถามนำของพิธีกร ท่านมีมหาเมตตาจริงๆ ศาสนาพุทธยังอยู่ได้อีกนาน เพราะพระดียังมีอยู่

    ตอบลบ
  3. เราชาวไทยรักชาติศาสน์กษัตริย์
    เรายืนหยัดมุ่งมั่นไม่หวั่นไหว
    เราพี่น้องร่วมร้องเพลงชาติไทย
    เราจะได้ภูมิใจชาติไทยดี
    เราคนไทยรักชาติศาสน์กษัตริย์
    เราถือสัตย์เพื่อชาติเพื่อศักดิ์ศรี
    เราจะร่วมต่อสู้เป็นชาติพลี
    เราจะมีตำนานขานยาวไกล...

    ตอบลบ
  4. พุทธบุต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน เหมือนดวงตะวันที่มีดวงเดียว

    ตอบลบ
  5. ทางคณะสงฆ์ก็มีการปกครองแบบคณะสงฆ์ หากมีฆราวาสเข้าไปยุ่งเกี่ยวก็จะ ทำให้วุ่นวาย จริงไหมคะ

    ตอบลบ
  6. พระธรรมวินัยคือกฎหมายสูงสุดของสงฆ์

    ถึงแม้เมื่อครั้งพระพุทธเจ้ายังทรงพระชนชีพอยู่พระองค์ท่านก็ไม่เคยสึกพระรูปใดเลย

    ตอบลบ
  7. กราบแทบเท้ากราบนมัสการกราบขอบพระคุณที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีเข้าใจในหลวงพ่อธัมมชโยมาอย่างสุดซึ้งเจ้าค่ะ กราบนมัสการมาด้วยความเคารพอย่างสูงเจ้าค่ะ

    ตอบลบ
  8. กราบถวายความเคารพด้วยหัวใจ ท่านสมกับเป็นนักปกครอง. ได้รับความรู้จากคำตอบของท่าน. สาธุๆๆ

    ตอบลบ
  9. @ในชีวิตที่หลวงพ่อทั้งสองท่าน ได้สละแล้วเพื่อเดินตามแนวพระศาสดา เพื่อนำพาสรรพสัตว์ในภพสามนี้ ให้เป็นผู้รู้ทันกิเลส พาให้พ้นทุกข์. ท่านหรือจะมาคิดเล่นหุ้นแบบที่คนพาลคิดเอาให้เป็นให้ได้ กล่าวหาใส่ร้ายสนุกปาก. ขอบอกนะครับ หลวงพ่อเป็นเนื้อนาบุญที่แท้จริง แล้วพวกคุณจะมีกรรมหนักกันนะครับ ทีใช้วจีกรรมที่มิควร ลำพังคนศรัทธาเป็นหลายล้านคน รวยๆทั้งนั้น หลวงพ่อบอกให้ทำบุญก็ได้มามากมายอย่างอัศจรรย์ จำเป็นรึครับต้องไปเล่นหุ้นให้ได้มาซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะกำไรหรือขาดทุน

    ขอบอกให้เอาบุญและรับทราบกัน. เงินที่ชาวบ้านถวายมา แล้วที่ผ่านมา รึจะไม่มีนักเลงโตมาข่มขู่เอาเงินวัด แต่หลวงพ่อจัดออกไปให้ไม่ได้ เพราะหลวงพ่อไม่ได้ทำเพื่อให้ตัวท่านเองได้อยู่รอดจากการข่มขู่ ต้องขาดจากการเป็นเนื้อนาบุญที่แท้จริง ที่ต้องเบียดเอาเงินคนที่ทำบุญไปให้คนพาลเพื่อรักษาสถานะเพื่อให้ท่านตั้งอยู่แลัวหลอกหลวงกันต่อไป ท่านยึดมั่นแน่วแน่มั่นคงขนาดนี้นะครับ..ที่พลังศรัทธาจึงไม่มีถดถอยครับ ช่วยกันคิดดี คิดให้เป็น คิดตรงดังคำพระว่า ฐิตุชุกรรม

    ตอบลบ
  10. เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี เป็นพระผู้ใหญ่ที่น่านับถือมาก ท่านมีเมตตาธรรมสูง ตัดสินปัญหาด้วยเหตุผลโดยยึดหลักพระธรรมวินัยอย่างตรงไปตรงมา โดยไม่เห็นแก่ฝ่ายไหน กราบขอบพระคุณท่านมา ณ ที่นี่เป็นอย่างสูง กราบสาธุๆๆ

    ตอบลบ
  11. คิดดี. พูดดี. ทำดี. ได้ดี
    🙏🙏🙏

    ตอบลบ
  12. วัดทำแต่ความดี บริสุทธิ์ใจ เหมือนคนไม่มีแผล เชืิ้อโรคเข้าสู่ตัวไม่ได้เอย.

    ตอบลบ

ขับเคลื่อนโดย Blogger.